ประชาไท
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ กรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คณะทำงานฝ่ายการเมือง พรรคเพื่อไทย และผู้ดำเนินรายการดีสเตชั่น ระบุรัฐบาลร่วมมือกับกองทัพ ใช้งบลับของกองทัพจำนวน 2 พันล้านบาท ทำโครงการย่อยสลายมวลชนเสื้อแดงทั่วประเทศว่า ยืนยันว่าไม่มีโครงการดังกล่าว แต่โครงการที่กองทัพบกกำลังทำคือ โครงการสู้วิกฤตเศรษฐกิจด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยฝึกอบรมกำลังพลของกองทัพบกเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีสื่อมวลชนไปทำข่าว ไม่ได้เป็นเรื่องลับหรือปกปิดแต่อย่างใด เพียงแต่ว่ามันถูกโยงเข้ามาเป็นประเด็นทางการเมือง
พ. อ.สรรเสริญกล่าวว่า ปัจจุบันประเทศมีปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน กองทัพจึงนำเอาศักยภาพของกองทัพในยามปกติมาช่วยเสริมงานในภาคพลเรือน สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกพื้นที่ ทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ ให้มีความเข้าใจในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้สามารถต่อสู้ฟันฝ่าวิกฤตเรื่องปากท้องไปได้ และไม่ได้ทำเองทั้งหมด แต่ประสานงานกับหน่อยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเรื่องแหล่งน้ำ และที่ดิน ก็ต้องไปตามผู้เกี่ยวข้องมาช่วยด้วย ปัจจุบันก็มีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่อยู่ โดยจะลงพื้นที่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ไปถึงเดือนสิงหาคม
"ขอ ย้ำว่านโยบายหลักของกองทัพบก คือเราสนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั่วประเทศ แล้วโครงการทั้งหลายเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของคุณภาพชีวิตของประชาชน เป็นเรื่องปากท้อง เรื่องการกินอยู่ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางหลักในการขับ เคลื่อนโครงการ เพราะเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ กองทัพจึงเอาตรงนี้มาขยายผล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องประเด็นการเมือง กองทัพเป็นกลไก เป็นเครื่องมือสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาลในการบริหารงาน ไม่ใช่สนองตอบในเรื่องการเมือง" โฆษกกองทัพบกกล่าว
เมื่อถามว่า งบประมาณดำเนินการโครงการดังกล่าว เป็นงบลับ 2 พัน ล้านบาท อย่างที่ฝ่ายค้านระบุหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า งบประมาณดำเนินการเรื่องนี้ ไม่แน่ใจว่ามันอยู่ในหมวดรายการอะไร แต่ไม่ใช่ 2 พันล้านบาทอย่างที่ระบุแน่นอน
"ผม ไม่แน่ใจว่างบใช้จำนวนเท่าไหร่ แต่ขอเรียนว่า งบที่เราไปทำ เราคิดเฉพาะค่าเบี้ยเลี้ยงกำลังพล ที่ลงไปปฏิบัติงานในหมู่บ้านเท่านั้น และใช้หมู่บ้านละหลักพันบาทเท่านั้น การดำเนินงานเรื่องนี้ มีแต่ค่าเบี้ยเลี้ยงกำลังพล และค่าน้ำมัน ในการเดินทางไปในพื้นที่ที่รับผิดชอบเท่านั้น และไม่ได้เลือกทำในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่ทำทุกพื้นที่ ทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ" โฆษกกองทัพบกกล่าว
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวพร้อมหัวเราะถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ อ้างว่ากองทัพบกใช้งบลับ 2 พันล้านบาท เพื่อล้มล้างระบอบทักษิณว่า "ไม่มี ไม่มีหรอก งบลับอะไร 2 พันล้าน ผมไม่เห็นมีหรอก"
"สุเทพ" ยันไม่ใช้เงินทำลายเสื้อแดง
นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ "มติชน" ถึงเรื่องเดียวกันว่า เรื่องนี้จบได้เลย ขอยืนยันดังนี้ 1.ไม่มีงบลับถึง 2 พันล้านบาทอย่างที่เป็นข่าว 2.รัฐบาลไม่มีความคิดที่จะเอางบประมาณไปทำลายล้างกลุ่มคนเสื้อแดงตามที่กล่าวหา และ 3.รัฐบาล นี้มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะรักษาชาติ สถาบัน ศาสนา พระมหากษัตริย์ ดังนั้น การปฏิบัติที่จะนำไปสู่ความมั่นคงของประเทศก็จะทำกันภายในทั้งที่เป็น พลเรือนและทหาร โดยใช้งบประมาณตามปกติ ที่จะต้องนำไปสนับสนุนทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น
