โดย เสรีชน
ที่ีมา เว็บบอร์ดประชาไท
6 กุมภาพันธ์ 2552
กษิต ดีแต่คุย งานต่างประเทศล้มเหลวห่วยแตกที่สุดที่เคยมีรัฐมนตรีมา
หน้า ก็กังฉิน ปากเสียสุดๆ ไม่เชื่อว่าได้เป็นถึงทูตโตเกียว วอชิงตัน เลยสงสัยคุณภาพนักการทูตไทยยุคปัจจุบันมาก คัดคนมาเป็นทูตได้อย่างไร งานต่างประเทศในยุคนายคนนี้มาเป็นรัฐมนตรี ไม่มีผลงาน นอกจากการทะเลาะกับเพื่อนบ้าน การเจรจาที่ไม่สำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน
1. รัฐมนตรีคนนี้มา ภาพพจน์ของประเทศเสียหาย กรณีปิดสนามบิน ให้สัมภาษณ์ตลกแบบโง่ๆ ว่า หรืออาจจะไม่ตลกแต่แสดงความเขลาออกมา ว่ายึดสนามบินเป็นประสบการณ์ที่ดี อาหารดี ดนตรีเพราะ จนนานาชาตินำไปพาดหัวข่าวแสดงความขี้เท่อของรัฐมนตรี ปชป.
2. กรณีผู้อพยพแขกโรงฮิงญา แทนที่จะมีแทคติคส์ให้เรื่องสงบ กลับด่าสื่อต่างชาติ โหมไฟโดยการโกหกพกลมเพราะเกรงใจทหารที่อุ้มรัฐบาลเข้ามาแทนที่พรรคพปช. จนเจอหลักฐานจากสื่อนอกภาพทหารเรือผลักไสเรือผู้อพยพออกทะเลไปชัดเจน แก้ตัวไม่ได้ และยังมีการตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ความทารุณของทหารเรือไทยเป็นเวลาเกือบสอง อาทิตย์แล้ว หนักขึ้นถึงขั้นนางเอกดาวโป๊ฮอลีวู้ดออกข่าวด่าไทยร่วมด้วยช่วยกัน ซึ่งระดับแองเจโลน่า โจลี่ พูด คนก็ฟังเพราะอยากเห็นหุ่นดาวยั่วกับปากที่ยั่วสวาทอยู่แล้ว ไม่รู้จะเอาศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของประเทศไปไว้ที่ไหน
3. เจรจาเขาพระวิหาร ด่าคนได้เก่ง พอมาทำจริง ห่วยกว่านายนพดล ปัทมะ ที่ไม่เคยเป็นทูตมาก่อนด้วยซ้ำไป เพราะสมัยรัฐบาลสมัคร การเจรจาเขาพระวิหาร เขมรยอมให้ใช้ชื่อ เขาพระวิหาร ตามที่ศาลโลกเคยตัดสินไว้เมื่อปี 2504 แต่พอรัฐบาลนี้ที่มีนนายกษิต เป็น รมว ต่างประเทศ คิดว่าตนฉลาด ฮุนเซน แกล้งต้อนรับดี เก๋าเกมส์กว่าเพราะเป็นนักการเมืองและนายกเขมรมาร่วมยี่สิบปี นายกษิต เสียค่าโง่ ตายใจว่าเขมรยอมรับตน พอเจรจาจริง เจอของแข็ง แม้แต่ชื่อบริเวณพิพาท ยังไม่อาจจะตกลงกับเขมรได้เลย ไม่ต้องไปคุยเรื่องพื้นที่ทับซ้อน หรือหลักเขตแดนอะไรมากมายแล้ว
4. การประชุมอาเซียนจัดขึ้นไปก็ lifeboy เพราะไม่มีประเทศคู่เจรจาหกประเทศมาร่วมประชุมด้วยเลยแม้เพียงประเทศเดียว ตามแผนการเดิมในสมัยนายสมชายเป็นนายกฯเลย มีแต่คุยกันเองระหว่างอาเซียน แต่หาสารัตถะในแง่เนื้อหาได้น้อยเต็มที
แค่สี่เรื่องก็พอเพียงแล้ว ที่จะชี้ว่า คนเคยเป็นทูตมา พอมาจับงานการเมือง ไม่มีทางทันเล่ห์กลการเมืองระหว่างประเทศเลย เพราะเคยแต่ไปงานดินเนอร์หรูๆ แต่ไม่เคยเจอเกมส์การเมืองของนักการเมืองมืออาชีพ ผลคือ เดือนแรกของรัฐบาลเด็กเวรคนนี้ เราประสบความล้มเหลวทางการทูต การต่างประเทศอย่างรุนแรงที่สุด ในสมัยที่ประเทศไทยมีรัฐมนตรีต่างประเทศขี้โอ่ชื่อว่า นายกษิต ภิรมย์ ส่วนจะมาเสแสร้งแกล้งพูดในสภาอย่างถ่อมตนปลอมๆว่า ตนเป็นน้องใหม่ทางการเมือง ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย พูดแบบนี้ไม่ได้ เพราะชาติบ้านเมืองไม่ใช่สถานที่ทดลองงานของเด็กอ่อน และพวกก่อการร้ายทำลายประเทศ หากจะมาฝากตัว ก็ควรลาออกไปเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี หรือเลขานุการรัฐมนตรีก่อนจะมาทำงานในฐานะเสนาบดีกระทรวงที่มีเกียรติแห่ง นี้
ที่ีมา เว็บบอร์ดประชาไท
6 กุมภาพันธ์ 2552
กษิต ดีแต่คุย งานต่างประเทศล้มเหลวห่วยแตกที่สุดที่เคยมีรัฐมนตรีมา
หน้า ก็กังฉิน ปากเสียสุดๆ ไม่เชื่อว่าได้เป็นถึงทูตโตเกียว วอชิงตัน เลยสงสัยคุณภาพนักการทูตไทยยุคปัจจุบันมาก คัดคนมาเป็นทูตได้อย่างไร งานต่างประเทศในยุคนายคนนี้มาเป็นรัฐมนตรี ไม่มีผลงาน นอกจากการทะเลาะกับเพื่อนบ้าน การเจรจาที่ไม่สำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน
1. รัฐมนตรีคนนี้มา ภาพพจน์ของประเทศเสียหาย กรณีปิดสนามบิน ให้สัมภาษณ์ตลกแบบโง่ๆ ว่า หรืออาจจะไม่ตลกแต่แสดงความเขลาออกมา ว่ายึดสนามบินเป็นประสบการณ์ที่ดี อาหารดี ดนตรีเพราะ จนนานาชาตินำไปพาดหัวข่าวแสดงความขี้เท่อของรัฐมนตรี ปชป.
