CBOX เสรีชน

15 เมษายน, 2552

Inside Story - Thailand's political turmoil - 13 Apr



ทรราชย์

ขอประกาศ กับคนไทย ให้ได้รู้
ว่าตัวกู อะพิสิด คิดชั่วร้าย
กับคำว่า "ทรราชย์" อาจน้อยไป
มีคำไหน ที่เลวกว่า หาให้ที

CCTV ไหนว่ายิงขึ้นฟ้าไง



จากผู้เห็นเหตุการณ์การสลายเสื้อแดง แต่โดนปิดกั้น

มีตัวแทนนักข่าวรายงานความจริงเบื้องหลังการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ข่าวไม่สามารถออกอากาศทางสื่อโทรทัศน์ได้
+++ ช่วยกันส่งต่อด้วยนะครับ เผื่อเป็นหลักฐานเอาผิดรัฐบาลได้ +++
ข้อความมีดังนี้ครับ...

"... สวัสดีครับท่านผู้ท่าน...ท่านกรุณาอ่านให้จบนะครับเมื่อท่านอ่านจบแล้วมัน คือความจริงครับ ผมเป็นตัวแทนของนักข่าวช่อง3.5.7.9. ครับ............เรื่องที่โฆษกทหารออกมาให้ข่าวว่าไม่มีคนตายมีแต่คนบาดเจ็บ นั้นไม่ได้เป็นเรื่องจริงครับ...เรื่องจริงมีคนตายมากครับ...เช่นกระทรวง มหาดไทยมีคนตาย 2 ศพ จากน้ำมือของการ์ดนายกครับ.ผมและเพื่อนนักข่าวเห็นกับตาและ นปช. ก็จับตัวคนยิงได้ด้วยและคนยิงก็สารภาพว่าเป็นคนยิงและยังบอกอีกด้วยว่า.. ท่านรองนายกสุเทพเป็นคนสั่ง..และบอกว่าในรถที่ นปช. ไปทุบนั้นไม่มีนายก และรองนายกอยู่ด้วยครับ มันเป็นอุบายของท่านสุเทพครับ..พวกผมก็รู้แต่พวกผมทำอะไรไม่ได้ครับ.พอต่อมา ที่แยกดินแดงก็มีคนตาย 5 ศพ เป็นพระ 2 ศพ.ครับทหารเป็นคนยิงไม่ใช่ลูกซ้อมครับเพราะนักข่าวช่อง เอ็นบีที เป็นคนบอกเองว่าลูกจริง..แต่ที่ทหารมาแถลงข่าวนั้นมันไม่เป็นความจริงผมและ เพื่อนๆนักข่าวปรึกษากันแล้วเลยมาลงให้ท่านประชาชนทั้งหลายได้รู้ความจริง ครับ และที่ท่านบอกว่าไม่ได้ปิดสื่อนั้นก็โกหกครับข่าวออกมาอย่างไรนั้นมันตรง ข้ามกันเลยครับ ท่านประชาชนทั้งหลายคิดเอาเองและกันครับ..และเรื่องที่ นปช. มีปืนนั้นก็ไม่จริงครับ ผมเป็นนักข่าวผมอยู่วันแรกจนถึงเมื่อคืนนี้รู้ดีทุกอย่างครับไม่มีคำโกหกใดๆ เลย...และข่าวที่ผู้นำ นปช ทุกท่านพูดบนเวทีเป็นเรื่องจริงทุกอย่างครับ..ผมและเพื่อนนักข่าวทุกคนไม่ ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรอกครับแต่อยากให้ประชาชนรู้ความจริงเท่านั้นครับ ถ้าท่านรักความจริงท่านต้องอ่านนะครับ และยังมีพวกพันธมิตรออกมาร่วมมือกับรัฐบาลอีกครับเรื่องมันเลยวุ่นวายไปกัน ใหญ่เลยครับและคนที่อยู่เบื้องหลังคือ ป๋าเปรมคนเดียวที่หนุนหลังอยู่ และที่ข่าว cnn ได้ข่าวไปเป็นความจริงครับเพราะผมเป็นคนทำข่าวกับนักข่าวcnn พุดง่ายๆคือทหารเหล่านี้ออกมาแก้ตัวครับ....แล้วทหารดีๆอยู่ไกลตามชายแดน ครับรักษาบ้านเมืองแต่ความดีความชอบอยู่กับพวกกลุ่มๆเดียวที่เป็นเด็กป๋าแต่ ที่ผมตกใจก็คือตำรวจครับลืมบอกไปครับที่ดินแดงทหารยิงตำรวจตายไป 2 คนครับ ผมและเพื่อนนักข่าวทนไม่ได้ที่ไม่มีความเป็นธรรมแก่ประชาชนครับท่านผู้อ่าน ครับไปคิดดูนะครับอยากได้ประชาธิปไตยหรืออยากได้ความไม่มีประชาธิปไตยผมบอก มาแค่นี้ให้ท่านเลือกเอาเองละกันครับไม่ว่าวันใดวันหนึ่งความจริงจะปรากฏใน เร็ววันนี้แน่นอนผมขอสัญญา และข่าววงในตอนที่ผมพิมพ์อยู่นี้เพื่อนนักข่าวของผมทำข่าวอยู่กับนายสุเทพ โทร.มาบอกว่านายสุเทพและนายก ฉลองกันและบอกว่าในที่สุดเมื่อใช้ปืนยิง พวกมันมันก็กลัวและบอกว่าไม่ต้องกลัวเดี่ยวให้ลุกน้องแก้ข่าวให้และยังบอก อีกว่าให้มันรู้บ้างว่าใครใหญ่ในประเทศนี้และบอกว่านักข่าวก็ไม่ต้องกลัวเรา ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ เมื่อมีคนตายกี่คนเราก็ปิดได้.....เรามีทั้งทหาร พันธมิตร และป๋าอยู่ ประเทศนี้เราไม่กลัวใครอีกแล้ว และยังบอกอีกว่าเรื่องเงิน 263ล้านบาทนะก็ไม่ต้องกลัวพรรคเราไม่ถุกยุบอยู่แล้วเพราะเราใช้อำนาจที่มี อยู่ใครหน้าไหนมันจะกล้าตัดสินเพราะศาลก็อยู่พวกเดียวกับเรา.และยังบอกต่อ ว่าการถวายฏีกานะไม่ต้องกลัวเพราะว่าไมถึงพระเจ้าแผ่นดินหรอกเพราะว่ามัน สกัดไว้แล้วโดยป๋าช่วย ผมฟังแล้วอึ้งไปพักใหญ่เลยครับไม่เชื่อวาคุณสุเทพจะเป็นได้ขนาดนี้...และ เพื่อนนักข่าวยังบอกต่อว่าคุณสุเทพยังบอกอีกว่าไม่ต้องไปกลัวมัน ( หมายถึงประชาชน ) มีแต่พวกโง่ๆ โดยเฉพาะต่างจังหวัดมันได้ดูข่าวแล้วก็ไปว่าคุณพวกเสื้อแดงไม่ดีนี่และความ โง่ๆของพวกมันฐานที่รักคุณทักษิณมัน..ส่วนพวกที่ตายก็ชั่งแม่มัน....ผมก็ไม่ รู้จะมีวิธีไหนบอกกับประชาชนแล้วละครับขนาดพิมพ์นี่ยังแอบๆซ่อนๆเลยครับ.. ตั่งแต่มีม็อบมานี่มีคนเสียชีวิตแล้ว 20-25 คน ไม่เชื่อผมไม่ว่าแต่ผมพุดความจริงทั้งนั้นไม่เชื่อใครมีญาติเป็นนักข่าวถาม ได้พวกนี้รู้ดีถ้าไม่เข้าข้างรัฐบาล ขอบคุณนะครับที่อ่านความจริง ช่วยส่งต่อด้วยนะครับ..."

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

จริงเท็จยังไงลองพิจารณา แต่ผมเชื่อว่าจริง

AMNESTYหยันกองทัพไทยเฉยม็อบเส้นใหญ่ ปราบเฉพาะเสื้อแดง ทั่วโลกประณามรัฐฆาตกร


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
13 เมษายน 2552

องค์การนิรโทษกรรมสากลออกโรง กองทัพ 2 มาตรฐาน เรียกร้องประชาคมโลกกดดันไทยก่อนดิ่งเหว

สำนักข่าว อัลจาซีรา สัมภาษณ์ ที.กุมาร (T Kumar) ผู้อำนวยการองค์กรนิรโทษกรรมสากล (AMNESTY) สำนักงานภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก มีเนื้อความว่า การที่กองทัพปฏิบัติการสลายผู้ประท้วงที่สนับสนุนทักษิณในวันจันทร์ เป็นภาพที่ขัดแย้งตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับการที่กองทัพนิ่งเฉยไม่ทำอะไร เลยต่อผู้ประท้วงที่ต่อต้านทักษิณ ซึ่งชุมนุมประท้วงรัฐบาลสองชุดที่ผ่านมา ซึ่งมีความใกล้ชิดกับทักษิณ

“กองทัพมีการเคลื่อนไหวที่คิดคำนวณล่วง หน้าไว้แล้วว่าจะสนับสนุนรัฐบาลชุดปัจจุบัน ในขณะที่กองทัพไม่ทำอย่างนั้นเมื่อนายกรัฐมนตรีคนนี้ยังเป็นฝ่ายค้าน” เขาตั้งข้อสังเกต