"โครงการ ดังกล่าวทางรัฐบาลมีจริง แต่ไม่ใช่งบลับ เพราะมีหลายกระทรวงที่จะต้องช่วยกันทำ เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุขเรียบร้อย และขอยืนยันว่าเงินงบประมาณดังกล่าวไม่ได้หวังเพื่อมาล้างสมองกลุ่มคนเสื้อ แดง" นายสุเทพกล่าว
โฆษกประชาธิปัตย์ระบุ ไม่เคยพาดพิงสถาบันสูงสุดของชาติ เพื่อประโยชน์ทางการเมือง
ที่ ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า คำพูดของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คณะทำงานฝ่ายการเมือง พรรคเพื่อไทย ที่กล่าวหารัฐบาลจับมือกองทัพใช้งบประมาณ 2,000 ล้าน บาท ทำแผนงานเสริมสร้างสมานฉันท์โดยอ้างสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง และมีจุดประสงค์แอบแฝงเพื่อหวังทำลายคนเสื้อแดงนั้น ถือเป็นการจงใจใส่ร้ายโดยไม่ละอาย ที่ส่งผลกระทบถึงสถาบันที่อยู่เหนือความขัดแย้ง ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยและไม่มีวันใช้วิธีการเดียวกับพรรคเพื่อ ไทยพาดพิงสถาบันสูงสุดของชาติ หรือสถาบันอื่นๆ เพื่อหวังประโยชน์ทางการเมือง
นพ. บุรณัชย์กล่าวว่า อยากให้นายณัฐวุฒิกลับไปดูเหตุการณ์ที่ผ่านมาของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อ ต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ทั้งกรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่มีการจับกุม น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ "ดา ตอร์ปิโด" และนายสุชาติ นาคบางไทร รวมถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงบางคนตะโกนว่า "ทักษิณจงเจริญ" จนถูกจับดำเนินคดีว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนายณัฐวุฒิ เคยสำนึกผิดและรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสถาบันสูงสุดของชาติบ้าง หรือไม่
"ถ้า คิดว่าการดำเนินงานเพื่อปกป้องเทิดทูนสถาบันอันเป็นที่เคารพ เป็นการกำจัดฝ่ายตรงข้ามของพรรคประชาธิปัตย์ ก็อยากบอกว่าใครก็ตามที่ดึงสถาบันเข้ามาเพื่อหวังให้เกิดความขัดแย้งทางการ เมือง ถือเป็นศัตรูของคนไทยทั้งประเทศ" นพ.บุรณัชย์กล่าว และว่า รู้สึกแปลกใจเพราะจุดประสงค์ของแผนงานดังกล่าว เน้นเรื่องการปกป้องสถาบัน ทำไมนายณัฐวุฒิจึงไม่เห็นด้วย
"เพื่อไทย" จวกกองทัพครองเมือง
นาย พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ขอยืนยันว่า งบฯดังกล่าวมีแน่นอน โดยเริ่มดำเนินการไปตั้งแต่เดือนมกราคม และจะเร่งใช้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พร้อมกับมีการโยกย้ายนายตำรวจ และต่อไปจะโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อล้างระบอบทักษิณและเตรียมพร้อมการเลือกตั้ง
"ชี้ ให้เห็นว่าเป็นยุคกองทัพครองเมืองคือ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ต่างเสนอโครงการจัดซื้อยุทธปกรณ์ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ทราบว่ากองทัพบอกเสนอจัดซื้อรถถังและเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ กองทัพเรือ เสนอจัดซื้อเรือรบและเรือดำน้ำ และกองทัพอากาศเสนอจัดซื้อเครื่องบินกริฟเพนอีก 1 ฝูง ทั้งหมดใช้งบประมาณนับหมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันรัฐบาลเตรียมที่จะขอเงินประจำตำแหน่งนายทหารชั้นสัญญาบัตร เพื่อนำเงินเข้าคลัง ตอนนี้อยู่ในช่วงหารือ ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลปากดีไม่มีกึ๋น จนประเทศชาติต้องตกอยู่ในภาวะถังแตกหลังจากเร่งแจกเงินตามนโยบายประชานิยม" นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงงบฯลับของกองทัพ 2 พัน ล้านบาท เพื่อใช้สร้างความสมานฉันท์ว่า เป็นลักษณะการดำเนินการเช่นเดียวกับสมัยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เพื่อหวังหาประโยชน์จากการใช้งบประมาณ เพราะพิจารณาเนื้อหายุทธศาตร์ เป็นการทำลายล้างพรรคเพื่อไทยโดยตรง หากเป็นไปตามที่อ้างว่าต้องการสร้างความสมานฉันท์ ทำไมต้องทำเป็นงบฯลับ ไม่เปิดเผยให้ประชาชนรับรู้ เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า กองทัพเป็นผู้ปกครองรัฐบาล ไม่ใช้รัฐบาลปกครองกองทัพอย่างที่เข้าใจ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คณะทำงานฝ่ายการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนมีข้อมูลถึงการใช้งบฯลับของรัฐบาลกับกองทัพ ประมาณ 2,000 ล้าน บาท เพื่อกำหนดเป้าหมายเฉพาะกลุ่มบุคคลที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองกับรัฐบาล คำถามคือรัฐบาล นายกฯ และ นายสุเทพ ทำไมต้องปิดลับ และต้องโฟกัสเป้าหมายที่กลุ่มคนเสื้อแดง ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารทำให้เชื่อว่า รัฐบาลจับมือผู้บัญชาการเหล่าทัพบางคนกำจัดฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล โดยอ้างอิงสถาบันเบื้องสูง
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า น่าสังเกตว่าตารางเวลาการดำเนินโครงการ น่าสนใจมีส่วนสัมพันธ์กับกรณีที่นายสุเทพ ออกมาพูดเรื่อง ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความต้องการเป็นประธานา ธิบดี ตนได้สอบถามพี่น้องเสื้อแดง ในส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน ทราบว่ากองกำลังของเหล่าทัพ และกอ.รมน.ได้ลงพื้นที่ไปพบปะพูดคุยกับประชาชน เข้าใจว่าคือภารกิจนี้ใช่หรือไม่
.......................................
ที่มา: เว็บไซต์มติชนออนไลน์ และเว็บไซต์เดลินิวส์
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ กรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คณะทำงานฝ่ายการเมือง พรรคเพื่อไทย และผู้ดำเนินรายการดีสเตชั่น ระบุรัฐบาลร่วมมือกับกองทัพ ใช้งบลับของกองทัพจำนวน 2 พันล้านบาท ทำโครงการย่อยสลายมวลชนเสื้อแดงทั่วประเทศว่า ยืนยันว่าไม่มีโครงการดังกล่าว แต่โครงการที่กองทัพบกกำลังทำคือ โครงการสู้วิกฤตเศรษฐกิจด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยฝึกอบรมกำลังพลของกองทัพบกเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีสื่อมวลชนไปทำข่าว ไม่ได้เป็นเรื่องลับหรือปกปิดแต่อย่างใด เพียงแต่ว่ามันถูกโยงเข้ามาเป็นประเด็นทางการเมือง
พ. อ.สรรเสริญกล่าวว่า ปัจจุบันประเทศมีปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน กองทัพจึงนำเอาศักยภาพของกองทัพในยามปกติมาช่วยเสริมงานในภาคพลเรือน สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกพื้นที่ ทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ ให้มีความเข้าใจในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้สามารถต่อสู้ฟันฝ่าวิกฤตเรื่องปากท้องไปได้ และไม่ได้ทำเองทั้งหมด แต่ประสานงานกับหน่อยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเรื่องแหล่งน้ำ และที่ดิน ก็ต้องไปตามผู้เกี่ยวข้องมาช่วยด้วย ปัจจุบันก็มีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่อยู่ โดยจะลงพื้นที่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ไปถึงเดือนสิงหาคม
