มันมาแล้ว-นักรบศรีวิชัย การ์ดหน้าโจรพธม.ที่ถูกจับตอนบุกยึดโทรทัศน์NBTได้ประกันออกจากคุกหมดทุกคน นายสนธิลิ้มได้เรียกระดมพลเป็นกองกำลังบุกยึดอุดรฯเป็นเมืองขึ้นให้ได้ในวัน ที่14ก.พ.นี้ โดยที่เจ้าของม็อบมีเส้นนั่งรอดูคนในชาติฆ่ากันแตกแยกเป็นเสี่ยงอย่างอำมหิต เลือดเย็น ส่วนผู้ว่าฯทำได้แค่กราบวิงวอน ให้เลิกมายั่วยุก็จะเลี่ยงเหตุนองเลือดได้
โดย ไทยอีนิวส์
8 กุมภาพันธ์ 2552
ผู้ ว่าอุดรฯหนักใจม็อบชั่วพันธมิตรระดมนักรบศรีวิชัย-การ์ดหน้าโจรบุกตีอุดร เป็นเมืองขึ้น ชี้ชัดหากพันธมิตรไม่รนหาที่ยกพวกมายั่งยุก็จะไม่มีเรื่อง วอนกลุ่มคนเสื้อเหลืองเลื่อนจัดงาน แต่ม็อบมีเส้นหยันเพราะทำชั่วขนาดยึดสนามบิน-ทำเนียบโดยไม่ถูกดำเนินคดีก็ ยังลุยมาแล้ว แค่บุกก่อเหตุหยามเสื้อแดงอุดรถือว่าเด็กๆ หากกองกำลังถูกตีแพ้ก็แค่ออกข่าวด่าเสื้อแดงถ่อยทำร้ายพธม.ผู้บริสุทธิ์ หากเสื้อแดงไม่ออกมาก็จะเหยียดหยามว่าใจป๊อด สรุปแล้วการรนหาที่ไปรุกรานเที่ยวนี้มีแต่ได้ เจ้าของม็อบได้เห็นประเทศแตกเป็นเสี่ยงแน่คราวนี้นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัยกรณีที่พันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย จะเดินทางไปทำกิจกรรมที่ จ.อุดรธานีในวันที่ 14 ก.พ.นี้ว่า ได้มีการประชุมในเบื้องต้น พยามที่จะให้ทั้งสองฝ่ายได้เข้าใจกัน ตนเป็นห่วงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยได้ขอให้พันธมิตรฯ หลีกเลี่ยงที่จะจัดงาน หรือชะลอเอาไว้ก่อนได้หรือไม่ ในขณะที่กลุ่มเสื้อแดงก็ได้มายื่นหนังสือผ่านไปถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีได้พูดจากับพันธมิตรฯ
นายอำนาจเผยว่า ขณะนี้ต่างฝ่ายต่างก็มีมวลชน มันยากต่อการดูแลที่ผ่านมาหลังจากที่ได้เชิญทั้งสองฝ่ายในพื้นที่ คุยกันในเบื้องต้นแล้วนั้น ส่วนราชการต่างๆ ฝ่ายความมั่นคง ก็ได้มีการประชุมกันเพื่อประเมินสถานการณ์ ซึ่งทางตำรวจได้มีการซ้อมแผนรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา
“ขณะนี้เราได้มีการติดตามสถานการณ์ทั้ง 2 ฝ่ายอย่างใกล้ชิด เป็นเรื่องที่น่าหนักใจ เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีการรณรงค์ให้สมาชิกของตนมาร่วมงานกัน ซึ่งทางจังหวัดจะมีการประชุมสรุปกันอีกครั้งในวันที่ 10-11 ก.พ.นี้ ในขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนซักซ้อม จำลองสถานการณ์ เพื่อดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ให้เกิดความรอบคอบ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีบทเรียนมาแล้ว เราจะมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ ต่อไป ตัวอย่างเช่น หากแกนนำเดินทางมาทางสนามบิน ถ้าเกิดมีการปิดล้อมขึ้นมาจะทำอย่างไร หรือ เหมือนกรณีที่ จ.