การประท้วงครั้งก่อนๆนำไปสู่คำวินิจฉัยของศาลที่เพิกถอนรัฐบาลฝ่ายทักษิณและดันรัฐบาลของอภิสิทธิ์ขึ้นสู่อำนาจ

กุมาร กล่าวว่า มีความวิตกว่า กองทัพจะออกล่าผู้ประท้วงและกวาดจับมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งนำไปสู่การประท้วงที่รุนแรงกว่าเดิม การปกครองของทหารและ “ความแตกแยกที่ร้าวลึกยิ่งขึ้น” ระหว่างชนชั้นนำที่เป็นคนรวยในเมืองกับคนจนในชนบท

“วิธีการที่ดีที่ สุดในการควบคุมสถานการณ์คือ จัดการเลือกตั้งใหม่ทันที” เขากล่าวและเตือนว่า ถ้าประเทศเพื่อนบ้านของไทยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประชาคมโลกไม่กดดัน รัฐบาลให้จัดการเลือกตั้งใหม่ ประเทศไทยจะ “ดิ่งลงเหว”


คนไทยในอังกฤษประณามรัฐบาลฆาตกร


An open letter to Mr. Abhisit Vejjajiva and his Government
From Thai Red UK

We of Thai Red UK (www.thaireduk.com), the Redshirts of the UK, supporters of the peoples Redshirt Movement in Thailand write to express our concerns about your and your Government’s actions concerning the peaceful pro democracy demonstrations all over Thailand.

Firstly we would like to reaffirm our allegiance and loyalty to the Kingdom of Thailand, His Majesty the King, the Royal Family and all of His Subjects.

Mr. Abhisit Vejjajiva

Your use of the military, allowing them to use force in an attempt to clear the peaceful pro democracy Redshirts has allowed the military to commit murder on your behalf, you are responsible for these deaths, you are responsible for those that are injured and you are responsible for what happens in the next. You personally promised that there would be no loss of life, you have failed in that promise as you have failed in your many attempts to gain the trust of the people.

We demand that you resign now, dissolve parliament and allow the people to decide the government to lead them through this crisis.

We would like to make it clear that we condemn:

• You and your illegitimate government for allowing the murder of innocent people.
• The declaration of a State of Emergency in Bangkok by you and your government. It is this declaration that has led to the state murdering its citizens.
• The military’s use of tanks and the use of live ammunition against the peaceful protestors at the request of you and your government.
• The attempted blocking and closure of the pro Redshirt Websites and TV Stations.
• The gagging and/or persuasion of the Thai Media to report only negatively concerning the Redshirts.
• The arrest of Redshirt leaders in Thailand.
• The creation of the Blueshirts by your government’s supporters to harass, attack and provoke the peaceful Redshirt protesters.

We demand that:

• The State of Emergency in Bangkok be lifted and the military return to barracks.

• The person or persons responsible for allowing the military to murder innocent people be arrested and prosecuted to the highest letter of the law.
• Genuine (true) democracy be returned to Thailand immediately and without conditions.
• That your government respects democratic rights of Free Speech and Civil Liberty.
• The unconditional release of the arrested Redshirt leaders.
• Parliament is dissolved immediately and free and fair elections be held under the 1997 Constitution.
• Any future elections be overseen by the UN or a similar neutral, unbiased and internationally recognized body to ensure that these elections are conducted in a free and fair manner without any interference from all kinds of undemocratic powers and people are able to vote as their conscience desires without duress from any side.

We would like to remind you and your Government:

• Democracy is a form of government in which power is held directly or indirectly by the citizens under a free electoral system
• Essentially Democracy means “popular government” – you and your government are far from popular by any sense of the word.
• You promised the Thai people: transparency, good governance, respect for human rights and the rule of law, equal treatment and reconciliation with those with opposing views, especially by providing them with political space.
• Your government is quick to arrest, charge and prosecute any errant Redshirts, for example the man who threw an egg at a government official’s car, however the perpetrators of the terrorist acts of closing Thailand’s International Airports are still free to roam the streets and even threaten you and your government. Worst, instead of taking legal actions against these terrorists, you appointed one of the terrorist leaders who took part in closing Thailand’s International Airports to be the Minister of Foreign Affairs in your Cabinet - this is hardly good governance and equal treatment for all. Your double standard acts have caused the popular Redshirts movement against your illegitimate regime.
• In declaring the State of Emergency in Bangkok and requesting the removal of the peaceful protesters, you have broken your word, namely that you would allow the Redshirts to protest for as long as they wanted providing it was peaceful – the peace was broken by your actions and not the Redshirts.
• The creation of the Blueshirts by your government’s supporters is against the rule of law, as they have been created not to debate with the Redshirts but simply to harass and intimidate. If this problem is unresolved, the confrontation between two groups of people in the country could easily lead to civil war.


Mr. Abhisit Vejjajiva

In your own words

“if the people in power are willing to listen and accommodate, if all of us play our parts to strengthen the foundations of democracy, then we may be able to avoid the unnecessary loss of lives in the name of democracy”

so far you have

• refused to listen to the people of Thailand
• refused to accommodate the people of Thailand

and are clearly breaking those foundations of democracy yourself and are therefore solely responsible for the loss of life in the name of democracy.

Also in your own words

“Thailand is at a crossroads. I intend to make sure that the country makes the correct choice and continues, with as little disruption as possible, on the path to greater democracy” You have clearly failed in this by making incorrect choices and assumptions concerning the desire of the people of Thailand to be free and live in a real democracy. You have also failed in your duty to keep the people of Thailand safe in allowing the military to commit murder in the name of the state.

Honour those sacrifices of past and present generations of Thai people that have fought and died for democracy - resign, dissolve the parliament, return the country to the people and let them decide its future.

Thai Red UK

R – Righteousness
E – Equality
D – Democracy


ใจ อึ้งภากรณ์ออกแถลงการณ์ (13 เมษายน 2552)

ทหารชั่วยิงปราบผู้ประท้วงเสื้อแดง

พวก เสื้อเหลืองได้เผยโฉมหน้าอันแท้จริงแล้ว ด้วยการใช้กองกำลังและกระสุนปืนในการพยายามสลายมวลชนเสื้อแดงที่รัก ประชาธิปไตย ตั้งแต่ต้นปี ๒๕๔๙ พวกเผด็จการรักเจ้าได้ใช้ทุกวิธีทางในการปกป้องอภิสิทธิ์ ผลประโยชน์ และอำนาจอันไม่ชอบธรรมของเขา ไม่ว่าจะเป็นการทำรัฐประหาร การใช้ศาลเป็นเครื่องมือในการยุบพรรค หรือการใช้อันธพาลพันธมิตรเพื่อก่อความวุ่นวาย ตอนนี้เขาพร้อมจะฆ่าประชาชนเสื้อแดงผู้รักประชาธิปไตย นี่เป็นครั้งที่สีในรอบสี่สิบปีที่กองกำลังของชนชั้นปกครองใช้ความรุนแรงใน กรุงเทพฯเพื่อปกป้องอำนาจเถื่อน

แต่คนเสื้อแดงจะไม่ยอมแพ้! คนเสื้อแดงจะได้ชัยชนะ! ประชาธิปไตยจงเจริญ! เผด็จการนิยมเจ้าและพวกเสื้อเหลืองจงพินาศ! เราต้องเดินหน้าสู่(เซ็นเซอร์)!!

ถึงเวลาแล้วที่ผู้รักประชาธิปไตยทั่วโลกต้องออกมาประณามรัฐบาลไทย

ใจ อึ๊งภากรณ์
สยามแดง



แถลงการณ์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เรื่อง ยุติการใช้ความรุนแรงและยุบสภาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งเฉพาะหน้า

เป็น ที่เห็นได้ชัดเจนว่าขณะนี้สถานการณ์ความขัดแย้งในสังคมไทยกำลังเดินหน้าสู่ ความรุนแรงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แม้จะมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อใช้อำนาจรัฐที่เข้มข้นมากขึ้นกับการ ชุมนุม อย่างไรก็ตาม การใช้กำลังเจ้าหน้าที่ของรัฐในการเผชิญหน้ากับการชุมนุมครั้งนี้จะไม่ได้นำ มาสู่ความสงบกับสังคมไทยแต่อย่างใด

ปมปัญหาของความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้เป็นสิ่งที่ต้องการแก้ไขด้วยความ มุ่งมั่นและด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่าย แม้จะมีการใช้ความรุนแรงจากบางส่วนของฝ่ายเสื้อแดง แต่รัฐบาลก็สามารถใช้อำนาจตามกฎหมายเข้าดำเนินการได้ตามปกติ การประกาศใช้กำลังเจ้าหน้าที่ของรัฐภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินกับผู้ ชุมนุมมีแต่จะสร้างปมขัดแย้งให้ร้าวลึกเพิ่มมากขึ้น และดังที่เห็นได้ว่าภายหลังจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก็ได้กลายเป็น เครื่องมือหนึ่งในการยั่วยุฝ่ายตรงกันข้ามให้แสดงออกอย่างรุนแรงมากขึ้นและ ยิ่งทวีความเสียหายให้กับบ้านเมือง ซึ่งจะทำให้ยากต่อการมองหาหนทางแก้ไขอย่างสันติต่อไปในอนาคต