"ขอ ย้ำว่านโยบายหลักของกองทัพบก คือเราสนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั่วประเทศ แล้วโครงการทั้งหลายเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของคุณภาพชีวิตของประชาชน เป็นเรื่องปากท้อง เรื่องการกินอยู่ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางหลักในการขับ เคลื่อนโครงการ เพราะเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ กองทัพจึงเอาตรงนี้มาขยายผล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องประเด็นการเมือง กองทัพเป็นกลไก เป็นเครื่องมือสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาลในการบริหารงาน ไม่ใช่สนองตอบในเรื่องการเมือง" โฆษกกองทัพบกกล่าว
เมื่อถามว่า งบประมาณดำเนินการโครงการดังกล่าว เป็นงบลับ 2 พัน ล้านบาท อย่างที่ฝ่ายค้านระบุหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า งบประมาณดำเนินการเรื่องนี้ ไม่แน่ใจว่ามันอยู่ในหมวดรายการอะไร แต่ไม่ใช่ 2 พันล้านบาทอย่างที่ระบุแน่นอน
"ผม ไม่แน่ใจว่างบใช้จำนวนเท่าไหร่ แต่ขอเรียนว่า งบที่เราไปทำ เราคิดเฉพาะค่าเบี้ยเลี้ยงกำลังพล ที่ลงไปปฏิบัติงานในหมู่บ้านเท่านั้น และใช้หมู่บ้านละหลักพันบาทเท่านั้น การดำเนินงานเรื่องนี้ มีแต่ค่าเบี้ยเลี้ยงกำลังพล และค่าน้ำมัน ในการเดินทางไปในพื้นที่ที่รับผิดชอบเท่านั้น และไม่ได้เลือกทำในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่ทำทุกพื้นที่ ทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ" โฆษกกองทัพบกกล่าว
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวพร้อมหัวเราะถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ อ้างว่ากองทัพบกใช้งบลับ 2 พันล้านบาท เพื่อล้มล้างระบอบทักษิณว่า "ไม่มี ไม่มีหรอก งบลับอะไร 2 พันล้าน ผมไม่เห็นมีหรอก"
"สุเทพ" ยันไม่ใช้เงินทำลายเสื้อแดง
นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ "มติชน" ถึงเรื่องเดียวกันว่า เรื่องนี้จบได้เลย ขอยืนยันดังนี้ 1.ไม่มีงบลับถึง 2 พันล้านบาทอย่างที่เป็นข่าว 2.รัฐบาลไม่มีความคิดที่จะเอางบประมาณไปทำลายล้างกลุ่มคนเสื้อแดงตามที่กล่าวหา และ 3.รัฐบาล นี้มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะรักษาชาติ สถาบัน ศาสนา พระมหากษัตริย์ ดังนั้น การปฏิบัติที่จะนำไปสู่ความมั่นคงของประเทศก็จะทำกันภายในทั้งที่เป็น พลเรือนและทหาร โดยใช้งบประมาณตามปกติ ที่จะต้องนำไปสนับสนุนทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น
"โครงการ ดังกล่าวทางรัฐบาลมีจริง แต่ไม่ใช่งบลับ เพราะมีหลายกระทรวงที่จะต้องช่วยกันทำ เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุขเรียบร้อย และขอยืนยันว่าเงินงบประมาณดังกล่าวไม่ได้หวังเพื่อมาล้างสมองกลุ่มคนเสื้อ แดง" นายสุเทพกล่าว
โฆษกประชาธิปัตย์ระบุ ไม่เคยพาดพิงสถาบันสูงสุดของชาติ เพื่อประโยชน์ทางการเมือง
ที่ ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า คำพูดของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คณะทำงานฝ่ายการเมือง พรรคเพื่อไทย ที่กล่าวหารัฐบาลจับมือกองทัพใช้งบประมาณ 2,000 ล้าน บาท ทำแผนงานเสริมสร้างสมานฉันท์โดยอ้างสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง และมีจุดประสงค์แอบแฝงเพื่อหวังทำลายคนเสื้อแดงนั้น ถือเป็นการจงใจใส่ร้ายโดยไม่ละอาย ที่ส่งผลกระทบถึงสถาบันที่อยู่เหนือความขัดแย้ง ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยและไม่มีวันใช้วิธีการเดียวกับพรรคเพื่อ ไทยพาดพิงสถาบันสูงสุดของชาติ หรือสถาบันอื่นๆ เพื่อหวังประโยชน์ทางการเมือง
นพ. บุรณัชย์กล่าวว่า อยากให้นายณัฐวุฒิกลับไปดูเหตุการณ์ที่ผ่านมาของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อ ต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ทั้งกรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่มีการจับกุม น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ "ดา ตอร์ปิโด" และนายสุชาติ นาคบางไทร รวมถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงบางคนตะโกนว่า "ทักษิณจงเจริญ" จนถูกจับดำเนินคดีว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนายณัฐวุฒิ เคยสำนึกผิดและรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสถาบันสูงสุดของชาติบ้าง หรือไม่
"ถ้า คิดว่าการดำเนินงานเพื่อปกป้องเทิดทูนสถาบันอันเป็นที่เคารพ เป็นการกำจัดฝ่ายตรงข้ามของพรรคประชาธิปัตย์ ก็อยากบอกว่าใครก็ตามที่ดึงสถาบันเข้ามาเพื่อหวังให้เกิดความขัดแย้งทางการ เมือง ถือเป็นศัตรูของคนไทยทั้งประเทศ" นพ.บุรณัชย์กล่าว และว่า รู้สึกแปลกใจเพราะจุดประสงค์ของแผนงานดังกล่าว เน้นเรื่องการปกป้องสถาบัน ทำไมนายณัฐวุฒิจึงไม่เห็นด้วย
"เพื่อไทย" จวกกองทัพครองเมือง
นาย พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ขอยืนยันว่า งบฯดังกล่าวมีแน่นอน โดยเริ่มดำเนินการไปตั้งแต่เดือนมกราคม และจะเร่งใช้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พร้อมกับมีการโยกย้ายนายตำรวจ และต่อไปจะโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อล้างระบอบทักษิณและเตรียมพร้อมการเลือกตั้ง
"ชี้ ให้เห็นว่าเป็นยุคกองทัพครองเมืองคือ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ต่างเสนอโครงการจัดซื้อยุทธปกรณ์ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ทราบว่ากองทัพบอกเสนอจัดซื้อรถถังและเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ กองทัพเรือ เสนอจัดซื้อเรือรบและเรือดำน้ำ และกองทัพอากาศเสนอจัดซื้อเครื่องบินกริฟเพนอีก 1 ฝูง ทั้งหมดใช้งบประมาณนับหมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันรัฐบาลเตรียมที่จะขอเงินประจำตำแหน่งนายทหารชั้นสัญญาบัตร เพื่อนำเงินเข้าคลัง ตอนนี้อยู่ในช่วงหารือ ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลปากดีไม่มีกึ๋น จนประเทศชาติต้องตกอยู่ในภาวะถังแตกหลังจากเร่งแจกเงินตามนโยบายประชานิยม" นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงงบฯลับของกองทัพ 2 พัน ล้านบาท เพื่อใช้สร้างความสมานฉันท์ว่า เป็นลักษณะการดำเนินการเช่นเดียวกับสมัยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เพื่อหวังหาประโยชน์จากการใช้งบประมาณ เพราะพิจารณาเนื้อหายุทธศาตร์ เป็นการทำลายล้างพรรคเพื่อไทยโดยตรง หากเป็นไปตามที่อ้างว่าต้องการสร้างความสมานฉันท์ ทำไมต้องทำเป็นงบฯลับ ไม่เปิดเผยให้ประชาชนรับรู้ เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า กองทัพเป็นผู้ปกครองรัฐบาล ไม่ใช้รัฐบาลปกครองกองทัพอย่างที่เข้าใจ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คณะทำงานฝ่ายการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนมีข้อมูลถึงการใช้งบฯลับของรัฐบาลกับกองทัพ ประมาณ 2,000 ล้าน บาท เพื่อกำหนดเป้าหมายเฉพาะกลุ่มบุคคลที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองกับรัฐบาล คำถามคือรัฐบาล นายกฯ และ นายสุเทพ ทำไมต้องปิดลับ และต้องโฟกัสเป้าหมายที่กลุ่มคนเสื้อแดง ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารทำให้เชื่อว่า รัฐบาลจับมือผู้บัญชาการเหล่าทัพบางคนกำจัดฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล โดยอ้างอิงสถาบันเบื้องสูง
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า น่าสังเกตว่าตารางเวลาการดำเนินโครงการ น่าสนใจมีส่วนสัมพันธ์กับกรณีที่นายสุเทพ ออกมาพูดเรื่อง ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความต้องการเป็นประธานา ธิบดี ตนได้สอบถามพี่น้องเสื้อแดง ในส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน ทราบว่ากองกำลังของเหล่าทัพ และกอ.รมน.ได้ลงพื้นที่ไปพบปะพูดคุยกับประชาชน เข้าใจว่าคือภารกิจนี้ใช่หรือไม่
.......................................
ที่มา: เว็บไซต์มติชนออนไลน์ และเว็บไซต์เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น