CBOX เสรีชน

08 เมษายน, 2552

ภาพเหล่านี้..จะเป็นหลักฐานแสดงความเชื่อมโยงของขบวนการล้มรัฐบาลทักษิณ

ตอนแรกว่าจะตั้งกระทู้เกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างการวางแผนในการโค่นล้มรัฐบาลทักษิณ กับกลุ่มบุคคลที่ถูกเอ่ยชื่อต่าง ๆ โดยมีพยานที่ให้การ เช่น คุณจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตปลัดยุติธรรม ที่ขึ้นเวทีเสื้อแดงวันก่อน (น้องชาย พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ ที่ถูก พล.อ.สุรยุทธ์ และ จำลอง ศรีเมือง บีบให้ลาออกจาก กกต. ได้ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง แถมยังมีจดหมายจาก พล.อ.วินัย อดีต เลขา คมช. ได้ส่งจดหมายขอตัว ให้ นายจรัญ ภักดีธนากุล ให้ไปเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมแทน)

แต่เห็นกระทู้ของสมาชิก ได้รับการโหวตเป็นกระทู้แนะนำแล้ว จึงเห็นว่า จะตั้งกระทู้เพื่อเพิ่มข้อมูลให้แก่สมาชิกราชดำเนินและผู้สนใจทั่วไป ได้เห็นความเกี่ยวพันของกลุ่มบุคคลเหล่านี้

เริ่มจาก ภาพความสัมพันธ์ระดับหนึ่งของ ปีย์ มาลากุลกับ พล.อ.สุรยุทธ์

รูปนี้ถ่ายเมื่อ ปี 2544

-----------------------------

เพิ่มเติมกระทู้นะครับ พอดีเห็นข่าวนี้

" พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าว ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวพาดพิง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ อยู่เบื้องหลังการทำปฏิวัติรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ว่า พล.อ.เปรม ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่หากนำไปขยายจะไม่จบ ตอนนี้ต้องให้สังคมเป็นผู้ตัดสิน ไม่อยากออกความเห็นอะไร ทั้งนี้ตนไม่เข้าใจว่าทำไมยุคนี้ถึงได้นำสถาบันองคมนตรีมาโจมตี อย่างไรก็ตามต้องให้เวลา และความจริงเป็นเครื่องตัดสิน เราคงไปห้ามไม่ให้ใครพูดไม่ได้



“ที่ ผ่านมาคนไทยไม่เคยเป็นแบบนี้ และไม่เคยมีสภาพเป็นแบบนี้ และไม่เคยดึงองคมนตรีมาโจมตีทางการเมือง ผมเห็นว่าคนที่ไม่พอใจอะไรแล้วมาพูดประกาศหาว่าตัวเองถูกไปหมด เรื่องนี้ต้องให้สังคมตัดสินใจ แต่ถ้าหากสถานการณ์บ้านเมืองเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ บ้านเมืองก็จะเกิดความยุ่งยากไม่มีวันจบ” พล.อ.พงษ์เทพ กล่าว

“พล. อ.เปรม โดนมาหนักกว่านี้มาก ตอนนี้ท่านไม่ได้วิตกกับการถูกโจมตี แต่ท่านเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง และประชาชนมากกว่า เพราะหวั่นว่าจะเกิดความขัดแย้งมากขึ้น ดังนั้นอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทบทวนการกระทำ เพราะยิ่งโฟนอินโจมตีคนนั้นคนนี้ จะยิ่งเป็นการทำลายชาติบ้านเมือง ส่วนการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้ น่าจะมีเงื่อนงำเพื่อต้องการหวังคืนอำนาจของตัวเอง เพราะตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำรงแหน่งนายกรัฐมนตรี 5-6 ปี ได้สะสมบารมีไว้มาก แต่เมื่อวันหนึ่งอำนาจที่มีอยู่ถูกลบก็คงรับไม่ได้ ตอนนี้จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อต้องการอำนาจคืนเท่านั้น”

---------------

นี่แหละครับ "ลูกป๋า" มาคิดแทนป๋า... มีแต่คิดดูถูกว่า ที่ประชาชนเขาออกมาเรียกร้อง เพื่อให้ทักษิณคืนอำนาจ มันเป็นความคิดที่ผิดพลาดอย่างมาก เพราะประชาชน เขาเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม เลิกยุ่งกับการเมือง โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร

สถาบันองคมนตรี ถ้านั่งอยู่เฉย ๆ คนเขาไม่ไปด่าหรอกครับ แต่มีคนบางคน อาศัยคราบความเป็นองคมนตรี เข้าไปยุ่งการเมืองทั้งทางตรงและทางอ้อม