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนมีข้อเสนอต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดังต่อไปนี้

ประการแรก รัฐบาล ต้องยุติการใช้กำลังและความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุ อันส่งผลให้มีการสูญเสียต่อชีวิตของผู้คนโดยไม่จำเป็น รัฐบาลต้องยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยทันที และหันกลับมาใช้อำนาจของรัฐตามปกติที่มีในกรณีที่ผู้ชุมนุมกระทำการนอกกรอบ ของกฎหมาย เช่น การทำร้ายบุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น

ประการที่สอง สื่อ มวลชนต้องทำหน้าที่อย่างเป็นกลางและมีการนำเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน มิใช่เป็นเพียงการเสนอข้อมูลจากรัฐบาลแต่เพียงอย่างเดียวอันจะเป็นการบิด เบือนความจริงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นควรจะต้องมีการตรวจสอบและติดตาม อย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริง

ประการที่สาม เมื่อ รัฐบาลไม่อาจบริหารบ้านเมืองได้อย่างปกติ รัฐบาลต้องยุบสภาเพื่อทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองเฉพาะหน้าคลี่คลายลงอัน เป็นการป้องกันมิให้ความรุนแรงลุกลามขยายตัวออกไป อย่างไรก็ตาม พึงตระหนักว่าการยุบสภาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการแสวงหาทางออกในห้วงเวลา เฉพาะหน้าเท่านั้น ในระยะยาวมีประเด็นที่สังคมต้องร่วมกันขบคิดและถกเถียงกันต่อไปอีกจากทุก ฝ่ายทุกกลุ่มที่อยู่ร่วมในสังคมแห่งนี้

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนขอเรียก ร้องสังคมไทยหากเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวให้ร่วมกันกดดันเพื่อให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงต่อสถานการณ์ขณะนี้ เพื่อให้เหตุการณ์ทั้งหมดสามารถดำเนินไปได้อย่างสันติและปราศจากความรุนแรง

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
13 เมษายน 2552


แถลงการณ์ NGO กป.อพช. : พรก.ฉุกเฉินไม่ใช่ใบอนุญาตใช้ความรุนแรง
แถลงการณ์ เรื่องขอให้ทุกฝ่ายแก้ไขความขัดแย้งทางการเมือง ด้วยวิถีทางประชาธิปไตยและให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรง

สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่มีการขยายความรุนแรงอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งรัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และมีการใช้กำลังทหารเข้าควบคุมการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จ การ (นปช.) และสถานการณ์ความรุนแรงมีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นจนยากที่จะ แก้ไขเยียวยานั้น

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน(กป.อพช.) ขอแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและขอเรียกร้องต่อทุกฝ่ายดังนี้

1. ขอให้รัฐบาลใช้มาตรการตามขั้นตอนของกฎหมายและตามมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด ในการยับยั้งการชุมนุมที่เป็นการคุกคามสิทธิในชีวิตและร่างกายของประชาชน และไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ใช่ใบอนุญาตให้มีการใช้อำนาจด้วยความ รุนแรงได้ตามอำเภอใจ

2. ขอให้แกนนำของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปช.) ยุติการใช้แนวทางการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงโดยไม่คำนึงชีวิตของประชาชนผู้ เข้าร่วมการชุมนุมและชีวิตของประชาชนทั่วไป

3. ขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาทุกท่านเร่งรัดให้มีการประชุม ร่วมของรัฐสภาฉุกเฉิน เพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ เพราะรัฐสภาเป็นสถาบันสำคัญที่ต้องรับผิดชอบในการแก้ปัญหาทางการเมืองด้วย กระบวนการประชาธิปไตย

4. ขอให้องค์กรประชาสังคม องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรประชาชน นักวิชาการ นักกฎหมาย นักสิทธิมนุษยชน นายแพทย์ นายทหาร นายตำรวจ และประชาชนทุกหมู่เหล่า ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรง ยุติการสร้างความเกลียดชัง ยุติการยั่วยุให้มีการใช้ความรุนแรง และประณามทุกฝ่ายที่ส่งเสริมให้มีการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขความขัดแย้งทาง การเมืองที่ดำรงอยู่ในขณะนี้

แถลง ณ วันที่ 13 เมษายน 2552


คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน(กป.อพช.)แถลงการณ์นักสิทธิประณามการปราบปรามประชาชน

แถลงการณ์:ขอประณามการปราบปรามประชาชนด้วยความรุนแรงและให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรง

ตาม ที่รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และในเช้าตรู่วันนี้ (13 เมษายน) มีการใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนคนเสื้อแดง ที่บริเวณดินแดงและถนนศรีอยุธยา และมีแนวโน้มว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นจากฝ่ายประชาชนคนเสื้อแดงอีกนั้น

ใน ฐานะนักสิทธิมนุษยชนขอแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและขอประณามการ ใช้ความรุนแรงของรัฐบาลต่อประชาชนในครั้งนี้ และขอเรียกร้องต่อทุกฝ่ายดังนี้

1. ขอให้รัฐบาลประกาศถอนกำลังกลับที่ตั้งและยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินทันที โดยประกาศให้นัดหมายประชุมร่วมกับรัฐสภาเป็นการเร่งด่วนเพื่อเปิดประชุมฉุก เฉินในรัฐสภา อันจะเป็นทางแก้ไขความขัดแย้งตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา กษัตริย์เป็นประมุข

2. ขอให้ประชาชนคนเสื้อแดงยุติการชุมนุมและใช้ความรุนแรงในการปิดถนนหรือสร้าง ความเดือดร้อนในบ้านเมือง และหันหน้าเข้ามารับฟังการประชุมของรัฐสภา ในการคลี่คลายวิกฤตของบ้านเมืองร่วมกัน

3. ขอให้นักวิชาการ นักกฎหมาย องค์กรพัฒนาเอกชน นักสิทธิมนุษยชน นายแพทย์ นายทหาร นายตำรวจ และประชาชนทุกหมู่เหล่า ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรง ยุติการยั่วยุให้มีการใช้ความรุนแรง และประณามทุกฝ่ายที่ส่งเสริมให้มีการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขความขัดแย้งทาง การเมืองในครั้งนี้

4. หากการประชุมรัฐสภามิอาจบรรลุข้อตกลงอย่างสมานฉันท์ ขอเรียกร้องให้มีการยุบสภาและคืนอำนาจให้กับประชาชน
ทั้งนี้ข้อเรียกร้องดังกล่าวเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ และสามารถนำความสงบสุขมาสู่สังคมโดยรวม

แถลง ณ 13 เมษายน 2552 เวลา 10.05 น.

ลงชื่อ

นายศราวุฒิ ประทุมราช
นายพิทักษ์ กิดหอม
นายอนุชา วินทะไชย


00000000000000000000000000
(แถลงการณ์ก่อนหน้านี้ เมื่อ12 เม.ย.2552)

ชุมชนคนไทยทั่วโลกออกแถลงการณ์คัดค้านการประกาศฉุกเฉินปราบประชาชนเสื้อแดง 

Thai red UK หนุนคนเสื้อแดงเป็นผู้รักชาติรักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ผิดกับเสื้อเหลืองเป็นพวกถ่วงบ้านเมืองให้ถอยหลังลงคลอง ส่วนพลังแดงไทยในเยอรมนีหลายพันยื่นคำขาดจะร่วมใจล้มล้างเผด็จการอำมาตย์หาก ยังดื้อด้านเข่นฆ่าประชาชนผู้รักชาติ ด้านสนนท.ออกแถลงการณ์ต้านการก่ออาชญากรรมโดยรัฐ จี้ยุบสภาคืนอำนาจประชาชน

Thai Red UK ประท้วงการจับกุมผู้นำเสื้อแดง คัดค้านการประกาศภาวะฉุกเฉิน คัดค้านการปราบปรามโดยทหาร ไทยต้องกลับสู่ประชาธิปไตย โดยด่วน

โดย วัฒนา เอ็บเบจซ์ และ ใจ อึ๊งภากรณ์ ในนามของ Thai Red UK
Thai Red UK องค์กรของคนเสื้อแดงในอังกฤษ ประณามการประกาศภาวะฉุกเฉินโดยรัฐบาลเถื่อนของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เราประณามการใช้รัฐถังและปืนกับผู้ชุมนุมที่รักประชาธิปไตย เราคัดค้านการทำรัฐประหารรอบสอง เราประณามการจับกุมแกนนำเสื้อแดงและเรียกร้องให้มีการปล่อยตัว เราเป็นห่วงพฤติกรรมของนักการเมืองอย่าง เนวิน ชิดชอบ ที่ก่อตั้งกลุ่มอันธพาลเสื้อน้ำเงินขึ้นมาเพื่อโจมตี ผู้เรียกร้องประชาธิปไตย เราเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกทันที เพื่อให้มีการเลือกตั้งตามกติกาของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ทั้งนี้เพื่อเป็นก้าวแรกในการแก้ไขสถานการณ์วิกฤตอย่างสันติ