ร้อยเอ็ด ที่มีการยึดพื้นที่ได้ก่อน จะต้องทำอย่างไร ซึ่งขณะนี้ได้มีการพูดคุยกันกับฝ่ายความมั่นคง ประสานกำลังกับหน่วยตำรวจดูแลมวลชน ประมาณ 1,500 นาย พร้อมทั้งเตรียมเครื่องมือปราบจลาจล วางแผน ซ้อมแผน ประเมิน สถานการณ์กันตลอด” นายอำนาจ กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดร กล่าวว่า อยากจะขอความร่วมมือกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ให้กระทำการท้าทาย ยั่วยุ เพื่อนำไปสู่สถานการณ์ความรุนแรง บ้านเมืองของเราบอบช้ำมามากแล้ว ควรจะมีสติ ไม่คิดที่จะเอาชนะคะคานกัน พร้อมทั้งวิงวอนสื่อมวลชนให้ช่วยกันด้วยอีกทางหนึ่ง เพราะสถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ต่างฝ่ายต่างก็ปลุกระดม เอามวลชนมาปลุกให้เกิดการต่อต้านกันมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่ามาตรการปราบปรามหากเกิดความรุนแรงขึ้น จะใช้วิธีการอย่างไร นายอำนาจ กล่าวว่า จะต้องนำบทเรียนจาก กทม.ไปใช้ด้วย ตามที่คณะกรรมการสิทธิ์ให้ข้อแนะนำ ในการสลายการชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ซึ่งขณะนี้ในส่วนของมวลชนเรายังไม่ทราบแน่ชัด คาดว่าจะสามารถคุมสถานการณ์ได้
“ในเบื้องแรกทางกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ขอใช้ทุ่งศรีเมือง แต่พื้นที่บริเวณนั้นยากต่อการรักษาความปลอดภัย หากไปใช้ที่หนองประจักษ์ฯ ก็สามารถที่จะดูแลรักษาความปลอดภัยได้ง่าย เพราะสามารถเข้าออกได้แค่สองประตู เราจะทำการบล๊อกถนน พร้อมกับประสานกับตำรวจ ให้ดูแลความปลอดภัยในเรื่องการตรวจเข้มอาวุธทุกชนิดเป็นพิเศษ รวมทั้งอุปกรณ์ตรวจระเบิด
“นอกจากนี้ก่อนที่จะมีงาน 4-5 วัน ก็จะมีการตั้งด่านสกัดรอบเมือง เพราะทราบข่าวว่ามีการประกาศให้หน่วยรักษาความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรฯ เข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก เราจึงได้ปรึกษาหารือกับฝ่ายความมั่นคง ให้ตั้งด่านคุมเข้ม สกัดการนำอาวุธเข้ามาในพื้นที่ทุกชนิด รวมทั้ง จะนำกำลังมาอยู่ในพื้นที่หนองประจักษ์ สนามบินอุดรธานี และบริเวณจุดรอบเมือง โดยจะต้องประเมินเพิ่มในระดับหนึ่ง หากมวลชนเพิ่มมากขึ้น ก็จะมีการเพิ่มกำลังเสริม จากจังหวัดใกล้เคียงทั้ง หนองบัวลำภู ขอนแก่น มหาสารคาม หนองคาย ซึ่งผู้บัญชาการภาค 4 ก็จะลงมาดูแลวางแผนระบบอย่างใกล้ชิด” นายอำนาจ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์ดังกล่าวต่อรัฐมนตรีแล้วหรือยัง นายอำนาจ กล่าวว่า ตนได้เข้าพบ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเรียบร้อยแล้ว เพื่อเข้ารายงานสถานการณ์ พร้อมกับทำหนังสือ คิดว่าหลังจากวันหยุดยาว นายบุญจง คงนำเรื่องดังกล่าวรายงานสถานการณ์ต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องนี้ฝ่ายการเมืองก็สั่งมาให้ดูแลว่าจะเจรจากันอย่างไร ซึ่งคำสั่งจากส่วนกลางก็คือการกำชับให้ดูแลพื้นที่ให้ดีที่สุด
“ผมหนักใจ แต่ก็ยังมีเวลาทำความเข้าใจกันอยู่ ต้องมีสติกัน ไม่สร้างให้เกิดความวุ่นวายให้เกิดขึ้นอีกในประเทศของเรา ซึ่งมันเป็นสถานการณ์ล่อแหลม ที่จะเกิดขึ้นอีก” นายอำนาจ กล่าว
นายอำนาจ กล่าวว่า ในส่วนของกลุ่มเสื้อแดงนั้น นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ได้ยืนยันว่า เขาจะอยู่ที่สถานีวิทยุของเขา ถ้าไม่มีการยั่วยุ ท้าทาย สถานการณ์ก็น่าจะผ่านไปด้วยดี
ทั้งนี้ เวบผู้จัการ กระบอกเสียงพันธมิตรรายงานว่า การจัดงานของพันธมิตรฯ ในวันที่ 14 ก.พ. 52 นั้น เป็นงานในลักษณะคอนเสิร์ตการเมือง โดยใช้ชื่องานว่า “14 กุมภาพันธ์ให้รักเราท่วมท้นประเทศไทย : ร่วมสร้างการเมืองใหม่ที่อุดรธานี” มีการปราศรัยของแกนนำพันธมิตรฯ สลับกับการแสดงดนตรี เริ่มงานตั้งแต่ 16.00 น. ไปจนสว่าง โดยไม่ได้เคลื่อนย้ายมวลชนไปไหน