ยิ่งพล.อ.เปรม ท่านเป็นประธานองคมนตรี ที่ไม่สมควรจะไปนั่งเป็นประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพ, รวมถึงเครือโรงแรมดุสิตธานี ที่มีผลประโยชน์อื่น ๆ มากมายทั้งในและนอกประเทศแล้ว ก็ต้องบอกว่า ท่่านลงมาเล่นเอง ทักษิณหรือประชาชน ไม่ได้ดึงท่านลงมา

หม่อมคึกฤทธิ์เคยบอกไว้อย่างไร เมื่อก่อนผมฟังหูไว้หู จนทุกวันนี้เชื่อแล้วว่าที่คุณชายท่านพูดไว้มันเป็นความจริง

ประวัติศาสตร์มันไม่หายไปไหนหรอกครับ สำคัญอยู่ที่ว่า จะมีคนพูดมันขึ้นมาหรือเปล่า

อย่างเมื่อก่อน นักวิชาการ 99 คน ที่ไปถวายฎีกาถอดถอน พล.อ.เปรมจากตำแหน่งนายก ฯ ผมเคยดูรายชื่อ จำได้ว่า มีปราโมทย์ นาครทรรพ, ชัยอนันต์ สมุทวณิช, ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ, บวรศักดิ์ อุวรรโณด้วย

ต่อมา คนพวกนี้ก็อย่างที่พวกเรารู้กัน จนเมื่อคืน ผมมานั่งฟัง ดร.วรพล พรมมิกบุตร ท่านก็บอกว่า เครือข่ายพวกนี้ มีอยู่

1). นายทหารลูกป๋า ซึ่งคงต้องยกเว้น พล.อ.มงคล (บิ๊งหมง) เพราะ บิ๊กหมง กลุ่มลูกป๋าอื่น ๆ เขาหาว่าไปสนิทกับ ดร.ทักษิณมากไป,

เพิ่มเติม: ที่บอกว่า ป๋าเปรม ไม่ต้องการที่จะฟ้องทักษิณข้อหาหมิ่นประมาท ผมเห็น พล.อ.เปรม, บิ๊กหมง, และใครต่อใครอีกหลายคน ฟ้องหมิ่นประมาทนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เพราะประชัย ไปพูดว่าทั้งหมดนั้น เขาเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทีพีไอ

นั่นก็แสดงว่า พล.อ.เปรม ท่านสามารถฟ้องชาวบ้านได้เช่นกัน

จึงเป็นการแย้งต่อคำพูดของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือ "ลูกหลานป๋า" ที่ว่า พล.อ.เปรม ไม่อยู่ในฐานะที่จะออกมาแก้ข้อกล่าวหาได้


2). กลุ่มนายทุน ซึ่งที่เห็น ๆ ก็คือ กลุ่มธนาคารกรุงเทพ ที่เคยเอาโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัฏ มาเป็นรองนายก ฯ สมัยขิงแก่ และรวมถึงเครือดุสิตธานี (ที่ทำทั้งวิทยาลัยดุสิตธานี, โรงแรมเครือดุสิต, ดุสิตรีสอร์ท, โรงเรียนนานาชาติ) วันนี้เห็นว่า ธ.กรุงเทพ มีหนี้เน่าเพิ่มจาก 4.5% เป็น 5% แล้ว

เพิ่มเติม: ฟังอภิปรายไม่ไว้วางใจ คุณหญิงกัลยา ลุกขึ้นมาบอกว่า "เช็คธนาคารกรุงเทพแล้วมันหนักหัวใคร"

ผมอยากให้คุณหญิงลงพิจารณาดูว่า ชาวบ้านที่ไปรับเช็ค ต่างด่าเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำไมต้องพิมพ์เช็ค, ทำไมไม่โอนเข้าบัญชีโดยตรง ประหยัดกว่าทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

เช็คใบละ 2 บาท, คูณจำนวนเช็ค 8 ล้านใบ = 19 ล้านบาท

ถามว่าธนาคารกรุงเทพได้ไปเท่าไหร่

เงินนั่นเป็นเงินของประชาชน...ฉะนั้น มันจึงหนักหัวประชาชนครับ

3). กลุ่มนักวิชาการ อันนี้พูดไปแล้วว่ามีใครบ้าง

4). กลุ่มสื่อโทรทัศน์ วิทยุ (ก็รวมทั้ง ASTV, พวกสำราญ รอดเพชร, เครือเนชั่น)