ทำไมเสื้อแดงไม่ใช่เพียงเงาสะท้อนเสื้อเหลือง

ผู้ ที่สังเกตการณ์เรื่องการเมืองไทยอย่างผิวเผิน อาจจะหลงคิดว่าเสื้อแดงกับเสื้อเหลืองเป็นแค่สองด้านของเหรียญเดียวกันแต่ นั่นไม่ใช่ความจริง

พวกเสื้อเหลือง

พวก เสื้อเหลือง “รักเจ้า” ได้สร้างพันธมิตรฯ ขึ้นมาในรูปแบบขบวนการฟาสซิสต์ ตั้งแต่ปี 2549 พวกนี้เรียกร้องให้มีการยกเลิกประชาธิปไตยเพื่อนำเผด็จการ “ระเบียบใหม่” เข้ามาแทน เขาอ้างว่าคนไทยส่วนใหญ่ซึ่งเป็นคนจนไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะมีสิทธิเลือกตั้ง เขาต้อนรับรัฐประหาร 19 กันยา ยึดทำเนียบรัฐบาลและปิดกั้นรัฐสภาด้วยกองกำลังอันธพาลติดอาวุธ โดยอ้างว่าทำ “เพื่อในหลวง” ปีที่แล้วเขาร่วมมือกับทหารในการยึดสนามบินและเกือบสร้างสภาวะสงครามกับ ประเทศเพื่อนบ้าน เขาคือส่วนหนึ่งของรัฐบาลปัจจุบัน รัฐบาลนี้ไม่ได้เป็นตัวแทนแท้ของพลเมืองส่วนใหญ่ในประเทศไทย รัฐบาลนี้ขึ้นมามีอำนาจได้ผ่านการบงการโดยทหารและการใช้ศาลเป็นเครื่องมือ ทางการเมือง ดังนั้นเราต้องสรุปว่าเป็นรัฐบาลเถื่อนที่ไม่มีความชอบธรรมตามกติกา ประชาธิปไตย

พวกเสื้อเหลืองเป็นแนวร่วมอภิสิทธิชนปฏิกิริยาระหว่าง กองทัพ องค์มนตรี วัง พันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์ เขาเกรงกลัวว่าผลประโยชน์ของเขาจะสูญเสียไปเมื่อพลเมืองไทยมีอำนาจทางการ เมืองมากขึ้น พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยได้เสียงข้างมากในรัฐสภา... เป็นที่น่าเสียดายที่นักวิชาการชนชั้นกลางเกือบทุกคน และผู้นำขบวนการ NGO สนับสนุนเสื้อเหลืองและต้อนรับรัฐประหาร 19 กันยา ที่ทำลายรัฐธรรมนูญปี 40

ใน ขณะที่พวกเสื้อเหลืองเคลื่อนไหวด้วยความรุนแรงเมื่อปีที่แล้ว โดยทำลายข้าวของในทำเนียบรัฐบาลและทำลายเศรษฐกิจด้วยการปิดกั้นสนามบิน องค์กรต่างๆในรัฐไทยและสื่อกระแสหลักได้สนับสนุนพฤติกรรมเหล่านี้ ยิ่งกว่านั้นไม่มีการลงโทษผู้นำพันธมิตรฯแต่อย่างใด และการกระทำของพันธมิตรฯไม่ได้ถูกประณามโดยนักวิชาการส่วนใหญ่และผู้นำ NGO นอกจากนี้ทหารที่ทำรัฐประหารผิดกฎหมาย และมีประวัติของการคอรัปชั่นอันยาวนาน ก็ไม่เคยถูกลงโทษเช่นกัน ดังนั้นการที่ อภิสิทธิ ออกมาพูดถึงการ “รักษากฎหมาย” เป็นคำพูดสองมาตรฐานที่ไม่มีความชอบธรรม

เสื้อแดง

ขบวน การเสื้อแดงเป็นขบวนการเพื่อประชาธิปไตย หลายคนสนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ เพราะรัฐบาลของเขาเป็นรัฐบาลแรกที่ใช้นโยบายสุขภาพถ้วนหน้าและนโยบายอื่นๆ ที่ช่วยเหลือคนจน พรรคของเขาชนะการเลือกตั้งหลายรอบทั้งก่อนและหลังรัฐประหาร 19 กันยา แต่คนเสื้อแดงไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้สนับสนุน หรือเป็นแค่เครื่องมือของทักษิณ คนเสื้อแดงคือพลเมืองธรรมดา ส่วนใหญ่รักและเคารพสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยด้วยใจจริง มีคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งที่อาจจะไม่ได้สนับสนุนทักษิณ ขบวนการนี้เป็นขบวนการของคนจนในเมืองและชนบทที่ถูกขโมยสิทธิไปโดยพวกเสื้อ เหลือง

ทุกวันนี้พร้อมๆกับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย คนเสื้อแดงกำลังตั้งคำถามกับ “เผด็จการเงียบ” ขององค์มนตรี เขาได้ฝ่าด่านความกลัวที่จะพูดเรื่องสถาบันกษัตริย์ และคนจำนวนหนึ่งเริ่มต้องการระบบ(เซ็นเซอร์) ในขณะที่คนอื่นในขบวนการเสื้อแดงยังต้องการระบบกษัตริย์แต่ในรูปแบบที่ไม่ เกี่ยวข้องกับการเมือง

คนเสื้อแดงไม่มีกองกำลังติดอาวุธเหมือนพวก เสื้อเหลืองหรือพวกเสื้อน้ำเงิน เขาไม่ใช่คนรวยที่จะประท้วงยืดเยื้อได้โดยไม่ไปทำงาน เสื้อแดงพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงความรุนแรงทั้งๆที่ถูกโจมตี ตลอดเวลา พฤติกรรมรอบๆรถยนต์ของนายกอภิสิทธิ หรือการบุกเข้าไปในโรงแรมที่พัทยาเพื่อปิดการประชุมผู้นำเอเชีย ไม่ได้ก่อให้เกิดการทำร้ายร่างกายและไม่ได้ทำลายทรัพย์สินเหมือนกับที่ อันธพาลพันธมิตรฯ เคยทำ

ทั้งในเรื่อง “เป้าหมาย” และ “วิธีการ” แดงกับเหลืองต่างกันราวฟ้ากับดิน เราเรียกร้องให้ผู้รักประชาธิปไตยและเสรีภาพทั่วโลกสนับสนุนขบวนการเสื้อแดง และเราเห็นด้วยกับ จักรภาพ เพ็ญแข เมื่อเขาพูดว่าพลเมืองไทยมีสิทธิที่จะต่อสู้อย่างถึงที่สุดเพื่อประชาธิปไตย ของพลเมือง


ขอแสดงความนับถือ

วัฒนา เอ็บเบจซ์ และ ใจ อึ๊งภากรณ์ ในนามของ Thai Red UK
กลุ่มคนไทยรักประชาธิปไตยในสหราชอาณาจักร


12 เมษายน 2552


หมายเหตุ:Thai Red UK วางแผนที่จะประท้วงหน้าสถานทูตไทยในลอนดอน ในวันที่ 14 เมษายน 2009 ขอเรียนเชิญพี่น้องประชาชนชาวไทยในสหราชอาณาจักรทุกท่าน เข้าร่วมประท้วง และขอรายละเอียดเพิ่มเติมจากคุณ วัฒนา เอเบช +44(0)121243619, +44(0)7780801763

000000000000000000
(แถลงการณ์ภาคภาษาอังกฤษ)
Thai Red U.K. Condemns the arrest of Redshirt Leaders
No to the State of Emergency! No to the Military Crack-down!
Return Thailand to Democracy Now !
Giles Ji Ungpakorn and Watana Ebbage, on behalf of Thai Red U.K.

Thai Red U.K., the association of Redshirts in Britain, condemns the declaration of a State of Emergency by the illegitimate government of Abhisit Vejjajiva. We condemn the Military’s use of tanks and live ammunition against protestors. We say no to another coup. We also condemn the arrest of Redshirt leaders and demand that all of them be released. We are concerned by the creation, by pro-government politicians, such as Newin Chitchorp, of armed Blueshirted thugs, who have attacked pro-democracy demonstrators. The government should resign immediately to allow genuine democratic elections to be held as a matter of urgency. This would be a first step in allowing for a peaceful resolution of the long-running crisis.

Why the Redshirts are not merely a mirror image of the Yellowshirt Royalists
It is tempting for those watching the Thai events to merely conclude that the Redshirt protests are merely a mirror image of the Yellowshirt Royalists who seized the international airports late last year. There can be nothing further from the truth.

The Yellowshirts

The Yellowshirt Royalists built the PAD, a movement with worrying fascist tendencies. Since 2006, they have demanded that Thai Democracy be scrapped in favour of a “New Order” dictatorship. They have consistently claimed that the majority of Thais, especially the poor, are too ignorant to be allowed the right to vote. They welcomed the 2006 military coup, seized Government House and blocked Parliament with armed gangs claiming to be “fighting for the King”. Late last year, with the collusion of the Army, they took control of Thailand’s international airports and nearly caused a war with Cambodia. They are an integral part of the present (mis-named) Democrat Party government. This government does not represent the democratic wishes of the majority of Thais. It only came to power after the courts were used as political tools of the Yellowshirts to twice dissolve the most popular political party. The Army then bribed and threatened shady politicians like Newin Chitchorp to change sides. (This politician was named after the Burmese military dictator Newin!)