แต่ภายหลังจากพันธมิตรฯ ประกาศจัดงานดังกล่าว นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดรฯ ซึ่งเป็น 1 ในกลุ่มคนเสื้อแดงได้ประกาศว่าจะระดมคนเสื้อแดง 2 แสนคนออกมาต่อต้านพันธมิตรฯ ไม่ให้จัดงานดังกล่าว แต่ถ้าหากยังไปจัดงาน ก็จะเกิดความรุนแรงเหมือนวันที่ 24 ก.ค.2551 ที่ กลุ่มของนายขวัญชัยทำร้ายพันธมิตรฯ อุดรธานีที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ จนมีผู้บาดเจ็บสาหัสหลายราย ซึ่งขณะนี้ศาลจังหวัดอุดรธานีได้รับฟ้องคดีไว้แล้ว
เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา นายอำนาจ ในฐานะ ผู้ว่าฯ อุดรธานีได้เรียกประชุมแกนนำพันธมิตรฯ อุดรธานีและนายขวัญชัย แทนที่นายอำนาจจะขอร้องไม่ให้นายขวัญชัยเข้าไปก่อกวนการจัดกิจกรรมของ พันธมิตรฯ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานตามปกติและไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายมวลชนไปที่ ใด แต่นายอำนาจกลับขอร้องฝ่ายพันธมิตรฯ ให้เลื่อนการจัดงาน โดยอ้างว่าการจัดงานดังกล่าวจะทำให้เกิดความขัดแย้ง อย่างไรก็ตามเมื่อนายเจริญ หมู่ขจรพันธุ์ แกนนำพันธมิตรฯ อุดรธานียืนยันว่าไม่สามารถเลื่อนได้ เพราะได้มีการเตรียมงานไว้แล้ว นายอำนาจจึงรับปากว่าจะจัดกำลังตำรวจทหารมารักษาความปลอดภัยให้
นอกจากนี้ นายขวัญชัยยังได้กล่าวในที่ประชุมเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ว่า แม้ว่ากลุ่มคนรักอุดรจะรักประชาธิปไตยและรักความสงบแต่ตนไม่สามารถควบคุม สมาชิกที่มีอยู่ทั้งหมดได้ ซึ่งเป็นการข่มขู่กลายๆ ว่าจะปล่อยให้สมาชิกคนรักอุดรฯ ใช้ความรุนแรงกับพันธมิตรฯ แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีกลับไม่ได้ปรามนายขวัญชัยเรื่องนี้แต่อย่าง ใด ทั้งที่สามารถบอกให้นายขวัญชัยใช้เครือข่ายวิทยุชุมชนของกลุ่มคนรักอุดรทำ ความเข้าใจกับสมาชิกได้
กระบอกเสียงพันธมิตรแจ้งว่า การที่กลุ่มของนายขวัญชัยมีท่าทีข่มขู่การจัดงานพันธมิตรฯ ทำให้พันธมิตรฯ จากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศประกาศจะเดินทางมาร่วมงานที่จังหวัดอุดรธานีจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มการ์ดพันธมิตรฯ จากจังหวัดในภาคใต้ เช่น ภูเก็ต จะเดินทางมาเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับงานครั้งนี้ด้วย
มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้จัดประชุมซักซ้อมนักรบศรีวิชัย และการ์ดฮาร์ดคอร์ ที่บ้านพระอาทิตย์
มี การส่งโทรสาร โทรศัพท์ จดหมายเรียก ให้เหล่านักรบมารายงานตัว การเตรียมการยกกำลังไปตีอุดรให้เป็นเมืองขึ้นของพันธมิตรให้ได้ เพื่อหยามว่าสามารถไปทุกจังหวัดในประเทศ โดยหากกองกำลังของนายสนธิสู้ไม่ไหวถูกทำร้ายก็จะออกข่าวว่าเสื้อแดงถ่อยทำ ร้ายพธม.ผู้รักสงบ แต่หากกลุ่มเสื้อแดงไม่ออกมาทำร้ายก็จะออกข่าวว่า พวกเสื้อแดงใจไม่ถึง และประกาศปักธงยึดอุดรไว้ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นพฤติกรรมยั่วยุอย่างไม่เห็นบ้านเมืองมีขื่อแป ก็เพราะว่าไม่มีการจัดการดำเนินคดีใดๆกับพันธมิตรเลยในช่วงที่ผ่านมา แม้มีพฤติการณ์ทั้งยึดเอ็นบีที ทำเนียบรัฐบาล และสนามบินมาแล้วก็ตาม