2. กรณีผู้อพยพแขกโรงฮิงญา แทนที่จะมีแทคติคส์ให้เรื่องสงบ กลับด่าสื่อต่างชาติ โหมไฟโดยการโกหกพกลมเพราะเกรงใจทหารที่อุ้มรัฐบาลเข้ามาแทนที่พรรคพปช. จนเจอหลักฐานจากสื่อนอกภาพทหารเรือผลักไสเรือผู้อพยพออกทะเลไปชัดเจน แก้ตัวไม่ได้ และยังมีการตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ความทารุณของทหารเรือไทยเป็นเวลาเกือบสอง อาทิตย์แล้ว หนักขึ้นถึงขั้นนางเอกดาวโป๊ฮอลีวู้ดออกข่าวด่าไทยร่วมด้วยช่วยกัน ซึ่งระดับแองเจโลน่า โจลี่ พูด คนก็ฟังเพราะอยากเห็นหุ่นดาวยั่วกับปากที่ยั่วสวาทอยู่แล้ว ไม่รู้จะเอาศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของประเทศไปไว้ที่ไหน
3. เจรจาเขาพระวิหาร ด่าคนได้เก่ง พอมาทำจริง ห่วยกว่านายนพดล ปัทมะ ที่ไม่เคยเป็นทูตมาก่อนด้วยซ้ำไป เพราะสมัยรัฐบาลสมัคร การเจรจาเขาพระวิหาร เขมรยอมให้ใช้ชื่อ เขาพระวิหาร ตามที่ศาลโลกเคยตัดสินไว้เมื่อปี 2504 แต่พอรัฐบาลนี้ที่มีนนายกษิต เป็น รมว ต่างประเทศ คิดว่าตนฉลาด ฮุนเซน แกล้งต้อนรับดี เก๋าเกมส์กว่าเพราะเป็นนักการเมืองและนายกเขมรมาร่วมยี่สิบปี นายกษิต เสียค่าโง่ ตายใจว่าเขมรยอมรับตน พอเจรจาจริง เจอของแข็ง แม้แต่ชื่อบริเวณพิพาท ยังไม่อาจจะตกลงกับเขมรได้เลย ไม่ต้องไปคุยเรื่องพื้นที่ทับซ้อน หรือหลักเขตแดนอะไรมากมายแล้ว
4. การประชุมอาเซียนจัดขึ้นไปก็ lifeboy เพราะไม่มีประเทศคู่เจรจาหกประเทศมาร่วมประชุมด้วยเลยแม้เพียงประเทศเดียว ตามแผนการเดิมในสมัยนายสมชายเป็นนายกฯเลย มีแต่คุยกันเองระหว่างอาเซียน แต่หาสารัตถะในแง่เนื้อหาได้น้อยเต็มที
แค่สี่เรื่องก็พอเพียงแล้ว ที่จะชี้ว่า คนเคยเป็นทูตมา พอมาจับงานการเมือง ไม่มีทางทันเล่ห์กลการเมืองระหว่างประเทศเลย เพราะเคยแต่ไปงานดินเนอร์หรูๆ แต่ไม่เคยเจอเกมส์การเมืองของนักการเมืองมืออาชีพ ผลคือ เดือนแรกของรัฐบาลเด็กเวรคนนี้ เราประสบความล้มเหลวทางการทูต การต่างประเทศอย่างรุนแรงที่สุด ในสมัยที่ประเทศไทยมีรัฐมนตรีต่างประเทศขี้โอ่ชื่อว่า นายกษิต ภิรมย์ ส่วนจะมาเสแสร้งแกล้งพูดในสภาอย่างถ่อมตนปลอมๆว่า ตนเป็นน้องใหม่ทางการเมือง ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย พูดแบบนี้ไม่ได้ เพราะชาติบ้านเมืองไม่ใช่สถานที่ทดลองงานของเด็กอ่อน และพวกก่อการร้ายทำลายประเทศ หากจะมาฝากตัว ก็ควรลาออกไปเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี หรือเลขานุการรัฐมนตรีก่อนจะมาทำงานในฐานะเสนาบดีกระทรวงที่มีเกียรติแห่ง นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น