The Yellowshirts represent an elite, reactionary, alliance between the Army, the Palace and Privy Council, the PAD and the Democrat Party. They are fearful that their privileges will be jeopardised by further empowering the poor, who make up most of the electorate. The Democrat Party has never succeeded in winning a majority of the popular vote. Unfortunately the majority of Middle-Class academics and many N.G.O. leaders also support the Yellowshirts and welcomed the 2006 coup which ripped up the democratic Constitution of 1997.

During the violent Yellow shirt protests of 2008, the entire Thai state apparatus and media supported them. The PAD wrecked the interior of Government House, staged violent attacks on the police and created much damage to the economy by blockading the airports. Yet no PAD leader has been punished for this use of violence and none have been condemned by the Thai mainstream media or by academics and N.G.O. leaders. The Military have never been punished for their illegal coup or their rampant corruption. Talk now of “respecting the law” by Thai PM Abhisit, is therefore hypocritical nonsense.

The Redshirts

The Redshirts are a pro-democracy movement. Many support the policies of former PM Thaksin Shinawat because his government provided the first ever Universal Health Care system and other pro-poor measures. His party has repeatedly won elections, even after the coup. However, the Redshirts are not just supporters and puppets of Thaksin. They are ordinary citizens, most of whom believe passionately in freedom and democracy. There are many Redshirts who are not supporters of Thaksin. It is also a movement of the urban and rural poor, people who have had their democratic rights stolen from them by the Yellowshirts.

Today, in addition to fighting for democracy, the Redshirts are starting to question the “silent dictatorship” of the King’s advisors in the Privy Council. They have broken a decades old taboo about the Monarchy. Significant numbers are also becoming (censor), while many still want a genuine Constitutional Monarchy which is not involved in politics.

The Redshirts do not have an armed guard like the Yellow or Blue shirts. They are not rich people who can protest for days on end without going to work. They have made great efforts to avoid violence, despite being attacked. The behaviour of Redshirts in surrounding the Prime Minister’s car or breaking into the hotel in Pattaya to close down the Asian Summit, did not result in serious injury or serious damage to property. This is in contrast to the actions of the Yellowshirts.

Both in terms of “Means” and “Ends” the Red and Yellow shirts are opposites. We call on all freedom-loving people throughout the world to support the fight for Democracy in Thailand. We support the recent comments by Redshirt Jakrapop Penkair, when he says that the Thai people have the right to mount a Peoples’ Struggle for Democracy.

Both in terms of “Means” and “Ends” the Red and Yellow shirts are opposites. We call on all freedom-loving people throughout the world to support the fight for Democracy in Thailand. We support the recent comments by Redshirt Jakrapop Penkair, when he says that the Thai people have the right to mount a Peoples’ Struggle for Democracy.

12th April 2009


Thai Red UK plans a peaceful protest outside the Thai Embassy in London on Tuesday 14th April. For more details contact Khun Wattana +44(0)121243619, +44(0)7780801763.

000000000000000000000



แถลงการณ์พลังเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยในเยอรมนี
พลัง เสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยในเยอรมนีจำนวนหลายพันคนขอประนามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐบาลไทย และกลุ่มอำมาตยาธิิปไตย ที่ดื้อดึงไม่ยอมรับ ฟังข้อเรียกร้องของประชาชนไทยชาวไทยภายใต้สัญญลักษณ์ “คนเสื้อแดง” จำนวนหลายแสนคนทั่วประเทศที่่ดำเนินการต่อสู้ทางการเมืองอย่างสันติปราศจาก อาวุธมาเป็นเวลานาน จนถึงกับมีเจตนาใช้ความรุนแรงปราบปรามกลุ่มประชาชนคนเสื้อแดง และประกาศใช้พระราชกำหนดฉุกเฉินทั้งในกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล เป็นเหตุให้บัดนี้พี่น้องชาวเสื้อแดงอย่างน้อยทีุ่สุด 2 คนต้องเสียชีิวตใน บริเวณกระทรวงมหาดไทย

นอกจากนี้้ยังมีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะใช้กำลัง ปราบปรามพี่น้องเสื้อแดงที่บริเวณชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลอีกด้วย เมื่อปรากฎว่า มีกำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือ และรถถังออกมาประจำการใกล้บริเวณชุมนุม

พลังเสื้อแดงเพื่อ ประชาธิปไตยในเยอรมนี ขอยื่นคำขาดให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และกลุ่มอำมาตยาธิปไตยหันหน้ามาประนีประนอมกับประชาชน ยอมสละอำนาจของตัวเองและพวกพ้องเพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดของประชาชนชาวไทย ทั้งสองฝ่าย และความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อทรัพย์สินของทางราชการ

หาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะรัฐบาลและกลุ่มอำมาตยาธิปไตยยังยืนยันที่จะใช้ความรุนแรงปราบปราม ประชาชนชาวเสื้อแดงต่อไปแล้ว พวกเราประชาชนไทย ที่ต้องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในเยอรมนี ในประเทศไทย และทั่วโลกขอให้สัตย์ปฏิญานต่อตัวเองว่า พวกเราจะยิ่งร่วมแรงร่วมใจกันอย่างใกล้ชิด เพื่อล้มล้างระบอบเผด็จการและระบอบอำมาตยาธิปไตยภายใต้การนำของรัฐบาลเผด็จ การแอบแฝง เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตย อย่างแท้จริงในที่สุดและอย่างรวดเร็วที่สุดต่อไป

ลงนามโดย

คุณวัฒนา ด็อคไวเล่อร์ ประธานพลังเพื่อประชาธิปไตยและเพื่อนสมาชิก
คุณเบญจมา อนันตพงศ์ รองประธานพลังเสื้อแดงไทยและเพื่อนสมาชิก
คุณรจนา ไทรลิ่ง สมาชิกและเพื่อนคณะในรัฐนอร์ทไรน์เวสฟาเร็น
คุณวีรวัฒน์ ศักดิ์วิเศษศรี สมาชิกและเพื่อนคณะในกรุงเบอร์ลิน
คุณปานทิพย์ บิฮัลไมเออร์ สมาิชิกและเพื่อนคณะในรัฐไรน์แลนด์เฟ๊าซ์
คุณพรพิมล อุเทนสุต และเพื่อนสมาชิกในแคว้นเฮสเซ่นตอนเหนือ
คุณรังสิมา เกริ่ง สมาชิกและเพื่อนคณะในรัฐเฮสเซ่น
คุณทิพย์ชนก สุขวารี สมาชิกและเพื่อนคณะนักศึกษาในรัฐซัคเซ่น
คุณทวีผล ลิ้งค์ สมาชิกและเพื่อนคณะ


สนนท.ต้านพรก.จี้นายกฯยุบสภา

สหพันธ์ นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 เรื่อง หยุดการก่ออาชญากรรมโดยรัฐต่อการชุมนุมของประชาชนที่นำโดย นปช. โดยเรียกร้องรัฐบาล 5 ข้อประกอบด้วย
1. ขอประณามและเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกพระราชบัญญัติบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน รวมทั้งถอนกำลังทหารและตำรวจออกจากเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะและความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

2. ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศยุบสภา เพื่อให้เกิดกระบวนการประชาธิปไตยและคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินว่าใครคือผู้ ชอบธรรมในการบริหารประเทศ หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้ความชอบธรรมแก่ตนจริง ควรยอมรับในกระบวนการประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งของ ประชาชน

3. ขอเรียกร้องให้ยุติการใช้อำนาจนอกระบบโดยชนชั้นนำในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นการรัฐประหาร ตุลาการภิวัฒน์ หรือการแทรกแซงทางการเมืองโดยผู้ที่ไม่ได้มาจากกการเลือกตั้งตามระบอบ ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา เพราะเป็นแนวทางที่จะทำให้กระบวนการประชาธิปไตยถูกทำลาย

4. หากมีการสลายการชุมนุมโดยใช้ความรุนแรงจากภาครัฐ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย จะออกมาเรียกร้องให้เพื่อนนิสิตนักศึกษาและประชาชนทั่วไปออกมาประท้วงการ กระทำอันไม่เป็นประชาธิปไตยของรัฐบาลในทันที

5. ขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกผู้ที่เคารพในสิทธิเสรีภาพและระบอบประชาธิปไตย ร่วมต่อต้านการกระทำอันมีลักษณะเป็นเผด็จการซ่อนรูปของรัฐบาลและเฝ้าระวัง การแก้ปัญหาที่สุ่มเสี่ยงต่อการก่ออาชญากรรมโดยรัฐต่อประชาชน หากเกิดการก่ออาชญากรรมโดยรัฐต่อประชาชนจริง ขอให้ประชาคมโลกร่วมกันประณามและขอให้สหประชาชาติปฏิบัติตามกติการะหว่าง ประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง [UN International Covenant on Civil and Political Rights ( ICCPR ) ]


นายกฯโหรทำนายปี 52 "รัฐบุรุษ-นายกฯ-รบ."อับโชคยุบสภาในที่สุด พรรคร่วมแตกปชช.แบ่งสีสูญเสียผู้นำคนสำคัญ