ความจริงแล้ว ป๋าเปรม มีเครือข่ายมากมาย แต่ท่านไม่ได้ตั้งตนในฐานะการดำรงความยุติธรรม ทำให้ลูก ๆ หลาน ๆ ท่านมาทะเลาะกันวุ่นวาย แล้วท่านก็ไม่ห้ามปราม ไปฟังคำยุแหย่ของอีกกลุ่มหนึ่ง

อย่างมีรายงานว่า พล.อ.อู๊ด เบื้องบน ทส. ของป๋าเปรม ก็เป็นญาติห่าง ๆ กับ คุณหญิงพจมาน ที่เป็นคนประสานให้ คุณหญิงไปพบป๋าเปรมที่บ้านพักตอนกลับจากต่างประเทศ

ผมนั่่งดูเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น จึงอยากจะบอกว่า นี่มันเป็นผลกรรมของการที่ "หูเบา" ของคน


จับ"พันตรี" ถูก3ผู้ต้องหาซัดทอดจ้างฆ่าองคมนตรี "ชาญชัย" เจ้าตัวงงไม่รู้เจตนา รับระวังตัวมากขึ้น

จับกุม"พันตรี"ผู้ต้องสงสัยจ้างวานฆ่า"ชาญชัย" ได้แล้ว เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่อง ไม่รู้เจตนา ยันไปบ้าน"ปีย์"แค่คุยกันธรรมดา รับช่วงนี้ต้องระวังตัวให้มาก รวบผู้ต้องสงสัยวางแผนลอบสังหาร"ชาญชัย"องคมนตรี รับค่าจ้าง1.3แสน คนจ้างวานหลอกเป็นพ่อค้าขัดผลประโยชน์ แผนแตกหนึ่งในทีมฆ่าเป็นสายตำรวจ



ความคืบหน้าการรวบตัวมือปืนเตรียมลอบสังหารนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรีและอดีตประธานศาลฎีกาและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ไว้ได้ทันก่อนลงมือ ขณะมาซุ่มอยู่ละแวกซอยสุขสวัสดิ์ 66 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ใกล้กับบ้านนายชาญชัย เมื่อค่ำวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมานั้น



มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 20.50 น. วันที่ 7 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองปราบปรามและสืบสวนภูธรภาค 1 ร่วมกันจับกุม "พันตรี" ซึ่งถูกซัดทอดว่าเป็นผู้จ้างวานฆ่านายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ได้ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ


ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ศูนย์สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 ถนนวิภาวดี พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) เรียก พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1(ผบช.ภ.1) พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองผบช.ภ.1 พ.ต.อ.เพชรัตน์ แสงไชย รองผบก.หน.ศสส.ภ. 1 พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ ผกก.ศสส.ภ.1 พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รองผกก.2 บก.ป. เข้าร่วมประชุมหลังชุดสืบสวนร่วมกับกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) จับกุมผู้พยายามก่อเหตุยิงนายชาญชัย ใช้เวลาประชุม 3 ชั่วโมง


พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่าเหตุที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทั้ง 3 คน รับสารภาพ ทางตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลผู้เกี่ยวข้อง และการจับกุมได้พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุน 10 นัด และรถจักรยานยนต์ แต่ยังไม่ทันลงมือก่อเหตุทางตำรวจไปพบก่อน


พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า ผู้ต้องหารับว่าผู้ว่าจ้างอ้างว่าให้มายิงนักธุรกิจซึ่งโกงเงินมาจากทางภาคเหนือโดยมีบ้านพักอยู่ในพื้นที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งสาเหตุการยิงนายชาญชัย อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเนื่องจากนายชาญชัยเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องด่างพร้อยในช่วงระหว่างการปฎิบัติหน้าที่การงาน ทางตำรวจก็อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากเรื่องอะไร สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมประกอบด้วยนายภานุพงศ์ หรือกอลฟ์ รัตนาไพบูลย์ อายุ 32 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ นายศักดิ์ชาย หรือแบงก์ แซ่ลิ้ม อายุ 29 ปี มือปืน และนายคมิก หรือ จ่าเหน่ง สุขกาญจนกาศ อายุ 33 ปี ผู้ติดต่อรับงาน


รายงานข่าวแจ้งว่า ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างขอศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับนายทหารคนหนึ่ง ยศ "พันตรี" สังกัดเลขานุการกองทัพบก ในฐานะผู้จ้างวาน หลังผู้ต้องหาซัดทอดว่ามีทหารกลุ่มหนึ่งอยู่เบื้องหลังบงการลอบสังหารองคมนตรีเพื่อทำให้สถานการณ์บ้านเมืองวุ่นวาย