นายกสมาคมโหราศาสตร์ ทำนาย ปีหน้า รัฐบุรุษ-นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลอับโชคถึงขั้นยุบสภา คะแนนนิยมตกต่ำลง มีการคอรัปชั่นเศรษฐกิจไม่ดี มีแต่ทรงกับทรุดเป็นปีแห่งหนี้สิน เกิดภัยทางอากาศ วาตภัยและอุทกภัยที่รุนแรงที่สุด สูญเสียผู้นำอันเป็นที่เคารพสักการะ และบุคคลสำคัญในระดับสูง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ พยากรณ์ดวงการเมืองประจำปี 2552 ความว่า พ.ศ. 2552 ซึ่งตรงกับปีฉลู คาด ว่าเศรษฐกิจยังไม่ดี มีแต่ทรงกับทรุด ประชาชนดำรงชีพด้วยความลำบาก ข้าวของราคาแพง สาธารณูปโภคขึ้นราคาเป็นปีแห่งหนี้สิน ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1.คำพยากรณ์สงกรานต์ ปี 2552 วันจันทร์เป็นวันมหาสงกรานต์ ฝนจะมีหัวปี ข้าวจะงามนัก แต่ประชาชนจะลำบากเดือดร้อน ให้เกรงท้าวพระยาและเสนามนตรี จะแพ้เสนาบดี ผู้หญิงจะทำร้าย จะเกิดกล้าแข็ง วันอังคารเป็นวันเนา หมากพลูข้าวปลาจะแพง ส่วนวันพุธเป็นวันเถลิงศก ราชบัณฑิต ปุโรหิต โหราจารย์ จะสุขสำราญป็นอันมาก

2.กาลโยค คือ กาลอันพึงมีตามกำหนด ประกอบด้วยคราวดี คราวร้าย คือ อุบาทว์และโลกาวินาศที่สืบเนืองมาตามลำดับ

3.อิทธิพลของดาวเสาร์ ซึ่งเป็นดาวประธานฝ่ายบาปเคราะห์ บ่งถึงความวิตกกังวล ความทุกข์ยากลำบาก ความเครียด ความอิจฉาริษยา ดาวเสาร์ โคจรอยู่ในราศีสิงห์ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2552 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 จึงยกเข้าสู่ราศีกันย์โดยโคจรอยู่ในราศีกันย์ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2552 ถึงวันสิ้นปี ดังนั้น เมื่อดาวเสาร์ หรือบาปเคราะห์อื่นที่โคจรอยู่ในภพนี้ บางครั้งทำให้เกิดความเศร้าสลดใจ หมายถึงการสูญเสียผู้นำอันเป็นที่เคารพสักการะ และบุคคลสำคัญในระดับสูง เกิดปัญหาข้าวยากหมากแพง เศรษฐกิจย่ำแย่ คนในชาติยังคงมีความคิดเห็นที่แตกแยก รัฐบาลที่ประชาชนคาดหวังกลับไม่มีผลงาน ทำให้ประชาชนขาดความศรัทธา

4.อิทธิพลของดาวมฤตยู เป็นดาวที่ลึกลับบันดาลให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ได้โดยไม่คาดฝัน มฤตยู คือ ตัว แทนของประชาชน ผู้ซึ่งมีอำนาจในการบริหารประเทศ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 2 มีนาคม 2552 จะทำให้กิจการทางรัฐสภาดำเนินไปได้ มี พ.ร.บ. สำคัญออกมาหลายฉบับ มีการปฏิรูปหรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ต้องการใช้การพินิจพิจารณา และมีความสำคัญบางอย่างเกิดขึ้นในรัฐสภาไทย รัฐสภาไทยจึงมีการปรับตัว ปรับปรุงตัวเองไปสู่การพัฒนาที่ดีขึ้น สภานิติบัญญัติโดยทั่วไป และคณะพรรคที่ครองอำนาจอยู่ มีการใช้อำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ

อย่างไรก็ตาม ยังนำมาซึ่งความหวาดเสียวและภัยอาเพศมาสู่บ้านเมือง สิ่งที่ควรระมัดระวัง คือ การเกิดภัยทางอากาศ อากาศยานและการขนส่งทางอากาศ วาตภัยและอุทกภัยที่รุนแรงที่สุด อุทกภัย อุบัติภัยครั้งสำคัญในเดือนมีนาคม-เมษายน 2552 และ ตุลาคม-พฤศจิกายน 2552 นำความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก และจะเกิดลัทธิใหม่ๆ ความเชื่อใหม่ๆ เกิดขึ้นในสังคมมากมาย เรื่องการทรงเจ้าเข้าผี เรื่องจิตวิญญาณจะเฟื่องฟูหาได้ทั่วไปในสังคมไทย

แต่ทว่า เมื่อดาวมฤตยูโคจรในราศีมีน ระหว่างวันที่ 2 มีนาคม 2552 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ในภพที่ 12 ของดวงเมือง จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ผันแปรโดยฉับพลัน มีการปฏิรูป และเกิดความยุ่งยากเกี่ยวแก่การบัญญัติกฎหมายหรือการปฏิรูป ร่าง พ.ร.บ.บางฉบับอาจเสียผล ฝ่ายรัฐบาลจะถูกการถูกโจมตี โดยทางคะแนนเสียง หรือการเลือกตั้งซ่อมไร้ผล มีคณะพรรคลับ สมาคมลับลงมือปฏิบัติการณ์ภายในประเทศจำนวนเพิ่มขึ้น มีศาสนาเร้บลับได้บังเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก มีอาชญากรและจารชนเต็มบ้านเต็มเมือง ประเทศชาติมีปัญหามีศัตรูลับของชาติทั้งภายในและนอก

5. อิทธิพลของดาวพฤหัสบดี ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2552 จะมีผลนำความเสียหายมาสู่รัฐบาล จะเกิดการเปลี่ยนแปลงและผันแปรทางการเมืองโดยปัจจุบันทันด่วนในคณะรัฐบาล ระหว่าง 20 เมษายน ถึง 15 สิงหาคม 2552

ระหว่างวันที่ 14 ธันวาคมถึงวันสิ้นปี เมื่อโคจรอยู่ในภพที่ 11 หมายถึงรัฐสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาสามัญ ทำให้กฎหมายสำคัญในระบอบประชาธิปไตยจะได้ผ่านการพิจารณา ทำให้ได้ผลประโยชน์ทางการค้าและการเงินของประเทศชาติ แต่ในบางห้วงเวลาดาวพฤหัสบดีโคจรถอยหลัง เกิดอาการวิปริตในรัฐสภา จะมีบางกลุ่มในรัฐสภาร่วมกันลงคะแนนเล่นงานรัฐบาล การออกกฎหมายบางฉบับไม่ถูกใจประชาชน หุ้นตก มีการลดราคาหุ้นของรัฐบาล

6.อิทธิพลของราหู หมายถึง รัฐสภา โดยเฉพาะสภาผู้แทนราษฎร ในปีนี้ได้เกิดสุริยุปราคา 2 ครั้ง จันทรุปราคา 4 ครั้ง จันทรุปราคามีส่วนเกี่ยวโยงกับเรื่องของประชาชนหรือคนหมู่มาก ส่วนสุริยุปราคาจะเกี่ยวโยงกับบุคคลสำคัญ นายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาล และการเมืองของประเทศ

สุริยุปราคาครั้งที่ 1 ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552 เวลา 14.57 น. เป็นแบบวงแหวน รัศมีคราสพาดในราศีมังกร ยังความก่อกวนให้กับต่างประเทศ และนำความยุ่งยากให้กับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาล ตลอดจนประชาชน พืชผลและในบางกรณีทำให้เกิดความผันแปรสำคัญทางการเมือง หรือการค้าได้รับผลกระทบกระเทือน ให้ระมัดระวังเรื่องดิน เกิดแผ่นดินไหว การสูญเสียที่ดิน ดินแดนอาณาเขตมีปัญหา โลกธุรกิจถูกก่อกวนหรือถูกกระทบกระเทือน รัฐบุรุษ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลอับโชค มีคะแนนนิยมตกต่ำลง เพราะเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง และมีการคอรัปชั่นเกิดขึ้น และจะเกิดความยุ่งยากในวงการทหาร กิจการของกองทัพและกระทรวงกลาโหมมีปัญหาถูกโจมตี ทางการทหารมีการเคลื่อนไหว จะมีการขัดขืนต่อต้านหลายครั้ง การเมืองการปกครองผันแปร การบริหารราชการแผ่นดินมีปัญหาเกิดความสับสนระส่ำระสาย เหตุการณ์ทางชายแดนภาคใต้ยังไม่สงบลงง่ายๆ

สุริยุปราคาครั้งที่ 2 ในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2552 เวลา 09.36 น. พาดในราศีกรกฎ ให้ ระมัดระวังเรื่อง ประชาชนจะมีความเห็นขัดแย้งกับรัฐบาล มีเรื่องการเมืองระหว่างพรรค ฝ่ายตรง ข้ามกับฝ่ายรัฐบาลขัดแย้งกันอย่างรุนแรง คณะพรรคฝ่ายค้านมีกำลังเข้มแข็งขึ้นและกระทำการบางอย่างเพื่อบีบบังคับรัฐบาลให้เปลี่ยนแปลง เช่น การยุบสภา เป็นต้น

ดังนั้น การถูกราหูโคจรมาทับ จะเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้เกิดปัญหาต่อรัฐบาลในทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ความเป็นอยู่ของประชาชนไม่ได้ดีขึ้นตามที่หวัง ส่งผลให้ความศรัทธาในรัฐบาลลดลง จนกลายเป็นปัจจัยสำคัญนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คือ การยุบสภาแล้วจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในที่สุด

http://www.matichon.co.th/prachachat/news_title.php?id=7843

ตะลึงพบศพ 2ชายไปร่วมชุมนุมกับเสื้อแดงหายตัวลึกลับลอยอืดกลางแม่น้ำเจ้าพระยาสภาพถูกทุบด้วยของแข็งหลัง

พบศพชายลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ปากถูกผ้าขนหนูขนาดใหญ่ผูกปิดปากอยู่ ส่วนมือทั้งสองข้างถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกไนลอนสีน้ำเงิน และมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็ง ตรวจสอบพบว่าหายหลังจากที่ร่วมชุมนุมกับเสื้อแดงที่ทำเนียบ

เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 15 เมษายน พ.ต.ท.วิรัตน์ เพ็ชรรัตน์ สารวัตรเวร สน.บวรมงคล รับแจ้งเหตุพบศพชายลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.สส.บก.น.7 พ.ต.ท.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ รอง ผกก.สส.บก.น.7 แพทย์ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำศพจากแม่น้ำมาขึ้นที่ริมตลิ่งฝั่งพระนคร โดยพบว่าเป็นศพชาย สภาพขึ้นอืด สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงผ้าขายาวสีดำสวมเข็มขัด โดยหัวเข็มขัดระบุตัวอักษรว่า กรุงไทย กรุ๊ป ส่วนที่ปากถูกผ้าขนหนูขนาดใหญ่ผูกปิดปากอยู่ ส่วนมือทั้งสองข้างถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกไนลอนสีน้ำเงิน และมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งบริเวณกลางศีรษะ

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า กรุงไทย กรุ๊ป คือ บริษัท กรุงไทยธุรกิจบริหาร ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและอยู่ในเครือธนาคารกรุงไทย ตั้งอยู่ย่านลาดพร้าว 106 แต่วันนี้เป็นวันหยุดทำการจึงต้องใช้เวลาในการติดตามหาพนักงานบริษัทเพื่อ สอบสวนยืนยันว่าผู้ตายเป็นใคร แต่ขณะที่ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.7 กำลังสืบหาพยานอยู่นั้น พ.ต.ท.วิรัตน์ ก็ได้รับแจ้งเหตุพบศพลอยน้ำในจุดใกล้เคียงกันกับศพแรก

โดยเมื่อเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำศพขึ้นมาตรวจสอบที่ริมตลิ่งฝั่งธนบุรี สภาพศพขึ้นอืด สวมเสื้อยืดสีดำ มีภาพและอักษรภาษาอังกฤษสกรีนบนเสื้อว่า RESCUE กางเกงผ้าขายาวสีดำ สวมถุงเท้าดำ ส่วนที่ปากมีผ้าขนหนูสีขาวมัดทับด้วยผ้าสีเหลืองปิดปากไว้แน่น ส่วนมือทั้งสองข้างถูกเชือกไนลอนสีน้ำเงินมัดไพล่หลัง ลักษณะเหมือนกับศพแรกที่พบ ตามลำตัว แขน และใบหน้ามีรอยปูดบวมเขียวช้ำ

สอบสวนหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัย รวมทั้งพนักงานรักษาความปลอดภัยบริษัท กรุงไทยธุรกิจบริการ ซึ่งเดินทางมาดูศพในที่เกิดเหตุยืนยันว่า ศพที่พบ คือ นายนัฐพงษ์ ปองดี หรือ แก๊บ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 2 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ส่วนศพแรกที่พบเมื่อช่วงเช้านั้นคือ นายชัยพร กันทัง หรือ โจ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 287/2 หมู่ 3 ต.บ้านหนุน อ.สอง จ.แพร่ ทั้งสองเป็นพนักงานของบริษัท โดยเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้งสองได้บอกกับเพื่อนๆว่าจะเดินทางมาร่วมชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลแต่ หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้ โดยญาติของนายนัฐพงษ์ได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่วนนายชัยพรนั้นยังไม่พบว่ามีการแจ้งหายแต่อย่างใด

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการชีวิตครั้งนี้ รวมทั้งตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่า ก่อนมาพบศพนั้นทั้งสองได้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณทำเนียบ รัฐบาลจริงหรือไม่ และมีพยานรายใดรู้เห็นบ้าง ส่วนจุดที่มีการทำร้ายหรือถูกโยนลงน้ำนั้นยังไม่สามารถระบุได้ แต่ในเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมแต่จะเสียชีวิตก่อนถูกโยนลงน้ำ หรือถูกจับถ่วงน้ำจนเสียชีวิตนั้นต้องรอผลการชันสูตรอย่างละเอียดจากสถาบัน นิติเวช โรงพยาบาลศิริราชอีกครั้ง

สงกรานต์ ????

13เมษา ฟ้าแดง ทุกแห่งหน
เลือดของคน บริสุทธิ์ ไม่หยุดไหล
ลงท่วมพื้น พสุธา สุดอาลัย
คนจัญไร มันสั่งฆ่า จนฟ้าแดง

เสียง.....?

เสียงซากศพ ต่างภพ ประนบร้อง
ดั่งจะฟ้อง ยุติธรรม ดำมืดหนา
จำพลีร่าง ไปต่างภพ ก่อนเวลา
ร้องเรียกหา ประชา ธิปไตย

สามเหลี่ยมดิน"แดง"

สมรภูมิ แยกดินแดง แจ้งประจักษ์
มันปกปักษ์ ประชา อย่างข้าหรือ
ยิงปืนกราด สาดกระสุน คนพรุนคือ
ผู้ที่ถือ ธงไตรรงค์ ปลงชีวา

อันนี้ตั้งข้อสังเกตุ



1 รถแกส เข้ามาได้อย่างไร ทำไมถึงไม่มีใครเห็น ทหารก็น่าจะต้องเห็น แล้วทำไมไม่บล๊อค ไม่กันเอาไว้
2 รถแกส ที่เข้ามานั้น เปิดวาล์วเอาไว้ด้วย ไม่มีกลิ่นเลยหรือ มีแกสจริงหรือไม่ แล้วแรงอัดสูงขนาดนั้น 10 นาที แกสจะไปไกลขนาดไหน
3 รถแกส ถ้าแกสรั่วไหล(จริง) ละแวกนั้น รัศมีไม่ต่ำกว่า 10 กิโลเมตร ระเบิดเป็นจุล ครับ
4 ตั้งแต่เช้า จนถึงสายๆนั้น ไม่มีใครเกิดอยากบุหรี่ หรือทำกับข้าวบ้างหรือ


ไอ้พวงโง่ครับฟังข่าวดูข่าวแล้วใช้สติคิดหน่อย ผมดูยังไงๆมันก็สร้างสถานการณ์ชัดๆ

ดูซิ จะแก้ตัวกันยังไง



ไขข้อข้องใจ กระสุนจริง กระสุนปลอม

กระสุน M-16 จะมีขนาด 5.56 mm ครับ
คิดง่ายๆ คือครึ่งเซนติเมตร (ใหญ่ไหม ผมว่าเล็กนะ)
ระยะยิงไกลสุด 3.4 กิโลเมตร กว่าๆ ระยะยิงหวังผล 400 เมตรลงมา

การที่ M-16 เป็นอาวุธสังหารที่มีประสิทธิภาพ เกิดจากองค์ประกอบหลัก 2 ส่วน นั่นคือ

1. มีลำกล้องที่ยาว ทำให้การควงของกระสุนเกิดขึ้นได้น้อย มันจะพุ่งเข้าเป้าหมายได้แม่นยำ
ทั้งนี้คนยิงต้องมีกล้ามแขนและหัวไหล่ที่ดี และต้องจับปืนแน่นๆ

2. กระสุนซ้อม จะเป็นพลาสติกสีฟ้าเข้มทั้งดุ้น เวลายิงเกิดแค่เสียง ต้องดึงคันรั้งเพื่อคัดปลอกเอง
ยิงได้ทีละนัด คือตั้ง mode การยิงได้แค่แบบ semi เท่านั้น

กระสุนจริง จะเป็นปลอกอลูมิเนียม ถ้าเป็นการยิงแบบ semi มันจะออกทีะนัด ถ้าตั้ง auto มันจะออกพรืดเลยครับ
ยิงออกจนกว่าจะปล่อยนิ้วชี้ที่ง้างไกปืน หรือกระสุนหมด magazine

ปกติยิงซ้อม ทหารจะต้องเก็บปลอกกระสุนทุกครั้ง เพราะต้องมีการจำหน่ายยอดกระสุนครับ (นับให้ครบจำนวน)
ถ้าที่ฐานของลูกกระสุนมีสีแดง นั่นแสดงว่าเป็นกระสุนส่องวิถี คือกระสุนจริงที่เอาไว้ยิงกลางคืน
ทหารจะเห็นว่ากระสุนพุ่งไปทางไหนเมื่ออยู่ในความมืด พูดง่ายๆ มันก็คือกระสุนจริงสำหรับยิงกลางคืนนั่นแหละครับ

ลำกล้องของ M-16 ถูกออกแบบให้มีเกลียวเวียนขวา 6 รอบ ดังนั้น หัวกระสุนจะถูกรีดและมีการควงสว่านทางขวา 6 รอบ ก่อนออกจากปากลำกล้อง

ความมุ่งหมายของการเวียนขวา คือการ "คว้าน" เป้าหมายครับ ตอนกระสุนมันเข้า รูมันจะมีขนาดเพียง 5.56 มิลลิเมตร
แล้วมันจะไปหมุนเวียนขวา คว้านเป้าหมาย ตอนออก รูเบ้อเร่อครับ


แล้วในที่เกิดเหตุ เก็บได้ปลอกพลาสติกสีฟ้า หรือปลอกโลหะสีทองอ่ะครับ มีใครเก็บปลอกสีฟ้าได้บ้าง?
ถ้าสงสัยว่าข้อความนี้ถูกต้องหรือไม่ ให้ copy ข้อความนี้ไป post ถามเสธฯ แดงได้นะครับ ข้อมูลตรงกันแน่นอน
เพราะคนเคยใช้ จะรู้จักมันดีครับ

ไหนว่าทหารสลายการชุมนุมมีแต่ M16 ไงละ


http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=794854

ได้มาจาก
http://www.pantip.com/cafe/camera/topic/O7744664/O7744664.html
จากที่มันแถลงทางทีวีล่าสุด เอาหมอมาอธิบาย
ว่าคนที่โดนยิงไม่ได้ยิงจากทหาร เพราะทหารใช้ M16 เท่านั้น
แผลจาก M16 ต้องใหญ่ bah bah
หลักฐานแบบนี้จะบอกว่าไง
ปืนสั้นในมือน่าจะเป็น 9มม.หรือไม่ก็.45 ที่ออกมาแถลงว่าไม่มีใช้งานนี้...ลองตอบมาซินี่มันสากกระเบือหรือ?







13 เมษายน 52 ที่ สามเหลี่ยมดินแดง เวลา 11.00 น. ผบ.ควบคุม ที่ด่านดินแดงครับ



UZI ???








เสื้อน้ำเงินเปิดฉากโจมตีคนเสื้อแดง พัทยา





คำสารภาพจากกองทัพ



เขียนโดย ชูวัส ฤกษ์ศิริสุข

คลิปโดย มุทิตา เชื้อชั่ง


แด่ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทุกฝ่าย แด่คนเสื้อแดงที่ถูกจับ แด่ความจริงและความเป็นธรรม

0 0 0


หลังแกนนำ ‘แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ’ ยุติ การชุมนุม ขณะที่คนส่วนหนึ่งดีใจและชื่นชมรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่นำกำลังทหารของเขาปราบปรามประชาชนที่ก่อการจลาจลได้สำเร็จ

ในอีกด้านเราต่างก็รู้ว่า ‘อำมาตย์และกองทัพ’ ที่ ฝังรากลึกอยู่ยิ่งกว่าเป็นระบอบ ได้ใช้รัฐบาลอภิสิทธิ์ ปราบปรามการชุมนุมโดยสันติที่มุ่งต่อต้านพวกเขา โดยใช้ข้ออ้างเรื่องการจลาจลต่างหาก

กองทัพได้ ‘สารภาพ’ แล้วว่า เขาเป็นผู้เลือกให้ใครเป็นรัฐบาล

กองทัพได้แสดงศักยภาพว่า เขาทำได้ ปราบได้ แม้ผู้ชุมนุมเรือนแสนจะเต็มกรุงเทพมหานคร นับประสาอะไรกับผู้ชุมนุมที่ยึดสนามบิน

ไม่ เป็นไร ความไม่เป็นธรรมที่ท่านได้รับ เขาเหล่านั้นก็รู้และตระหนักดีเกินกว่าจะโกหกตัวเอง กระทั่งต้องกระทำการสารภาพแบบไร้ซึ่งความเหนียมอาย

ขณะที่เขาอยู่ด้วยความกลัว คนเสื้อแดงกลับกำลังเริ่มต้นวันแห่งความหวัง

0 0 0


ผมเคยถาม อ.เกษียร เตชะพีระ ว่า เหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ต้อง ใช้เวลากี่ปีที่จะทำให้สังคมไทยเข้าใจและยอมรับ ว่าเหตุใดนักศึกษาและประชาชนส่วนหนึ่งนั้นถึงได้ต่อสู้กับรัฐ และอุทิศชีวิตไว้กับป่าเขา

ผมไม่รู้ว่า เหตุการณ์สงกรานต์ปี 52 นี้จะใช้เวลาเท่าไร ผมรู้แต่ว่า ‘คนเสื้อแดง’ เหล่า นี้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่านั้นมาก เพราะหากกองทัพปฏิบัติการจิตวิทยาว่า การปราบปรามเป็นไปตามขั้นตอน ไม่มีการล้มตาย ก็พึงตระหนักว่าหากเหตุการณ์ที่ผ่านมาคือการจลาจล ก็เป็นการจลาจลที่ไม่มีใครบาดเจ็บล้มตาย อาจจะเรียกได้ว่า ไม่มีการเผาบ้านเผาเมือง เพราะถ้าจะเป็นเช่นนั้นจริง ความรุนแรงและความกว้างขวางคงจะมากกว่านี้ และไม่ว่าจะมองอย่างไร สิ่งที่เราเห็น อย่างมากก็เป็นแค่ ‘ความพยายามที่จะสู้’

เราไม่ได้ปฏิเสธการกระทำที่รุนแรงของคนเสื้อแดงว่ามีจริง แต่คงไม่สามารถเหมาไปถึงคนอีกหลายหมื่นที่ไม่ยอมลุกไปไหน

คนเสื้อแดงก็คงไม่ปฏิเสธ เพราะนี่คือสิ่งที่เห็น และรู้

แต่ สิ่งที่ไม่เห็นและไม่รู้ คือสื่อและรัฐได้ล้อมกรอบข่าวสาร ปิด ปั่น และยุยงมากกว่าสิ่งที่คนเสื้อแดงเป็น มากกว่าสิ่งที่คนเสื้อแดงทำ ซึ่งเป็นความรุนแรงมากกว่ากันกี่เท่า โหดเหี้ยมมากกว่ากันเท่าไร และการเสียชีวิตที่ปรากฏอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ หากไม่ใช่ผลงานของสื่อ แล้วจะเป็นผลงานของใคร

เราดูสื่อ ฟังสื่อ เห็นมัน กระทั่งเชื่อมั่น แต่มันต่างไหมกับคนเมื่อ 33 ปีที่แล้ว ที่เชื่อมัน ที่คิดว่าสิ่งที่เห็นนั้น แน่นอน เป็นอื่นไปไม่ได้

คน 33 ปีที่แล้วต้องยิ่งมั่นใจมากกว่า เพราะไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ออกไปฆ่า ฆ่า และก็ฆ่า

แต่แล้วเขาก็พบสิ่งที่จริงกว่าได้ในสักวัน

เรายังต้องเชื่อมั่น มีอะไรที่ต้องทำอีกมาก

ข่าวด่วน คุณหมอเหวง คุณวีระ และคุณณัฐวุฒิถูกพาไปยังค่ายทหารต่างๆแล้ว

วันนี้หลังจากที่คุณหมอเหวง คุณณัฐวุฒิ และคุณวีระเข้ามอบตัวที่ บช.น.แล้ว

ทางตำรวจก็แจ้งข้อหาคดีอาญา แล้วก็ไม่ให้ประกันตัว

ตอนแรก เมื่อตอนเย็น ตำรวจจะจับพวกเราไปแยกขังตามค่ายทหารในกรุงเทพ เช่นหน่วยอากาศโยธิน หรือหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ แต่ทางเราโวย ก็เลยตกลงกันว่าจะให้อยู่ที่ บช.น.กันจนกว่าจะไปที่ศาล

แต่ว่าพอตกดึก ประมาณ5ทุ่ม ก็หักหลังโดยการบุกเข้าเอาตัวแยกไปค่ายทหารคนละที่

คุณณัฐวุฒิไปค่ายที่ปราณบุรี
คุณวีระไปค่ายที่ปทุมธานี
คุณหมอเหวงไปค่ายที่กาญจนบุรี

และมีกระแสข่าวว่าทั้ง3คนอาจโดนเก็บอีกด้วย

อยากเรียกร้องให้พวกเราเข้ามาช่วยกันคิดหน่อยว่าจะทำยังไงดีนะครับ

http://www.sameskybooks.org/board/index.php?showtopic=28856

ประมวลภาพเหตุการความไม่สงบในกรุงเทพ 13/04/2552

ภาพเหตุการณ์ความไม่สงบในกรุงเทพ วันที่ 13 เมษายน 2552 จากการที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้เข้าปิดถนนตามจุดต่างๆของกรุงเทพ เป็นเหตุให้มีการนำกำลังทหารเข้าควบคุมสถานการณ์ ครั้งนี้ CBN ไม่ค่อยมีภาพ เพราะช่างภาพไปเทียวสงกรานต์ต่างจังหวัด