รายงานข่าวจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมผู้ต้องหาระบุว่า การจับกุมผู้ต้องหามือปืนเตรียมลอบยิงนายชาญชัยนั้น สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีสายของตำรวจซึ่งเป็นหนึ่งในทีมลอบสังหารมีหน้าที่ชี้เป้า ได้รับรูปของนายชาญชัย พร้อมบ้านเลขที่ และทะเบียนรถ ดส 4777 กทม.จากผู้จ้างวานอ้างว่าเป็นพ่อค้าคนจีนที่ขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ จ.เชียงใหม่แล้วหนีหนี้สินมาอยู่ที่ โดยให้ค้าจ้างจำนวน 1.3 แสนบาท ซึ่งมีการโอนเงินและจัดหาอาวุธปืนให้เรียบร้อยแล้ว แต่สายตำรวจซึ่งเป็นหนึ่งในทีมสังหารสงสัยทะเบียนรถที่ใช้ จึงได้เข้าไปตรวจเช็คทะเบียนปรากฏว่าทะเบียนรถเป็นของสำนักพระราชวัง จึงนำเรื่องไปปรึกษากับจ้าหน้าที่ดีเอสไอคนหนึ่งซึ่งเป็นอดีตนายตำรวจ


เจ้าหน้าที่ดีเอสไอรายนี้จึงได้ไปตรวจสอบทะเบียนรถพบว่าเป็นรถของนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี จึงได้ประสานทางตำรวจภาค 1 และกองปราบปราม ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของบ้านนายชาญชัย ไปซุ่มอยู่บริเวณบ้าน ในซอยสุขสวัสดิ์ 66 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จนได้พบรถยนต์ต้องสงสัยไม่ติดหมายเลขทะเบียน จึงควบคุมตัวมาสอบสวนในเซฟเฮ้าแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามระหว่างจับกุมไม่พบอาวุธปืนที่จะใช้ก่อเหตุ


จากการเค้นสอบมาตลอดทั้งคืนทราบว่าผู้จ้างวานเป็นกลุ่มคนมีสีกลุ่มหนึ่งจ้างวานให้ฆ่านายชาญชัยภายในวันที่ 7 เมษายน เพื่อสร้างสถานการณ์ให้บ้านเมืองวุ่นวาย


รายงานข่าวแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอคนดังกล่าวได้มารายงานเรื่องดังกล่าวให้กับพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. คาดว่า พล.ต.อ.ธานี ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีทราบเรียบร้อยแล้ว


ด้านพล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้จะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง


รายงานข่าวแจ้งว่าพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้สั่งการด่วนถึงบช.น. บช.ก. บช.ภ.1 จัดกำลังอารักขาบุคคลสำคัญ ประกอบด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี นายชาญชัญ ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา(ในขณะนั้น) นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด นายจรัญ ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกา (ปัจจุบัน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ) นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชการ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รองผู้อำนวยการกอ.รมน. ที่เข้าไปร่วมหารือกับนายปีย์ มาลากุล ประธานบริษัทแปซิฟิก คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2549 ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวหาว่าเป็นการหารือเพื่อล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ



ด้านความเคลื่อนไหวของนายชาญชัยนั้น เว็บไซต์คมชัดลึก รายงานว่า นายชาญชัยให้สัมภาษณ์ที่บ้านพักด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ถึงเหตุการณ์มีมีข่าวว่า มีคนคิดลอบสังหารว่า ทราบจากข่าวเช่นกัน โดยมีเพื่อนโทรศัพท์มาบอก ซึ่งตนไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น และไม่ทราบสาเหตุด้วย


เมื่อถามว่า สาเหตุมาจากเรื่องที่ไปบ้านนายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา หรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า ไปบ้านนายปีย์ แค่ครั้งเดียว และ ก็ไปคุยกันธรรมดา ยังนึกไม่ออกว่า เกี่ยวกับตนได้อย่างไร ไม่ทราบเจตนาจริงๆ


เมื่อถามว่า ตอนนี้กังวลอะไรหรือไม่ องคมนตรี กล่าวว่า ไม่กังวลอะไร แต่ต้องระวังตัวไม่ให้มากขึ้น เพราะปกติก็ไม่ได้ระวังตัวอะไรอยู่แล้ว


เมื่อถามว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี โทรศัพท์ติดต่อมาสอบถามถึงเรื่องราวเกิดขึ้นหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า วันนี้ยังประชุมองคมนตรีด้วยกัน และ พล.อ.เปรม ก็ทราบข่าวว่า มีผู้คิดลอบสังหารตนเท่านั้นเอง



นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าจับกุมตัวคนร้าย ซึ่งวางแผนที่จะลอบสังหาร นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี ว่า ตนยังได้เห็นรายงาน ทราบจากข่าว ซึ่งตนจะเข้าไปตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด