CBOX เสรีชน

26 เมษายน, 2552

ATLAS หน้าต่างย้อนเวลาสู่จุดกำเนิดเอกภพ

อย่างที่หลายคนคงได้อ่าน ได้ฟัง หรือได้ดู จากสื่อต่างๆ ถึงข่าวการทดลองทางวิทยาศาสตร์ครั้งสำคัญ ของการเร่งอนุภาคด้วยเครื่องเร่งอนุภาคขนาดเส้นรอบวงกว่า 27 กิโลเมตร สำหรับทำการศึกษา คุณสมบัติและอันตรกิริยาระหว่างกันขององค์ประกอบขั้นพื้นฐานที่สุดของ จักรวาล

หน้าที่ 1 - ATLAS หน้าต่างย้อนเวลาสู่จุดกำเนิดเอกภพ

โดยฮิกส์แมน




อย่างที่หลายคนคงได้อ่าน ได้ฟัง หรือได้ดู จากสื่อต่างๆ ถึงข่าวการทดลองทางวิทยาศาสตร์ครั้งสำคัญ ของการเร่งอนุภาคด้วยเครื่องเร่งอนุภาคขนาดเส้นรอบวงกว่า 27 กิโลเมตร ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อสร้างสภาวะให้ใกล้เคียงกับสภาวะเศษเสี้ยววินาทีหลังการเกิด Big Bang สำหรับทำการศึกษา ปรากฏการณ์คุณสมบัติและอันตรกิริยาระหว่างกันขององค์ประกอบขั้นพื้นฐานที่ สุดของจักรวาล

เครื่องเร่งอนุภาคขนาดยักษ์ดังกล่าวมีชื่อตามขนาดที่ใหญ่ (Large) และชนิดของอนุภาค (Hadron) ที่เร่งให้มาชนกัน (Collide) ว่า เครื่องเร่งอนุภาค Large Hadron Collider หรือเรียกสั้นๆ ว่า LHC

ในขณะที่เครื่อง LHC มีหน้าที่เร่งอนุภาคให้มาชนกันที่พลังงานสูงเพื่อสร้างสภาวะในเศษเสี้ยว วินาทีหลังจากการเกิด Big Bang สิ่งที่เปรียบเสมือนหน้าต่างที่จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถมองผ่านเข้าไป เห็นปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากเครื่อง LHC คือเครื่องมือที่มีชื่อว่า “เครื่องตรวจจับอนุภาค” หรือ “Particle Detector”

หากไม่มีเครื่องมือชิ้นนี้แล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นที่ LHC จะเป็นเพียงการชนกัน และสลายตัวไปของอนุภาค อย่างไม่มีการรับรู้หรือตรวจบันทึกใดๆ ไว้ เลย


ภาพแสดงโครงสร้างของเครื่องตรวจจับอนุภาค ATLAS ที่ CERN

จากจำนวนเครื่องตรวจจับอนุภาค สี่เครื่องที่ถูกสร้างและออกแบบมารองรับโปรแกรมการศึกษาวิจัยของโครงการ LHC เครื่องที่ใหญ่ที่สุดและทรงอนุภาพมากที่สุด คือเครื่องตรวจจับอนุภาค ATLAS
ATLAS เป็นคำย่อมาจากชื่อเต็มว่า A Toroidal LHC Apparatus ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งตามรูปทรงของแม่เหล็ก (Toroid) อันเป็นหัวใจหลักของเครื่องตรวจจับอนุภาค และ คำว่า Apparatus มาจาก จุดประสงค์หลักของ ATLAS ซึ่งก็คือ เป็นเครื่องมือสำหรับศึกษา ปรากฏการณ์ทุกชนิดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในสภาวะการทดลองที่เกิดขึ้นจากเครื่อง LHC

ก่อนที่จะอธิบายว่านักฟิสิกส์ใช้เครื่อง ATLAS มองย้อนเวลาศึกษาการก่อกำเนิดจักรวาลได้อย่างไร ผมจะขออธิบายถึงส่วนประกอบที่สำคัญของเครื่อง ATLAS เพื่อเป็นพื้นฐานเบื้องต้นเสียก่อน





อันดับแรก สิ่งที่ถือได้ว่าเป็นหัวใจของ ATLAS ก็คือแม่เหล็กทอรอยด์ (Toroid Magnet) ดังจะเห็นได้จากตัวอักษร T ที่อยู่ในชื่อของ ATLAS
สนามแม่เหล็กที่เกิดจากแม่เหล็ก Toroid ของ ATLAS ทำให้อนุภาคเดินทางเป็นเส้นโค้ง และจากการวัดรัศมีความโค้งของการเคลื่อนที่ นักฟิสิกส์จะสามารถคำนวณหาค่าโมเมนตัมของอนุภาคนั้นๆได้ โดยอาศัยหลักทางฟิสิกส์ที่ว่า เมื่ออนุภาคมีประจุเคลื่อนที่ผ่านสนามแม่เหล็ก แรงที่กระทำกับอนุภาคจะมีค่าขึ้นอยู่กับสนามแม่เหล็ก(B) ขนาดของประจุ (q) และความเร็วของอนุภาค (v) นั้นๆ เขียนเป็นสมการได้ว่า Fz = qv × B แรงดังกล่าวเรียกว่าแรงลอเรนซ์ (Lorentz Force)
เมื่อให้แรงลอเรนซ์ Fz เป็นแรงเข้าสู่ศูนย์กลางจะได้ว่า Fz = Fc = mv2/R โดยที่ R เป็นรัศมีของเส้นโค้ง เราก็จะหาโมเมนตัมได้จากความสัมพันธ์ qv × B = mv2/R และค่าโมเมนตัมของอนุภาคจะได้เท่ากับ p = mv = qBRsinθ



ภาพแสดงการติดตังหนึ่งในแปดแม่เหล็ก Toroid ของ ATLAS

เนื่อง จาก อนุภาคที่ต้องการตรวจวัด มีการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเป็น 0.999999 เท่าของความเร็วแสง มันจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายนักฟิสิกส์อย่างมาก ที่จะสร้างสนามแม่เหล็กให้มีพลานุภาพเพียงพอที่จะทำให้อนุภาคเหล่านั้นมีการ เคลื่อนที่เป็นเส้นโค้งในขอบเขตที่จำกัด
สำหรับเครื่องตรวจจับอนุภาค ATLAS ได้ถูกออกแบบให้ใช้แม่เหล็กประเภท superconducting magnet ซึ่งต้องใช้ระบบ cryogenic ทำให้ขดลวด superconducting มีอุณหภูมิต่ำกว่า -269 องศาเซลเซียส เพื่อสร้างสนามแม่เหล็กขนาดกว่า 3.9 Tesla หรือประมาณ 65000 เท่าของสนามแม่เหล็กโลก สำหรับควบคุมให้อนุภาคมีประจุเลี้ยวเบน



นอกจากแม่เหล็กแล้ว องค์ประกอบหลักที่สำคัญของ ATLAS อีกส่วน ก็คือ เลเยอร์แต่ละเลเยอร์ ที่เรียงตัวกัน ประกอบเป็นปริมาตรเกือบทั้งหมดของเครื่อง
เลเยอร์แต่ละเลเยอร์ของ ATLAS เรียงตัวกันเหมือนกับเลเยอร์ของหัวหอม และทำหน้าที่ตรวจจับอนุภาคต่างๆชนิดกัน ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ทำเลเยอร์นั้นๆ
เรียงตามลำดับ จากด้านในไปด้านนอก เลเยอร์ทั้ง 4 เลเยอร์ของ ATLAS ได้แก่ 1) Inner Detector, 2)Electromagnetic Calorimeter, 3) Hadronic Calorimeter และ 4) Muon Spectrometer ดังแสดงในภาพ


ภาพแสดงของส่วนประกอบภายในเครื่อง ATLAS

1) Inner Detector ซึ่งเป็นเลเยอร์ชั้นในสุด และอยู่ใกล้กับ จุดปะทะของโปรตรอนมากที่สุด ประกอบไปด้วยเลเยอร์แบ่งย่อยลงไปอีก 3 เลเยอร์ได้แก่ Pixel Detector, Transition Radiation Tracker, และ Semiconductor Tracker ทั้ง 3 เลเยอร์ดังกล่าวของ Inner Detector มีหน้าที่หลักเหมือนกัน ซึ่งก็คือ การวัดเส้นทางการเดินทาง (track) ของอนุภาคต่างๆ ที่พวยพุ่งมาราวกับสายฝน ให้แม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งจะส่งผลไปถึงการคำนวณหาค่าโมเมนตัมได้อย่างแม่นยำ ดังที่ได้ยกตัวอย่างมาแล้ว ข้างต้น


2) ส่วนเลเยอร์ถัดมาเรียกว่า Electromagnetic Calorimeter ซึ่งประกอบไปด้วยแผ่นเหล็กแสตนเลสและแผ่นตะกั่ว บางๆ รูปทรงเหมือนเครื่องดนตรีอัคคอร์เดียน วางซ้อนทับกัน ระหว่างแผ่นจะแทรกไปด้วยอาร์กอนเหลว
เลเยอร์นี้มีหน้าที่หลักคือ ทำหน้าที่วัดพลังงานอนุภาคที่ทำอันตรกิริยาแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic interaction) โดยแผ่นเหล็กแสตนเลสและแผ่นตะกั่วจะทำปฏิกิริยาไอออไนเซชั่นกับอนุภาคที่ วิ่งเข้ามาจาก LHC ก่อให้เกิดอิเล็กตรอนอิสระที่จะลอยตัว (drift) ไปทำอันตรกิริยากับอาร์กอนเหลว ก่อให้เกิดอิเล็กตรอนทุติยภูมิ (secondary ionized electron) อีกครั้งหนึ่ง ที่จะลอยตัวไปยังแผงวงจรทองแดงที่เชื่อมต่อกับระบบบันทึกผล ที่จะแปลงปริมาณต่างๆ เป็นตัวเลขและบันทึกลงไปในคอมพิวเตอร์เพื่อให้นักฟิสิกส์นำไปศึกษาวิเคราะห์ ต่อไป

3) ถัดออกมาจาก Electromagnetic Calorimeter เป็นเลเยอร์ที่ชื่อว่า Hadronic Calorimeter ซึ่งประกอบไปด้วยแผ่นเหล็กกล้าและวัสดุไวแสง (scintillating material) เรียงตัวซ้อนทับกัน
เลเยอร์นี้มีหน้าที่เดียวกันกับ Electromagnetic Calorimeter นั่นก็คือ วัดพลังงาน แต่ว่า เป็นพลังงานของอนุภาคที่ทำอันตรกิริยานิวเคลียร์แบบเข้ม (Strong interaction หรือ Hadronic interaction) เท่านั้น ซึ่งได้แก่ โปรตรอน นิวตรอน เมซอน
อนุภาคที่พวยพุ่งออกมาจาก LHC เมื่อผ่านเข้ามาในชั้น Hadronic Calorimeter จะทำอันตรกิริยากับนิวเคลียสของอะตอมของแผ่นเหล็ก ก่อให้เกิดอนุภาคทุติยภูมิที่ไปทำอันตรกิริยากับวัสดุไวแสง ส่งผลให้เกิดอนุภาคของแสง ซึ่งก็คือ โฟตอน ที่จะวิ่งเข้าผ่าน สายใยนำแสง (fiber optics) ที่เชื่อมต่อกับระบบบันทึกผลของเครื่อง ATLAS เพื่อให้นักฟิสิกส์นำค่าที่ได้ไปศึกษาวิเคราะห์ต่อไป




ภาพแสดงหน้าจอแสดงผลในห้องควบคุม ATLAS

4) เลเยอร์สุดท้าย เป็นเลเยอร์ภายนอกสุดของเครื่องตรวจจับอนุภาค ATLAS มีชื่อว่า Muon Spectrometer ซึ่งมีโครงสร้างเป็นหลอดหลายพันหลอดเรียงตัวกัน ภายในหลอดจะบรรจุก๊าสเอาไว้ และตรงแกนกลางของหลอดจะเป็นสายไฟที่ต่อกับระบบบันทึกผล
เมื่อ มิวออนที่พุ่งออกมาจาก LHC ผ่านเข้ามาในเลเยอร์นี้ มันจะทำปฏิกิริยาไอออไนเซชั่นกับก๊าสภายในหลอด ก่อให้เกิดอิเล็กตรอนอิสระ ที่พร้อมจะเคลื่อนที่ไปยังสายไฟที่อยู่ตรงแกนกลางของหลอดที่มีศักย์เป็นบวก จำนวนและตำแหน่งของอิเล็กตรอนอิสระเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับพลังงานและโมเมนตัม ของอนุภาคมิวออนที่ผ่านเข้ามา ช่วยให้นักฟิสิกส์สามารถวิเคราะห์ คำนวณ หาคุณสมบัติของอนุภาคชนิดใหม่ได้
มิวออนเป็นอนุภาคที่สำคัญที่สุดที่นักฟิสิกส์ที่ CERN คาดหวังไว้ว่า มันจะนำไปสู่การค้นพบครั้งสำคัญ


** สำหรับใครที่สนใจ สามารถเข้าไปดู animation แสดงการประกอบเป็นเครื่อง และการตรวจจับอนุภาคได้ตามลิงค์ข้างล่างนี้

1. Animation แสดงส่วนประกอบต่างๆ ของ ATLAS
2. Animation แสดงการตรวจจับอนุภาคของ ATLAS






มาถึงตรงนี้ เราพร้อมที่จะรู้แล้วว่า นักฟิสิกส์จะสามารถมองย้อนเวลา ไปสู่ห้วงเศษเสี้ยววินาทีที่ใกล้เคียงกับจุดกำเนิดของจักรวาล เพื่อศึกษาองค์ประกอบพื้นฐานและวัดคุณสมบัติต่างๆ ของมัน ด้วยเครื่องตรวจจับอนุภาค ATLAS ได้อย่างไร





สมมติว่าที่สภาวะการทดลองของ LHC ซึ่งเป็นสภาวะในห้วงเสี้ยววินาทีหลังจากการเกิด Big Bang อนุภาคฮิกส์ ซึ่งเป็นอนุภาคที่นักฟิสิกส์เชื่อว่า เป็นตัวก่อให้เกิดกระบวนการของการได้มาซึ่ง “มวล” ของอนุภาคตัวอื่นๆ ได้ปรากฏตัวให้เห็น จริง
ด้วยทฤษฎีทางฟิสิกส์อนุภาค นักฟิสิกส์ที่ CERN ได้คำนวณไว้ว่า หนึ่งในหลายช่องทาง ฮิกส์จะสลายตัวให้ อนุภาค Z โบซอนสองตัวโดยตัวหนึ่งอยู่ในสภาวะกระตุ้น และจากนั้น อนุภาค Z ทั้งสองตัวนั้น จะสลายตัวให้อนุภาค อิเล็กตรอนและโพซิตรอน อย่างละ 2 ตัว เขียนเป็นสัญลักษณ์ได้ตามข้างล่างนี้




อิเล็กตรอน (e-) และโพซิตรอน (e+) ที่เป็นผลผลิตสุดท้าย จะถูกตรวจจับด้วย ATLAS ค่าพลังงานจะถูกวัดได้ด้วย Electromagnetic Calorimeter และ โมเมนตัมก็วัดได้จาก Inner Detector และคุณสมบัติต่างๆ ก็จะถูกบันทึกไว้ด้วย ATLAS
อาศัยปริมาณทางฟิสิกส์เหล่านี้ นักฟิสิกส์จะสามารถนำมาคำนวณกลับไปหา พลังงาน โมเมนตัม และคุณสมบัติต่างๆ ของอนุภาคฮิกส์ได้ และช่วยให้พวกเขาสามารถไขกุญแจปริศนาอีกบทหนึ่งของการก่อ กำเนิดจักรวาล



ภาพแสดง CG จำลองการเกิดอนุภาคฮิกส์ที่เครื่องตรวจจับอนุภาค ATLAS


หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง สมมุติว่า ที่สภาวะพลังงานของ LHC อนุภาค supersymmetry ที่เป็นหนึ่งในเครือข่ายต้องสงสัยว่า จะเป็นองค์ประกอบของสสารมืด (dark matter) ปรากฏตัวให้เห็นตามที่คาดไว้จริง

นักฟิสิกส์ที่ CERN ได้คำนวณไว้ว่า หนึ่งในหลายวิถีทางที่เป็นไปได้ มันจะสลายตัวให้อนุภาคอิเล็กตรอนหรือมิวออนในผลผลิตสุดท้าย ซึ่งเขียนได้เป็นสัญลักษณ์




ด้วยวิธีการลักษณะเดียวกัน เมื่อนักฟิสิกส์รู้ค่า พลังงาน และโมเมนตัม และ ค่าต่างๆ ทางกายภาพของอิเล็กตรอนกับโพซิตรอนแล้ว พวกเขาก็จะสามารถคำนวณกลับไปได้ เพื่อหาคุณสมบัติต่างๆ ของ อนุภาค supersymmetry ซึ่งอาจจะส่งผลไปถึงการไขปริศนาของ dark matter และการขยายตัวด้วยอัตราเร่งของจักรวาลได้อีกด้วย


ภาพแสดง Feynman's Diagram ของการเกิดอนุภาค supersymmetry ที่ LHC

หรือไม่ว่าจะเป็น mini black holes ที่หลายๆคนหวาดระแวงกัน ถ้ามันปรากฎตัวให้เห็นจริงที่เครื่อง LHC (ซึ่งมีโอกาสน้อยมากๆ ) มันจะคงสภาพอยู่ได้เพียงเศษเสี้ยววินาที ( ห้วงเวลาน้อยมากๆ ในระดับ 10^{-26} วินาที ไม่นานพอ ที่จะดูดกลืนโลกของเราไปได้หรอกครับ) ก่อนจะสลายตัวด้วยกระบวนการ Hawing Radiation ให้อนุภาคอิเล็กตรอน โฟตอน มิวออน หรือ ควาร์ก ที่ ATLAS สามารถตรวจวัดและทำการบันทึกเพื่อใช้ในการศึกษาได้ เช่นเดียวกัน (อ้างอิงจาก The Case of Mini Black Holes)



ภาพจำลองการเกิด mini black hole ที่ ATLAS


นักฟิสิกส์ได้คาดหวังไว้ว่า ปรากฏการณ์ต่างที่เกิดขึ้นที่เครื่อง LHC จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงข้อพิสูจน์ ของทฤษฎีหลายทฤษฎีทางฟิสิกส์ ที่กว่า 30-40 ปีที่ผ่านมา ได้เพียงแต่ล่องลอยอยู่ในจินตนาการหรือละอองหมึกที่พ่นจากเครื่องปริ๊นเตอร์ ลงบนกระดาษ ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีการได้มาซึ่ง "มวล" ของอนุภาคหรือ Higgs mechanism, ทฤษฎีสมมาตรยิ่งยวด (Supersymmetry), หรือ การไขปัญหาของความไม่สมดุลของสสารและปฏิสสารในจักรวาล หรือ ทฤษฎีการมีมิติเสริม (Extra Dimensions) นอกจากนี้ ผลการทดลองที่จะออกมา จะเป็นตัวบ่งชี้ ถึงทิศทาง แนวทาง และกรอบ ในการค้นคว้าวิจัย ของนักฟิสิกส์ในสาขานี้ในอีก สิบหรือยี่สิบปีข้างหน้าเลยทีเดียว
การทดลองของ LHC ถ้าหากประสบความสำเร็จ จะเป็นการก้าวข้ามกรอบของความไม่รู้อีกครั้งและจะบอกนักฟิสิกส์ในสาขานี้ ว่า สิ่งที่พวกเขาได้คิด ถกเถียง ตีพิมพ์กันมาหลายสิบปีที่ผ่านมา ถูกหรือผิดอย่างไร และที่แท้จริงแล้ว ธรรมชาติ นั้นได้เป็นอย่างที่พวกเขาคิดกันหรือไม่ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นที่ LHC จะเป็นตัวบ่งบอก





หลายคนคงมีคำถามยอดฮิต ว่า ผลที่ได้จากการค้นคว้าวิจัยของเครื่อง LHC จะนำมาประยุกต์ทำอะไรได้ สามารถนำมาปรับปรุงคุณภาพชีวิต รักษาสิ่งแวดล้อม ในแง่ไหน อย่างไร ในช่วงเวลาที่ โลกของเรากำลังเผชิญปัญหาโลกร้อน อากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรง ทรัพยากรพลังงานและทรัพยากรน้ำก็กำลังจะเข้าสู่สภาวะวิกฤติ ทำไมเราไม่เอามันสมองและสติปัญญา ของนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย มาช่วยแก้ปัญหาพวกนี้ไม่ดีกว่าหรือ

คนที่ถาม คำถามเหล่านี้ อย่าลืมว่า อิเล็กตรอน ไม่ได้ถูกค้นพบ เพราะ J.J. Thompson มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะนำความรู้ที่ได้ไปสร้าง iPod หรือโทรทัศน์ หรือทฤษฎีที่ใช้อธิบายพฤติกรรมเชิงควอนตัมของแสง ก็ไม่ได้ถูกสร้างขึ้น เพราะ Einstein คิดไว้ก่อนว่าจะไปทำแสงเลเซอร์หรือสร้างเครื่องเล่นดีวีดี หรือ ไม่ว่าจะเป็น World Wide Web ก็ไม่ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา เพราะ Tim Berners-Lee ต้องการสร้างระบบขายสินค้าทางอินเตอร์เน็ตหรือต้องการสร้างระบบจองตั๋ว เครื่องบินออนไลน์

หากแต่ องค์ความรู้และนวัตกรรม ที่ได้จากงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ ที่มุ่งตอบคำถามเชิงปรัชญาทางธรรมชาติในขึ้นพื้นฐานที่สุด บ่อยครั้ง จะมาเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ และนำไปประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ อย่างที่ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ และคุณค่าเพิ่มที่ได้จาก ความรู้และนวัตกรรมที่เป็นผลิตผลของงานวิจัยด้านนี้ หลายอย่าง มีคุณค่าที่ไม่สามารถประเมินออกมาเป็นตัวเลขได้เลย ( ยกตัวอย่าง World Wide Web ที่ มูลค่าเพิ่มทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การแพทย์และการศึกษา ที่ได้จากนวัตกรรมชิ้นนี้ ประเมินค่าออกมาเป็นตัวเลขไม่ได้เลย หรือว่ามีนักเศรษฐศาสตร์คนไหน สามารถคิดออกมาเป็นตัวเลขได้ จะช่วยชี้แนะ จักขอบคุณมากครับ) และ ถ้าหากมีคนคิดออกมาว่า จะสร้างโทรศัพท์มือถือ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร โดยไม่มีองค์ความรู้เกี่ยวกับ อิเล็กตรอนเลยว่า มีประจุเท่าไร มวลเท่าไร มีสปินรอบตัวเองอย่างไร คงไม่มีทาง จะเราจะได้โทรศัพท์มือถือ มาอำนวยความสะดวกสบายกับเราอย่างทุกวันนี้

มันจึงไม่แน่เลยว่า การทดลองที่ LHC จะก่อให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือว่า เราอาจจะได้แหล่งพลังงานชนิดใหม่ ที่ไม่มีใครสามารถคาดคิด คาดเดาได้ เลย

การลงทุนค้นคว้าวิจัยและพัฒนาบุคลากรในด้านนี้ จึงเป็นการลงทุนในระยะยาว เป็นการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ที่จะเป็นรากฐานของเทคโนโลยี ในอนาคต สร้างทรัพยากรมนุษย์ในประเทศ ที่มีความ สนใจ ใคร่รู้ ในธรรมชาติ มีความคิดวิเคราะห์ อย่างเป็นระบบ มีทักษะในการทำงานร่วมมือวิจัย กับนานาชาติ พร้อมร่วมงานกับนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก ในการเผชิญปัญหาในอนาคต ที่นับวันจะท้าทายและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากเมืองไทยจะได้ รากฐานที่แข็งแกร่งของเทคโนโลยีที่ตั้งอยู่บนฐานขององค์ความรู้ทางวิทยา ศาสตร์แล้ว บุคลากรที่เป็นผลผลิตจากงานวิจัยด้านนี้ ก็จะเข้าไปผสานอยู่ในสังคม วัฒนธรรมและความคิดของคนไทย ที่จะช่วยให้คนไทยที่ นอกจากจะมีบุคลิกด้านความมีน้ำใจ โอบอ้อม อารีย์ เป็นที่ประทับใจของชาวโลกแล้ว อาจจะยังมีการวิวัฒน์ไปเป็นคนที่ สนใจ ใคร่รู้ ในธรรมชาติ มีความคิดวิเคราะห์ เป็นระบบ และพร้อมจะล้มเลิกความคิดเดิมและยอมรับความคิดใหม่ เมื่อมีผลการพิสูจน์ มีข้อเท็จจริงสนับสนุน (evidence based) แน่ชัด หาใช่ตัดสินใจ ใตร่ตรองกันบนพื้นฐานของอารมณ์ ความรู้สึก ความเกรงใจเป็นส่วนใหญ่ โดยไม่ได้ตั้งอยู่บนรากฐานของข้อเท็จจริงหรือองค์ความรู้ที่มากจากการศึกษา อย่างเป็นระบบแต่อย่างใด

** ในงานวิจัยสาขานี้ มวล กับ พลังงาน ของอนุภาค มีหน่วยเดียวกัน เพราะนักฟิสิกส์ได้ให้ค่าความเร็วแสง c = 1 เพื่อความสะดวก ไม่ต้องเขียนค่า c เอาไว้ทุกสมการ และจากความสัมพันธ์ของมวลกับพลังงานของไอน์สไตน์ E = mc2 จะได้ว่า E = m)


ภาพจาก:
- ATLAS Photos
อ้างอิง:
- ATLAS Proposal and Technical Design Report
- ATLAS Notes
- ATLAS Scientific Notes
- The Case of Mini Black Holes, Aurélien Barrau and Julien Grain
- Black Holes in Theories with Large Extra Dimensions: a Review, Panagiota Kanti
- The end of the world at Large Hadron Collider, Michael E. Peskin

วิชาการ.คอม


นปช.ร้องUNประณามอภิสิทธิ์มือเปื้อนเลือด เร่งกดดันยุบสภาเลือกตั้งใหม่ตามรธน.40

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
22 เมษายน 2552
*ข่าวเกี่ยวเนื่อง คนไทยในอังกฤษจดหมายผนึกถึงอภิสิทธิ์และยูเอ็นกรณีสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมือง

หมายเหตุไทยอีนิวส์: คุณจักรภพ เพ็ญแข ได้ส่งจดหมายฉบับหนึ่งในนามของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ถึงนายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาติ(UN)ลงวันที่20เมษายนศกนี้ โดยเรียกร้องให้UNประณามรัฐบาลอภิสิทธิ์ และระบอบปกครองเผด็จการไทยที่ได้ปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนที่ชุมนุมโดยสันติ โดยชี้ว่ามีผู้จุดชนวนความรุนแรงขึ้นเพื่อปราบปราม กับเรียกร้องให้กดดันต่อรัฐบาลได้ยุบสภา แล้วจัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่ ภายใต้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย ฉบับพ.ศ.2540 ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้


แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
ราชอาณาจักรไทย


20 เมษายน 2552

ฯพณฯบัน คีมูน
เลขาธิการ สหประชาชาติ
สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ First Avenue t 46th Street New York, NY 10017
สหรัฐอเมริกา

กราบเรียน ท่านเลขาธิการ สหประชาชาติ

เรา เขียนมา ณ ที่นี้เพื่อร้องขอท่านให้ประณามรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเป็นรัฐบาลปัจจุบันของประเทศไทย ที่ได้ทำการปราบปรามผู้ชุมนุมที่่ไม่พกอาวุธอย่างโหดร้าย ซึ่งพวกเขากำลังแสวงหาประชาธิปไตยอย่างแท้จริงด้วยสันติวิธีภายใต้การปกครอง โดยระบอบรัฐธรรมนูญที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

เมื่อวันที่ 14 เมษายน นายอภิสิทธิ์ได้ประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อจะได้ใช้กำลังทหารในการกำจัดการ ชุมนุมของประชาชนเสื้อแดงที่ไม่ได้พกอาวุธที่ใส่เสื้อสีแดงที่รู้จักกันใน นาม National United Front of Democracy Against Dictatorship (UDD) หรือ Democratic Alliance Against Dictatorsihp (DAAD) ผู้ชุมนุมเสื้อแดงหลายร้อยคนได้เสียชีวิตและอีกหลายคนที่บาดเจ็บสาหัส การกระทำอันป่าเถื่อนของรัฐบาลต่อประชาชนในครั้งนี้ สื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศถูกปิดกั้น โดยรัฐบาลไทยปัจจุบันต่อประชาชนของเขาถูกปิดกั้นจากสายตาของสื่อมวลชนทั้งใน และนอกประเทศ การหลอกลวงครั้งนี้เกิดขึ้นได้เพราะรัฐบาลได้ปิดสัญญาณและช่องทางของการสื่อ สารทุกชนิดโดยเฉพาะที่ใช้โดยกลุ่มเสื้อสีแดง

ถึงกระนั้น ผู้ชุมนุมได้ใช้กล้องบันทึกการกระทำที่น่าสะเทือนขวัญและโหดร้ายกันเอง ยิ่งกว่านั้นเราเชื่อว่าท่านคงจะได้เห็นการกระทำอันป่าเถื่อนที่ถูกบันทึก ไว้โดยสื่อมวลชนนานาชาติที่สำคัญอย่างเช่น CNN และ BBC รวมถึงที่อื่นๆ พวกเราชาวเสื้อแดงไม่ได้มีความรุนแรง และจุดหมายของพวกเราจำนวนหลายแสนที่มาชุมนุมก็เพื่อต้องการกลับคืนมาของ ประชาธิปไตยที่มีระบบการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นพื้นฐาน

และ ในที่สุด จุดมุ่งหมายของพวกเราและการใช้เสรีภาพทางการเมืองของพลเมืองที่รับรองโดยรัฐ ธรรมนูญของไทย กฏบัตรของสหประชาชาติ และปฏิญญาณสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งประเทศไทยในฐานะสมาชิกของสหประชาชาติได้ลงนามและให้สัตยาบัน ก็ได้เผชิญกับกองกำลังทหารจำนวนมากที่สั่งการโดยรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่ถูกแต่ง ตั้งโดยทหารและไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

จากข้อเท็จจริงแล้วสิ้งที่พวกเราอยากจะเน้นคือดังนี้:

พวก เราชาวเสื้อแดงที่มาจากทุกแห่งหนเป็นผู้ที่รักความสงบและยึดมั่นในกฏกติกา ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2551 พวกเราได้รวมตัวชุมนุมอย่างเป็นจำนวนมากเพื่อที่จะแสดงออกถึงข้อเรียกร้อง ที่จริงใจต่อการฟื้นกลับมาของประชาธิปไตยที่แท้จริงในประเทศไทย พวกเรามาโดยปราศจากอาวุธและการชุมนุมเหล่านี้มีขึ้นโดยปราศจากความรุนแรงโดย สิ้นเชิง ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่พัทยาซึ่งเป็นที่ๆมีการจัดประชุมสุดยอดอาเซียนบวก 6 และถัดมาการจัดประชุมสุดยอดครั้งที่ 4 ของเอเชียตะวันออกที่กรุงเทพฯวันที่ 14 เมษายนนั้นถูกกระตุ้นโดยกลุ่มอื่นซึ่งบางคนได้สวมรอยเข้ามาเป็นเสื้อแดง และเสื้อน้ำเงินซึ่งพวกเราเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลของนาย อภิสิทธิ์ นายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของรัฐบาลปัจจุบันได้เป็นผู้สั่งการการโจมตีเสื้อ แดงที่ปราศจากอาวุธโดยตรงและใส่เสื้อน้ำเงินในขณะนั้น เสื้อแดงไปที่นั่นแค่เพื่อแสดงออกต่อเพื่อนสมาชิกในกลุ่มประเทศอาเซียนและ อีก 6 ประเทศถึงความไม่พอใจในรัฐบาลภิสิทธิ์ ความรุนแรงมันถูกสร้างขึ้นเพื่อกล่าวโทษเสื้อแดงเพื่อที่จะประกาศพ.ร.ก.ฉุก เฉินและการใช้กำลังทหาร ข้อเท็จจริงนี้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ไม่ได้พร้อมที่จะเคารพ เสรีภาพของการแสดงออกโดยสันติที่รับรองโดยรัฐธรรมนูญไทยและกฏหมายนานาชาติ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธินุษยชน

มันเป็นที่ทราบดีทั้งในประเทศและ ระหว่างประเทศว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ถูกนำเข้ามาสู่ตำแหน่งโดยทหารและ กลุ่มมีอิทธิพลในสังคมที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง วิธีการปกป้องอำนาจและสิทธิพิเศษอย่างน่าละอายใจมันฝืนความต้องการของ ประชาชนส่วนใหญ่
พวกเราควรยอมรับรัฐบาลที่พวกเราไม่ได้เลือกมาด้วยการถูกบังคับหรือไม่?

พวก เราอยากจะเน้นว่าการเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงของเราไม่ได้หมาย ความว่าเราต้องการอำนาจเหนือรัฐบาลปัจจุบันหรือใครก็ตาม เราเชื่อและมั่นใจว่าทุกคนไม่ว่าจะเป็นเสื้อแดงหรือเสื้อเหลือง (หรือสมาชิกของกลุ่มพันธมิตร) มีความเท่าเทียมกันภายใต้ประชาธิปไตยที่แท้จริงและควรจะถูกปฏิบัติอย่างเท่า เทียมกัน ดังนั้น เราเรียกร้องให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ยุบสภาและคืนอำนาจในการเลือกรัฐบาลให้กลับ สู่ประชาชนชาวไทย และในการดำเนินการดังกล่าว พวกเราเรียกร้องให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 ที่เป็นประชาธิปไตยและเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน ที่ถูกฉีกแลเปลี่ยนโดยผู้นำรัฐประหารปี 2549 เพื่อพยายามที่จะลดอำนาจของผู้ออกเสียงเลือกตั้ง พวกเราขอรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่อ้างว่าเป็นรัฐบาลของประชาชนมากไปไหม?

ถ้า รัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นรัฐบาลที่เป็นของประชาชนจริง ทำไมถึงกลัวที่จะคืนอำนาจกลับไปสู่ประชาชน พวกเราพร้อมที่จะยอมรับนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีของเราถ้าเขาถูกเลือก ตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย ในประเด็นนี้เราแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเสื้อเหลืองที่ต้องการทำลายเศรษฐกิจ ชองไทยเพื่อที่จะกำจัดนายกรัฐมนตรีถึง 3 คนที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งวาระไร้ความเป็นประชาธิปไตยดังกล่าวประสบผล สำเร็จด้วยความช่วยเหลือจากทหารและพลเรือนที่มีอิทธิพล

มันค่อนข้าง จะชัดเจนต่อสาธารณชนไทยว่าประธานสภาองคมนตรีปัจจุบัน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และองคมนตรีอื่นบางคนได้เข้ามาแทรกแซงการเมืองไทยมาโดยตลอด รวมถึงความสับสนวุ่นวายในประเทศไทยในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา การเข้ามายุ่งเกี่ยวได้สกัดกั้นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง พล.อ.เปรมและองคมนตรีท่านอื่นไม่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อประชาชนชาวไทยหรือได้ รับอำนาจดังกล่าวจากรัฐธรรมนูญของประเทศไทย แต่ถึงกระนั้นพวกเขายังบ่อนทำลายความสามารถของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งใน การทำงานให้กับประชาชนโดยรวม บทบาทเดียวของพวกเขาที่ถูกระบุไว้ในกฏหมายสูงสุดคือการเป็นที่ปรึกษาของพระ มหากษัตริย์ และมันเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าประธานองคมนตรีคนปัจจุบันไม่ได้ทำหน้าที่โดย สุจริตใจ พวกเราขอเรียกร้องให้เขาและองคมนตรีบางท่านลาออกจากตำแหน่ง

พวก เราไม่ได้เป็นผู้ต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่อ้างโดยรัฐบาลของ อภิสิทธิ์และผู้สนับสนุนเสื้อเหลืองเลย เรานับถือสถาบันพระมหากษัตริย์ว่าเป็นสถาบันของชาติที่มีคุณค่าเหลือล้นที่ เป็นจุดศูนย์รวมของประเทศเข้าด้วยกันมาหลายศตวรรษ และแน่นอน เป็นเพราะความเคารพรักต่อสถาบันฯที่เราต้องแสดงความต่อต้านต่อบทบาทที่อยู่ นอกเหนือรัฐธรรมนูญที่สวมโดยประธานองคมนตรีและองคมนตรีท่านอื่นบางคน มันเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายของพวกเขาที่ขัดขวางความเป็นประชาธิปไตยอย่าง แท้จริงของประเทศไทยรวมถึงทำให้ภาพพจน์ของพระมหากษัตริย์ที่เป็นที่รักของ ชาวไทยเสื่อมเสียพระเกียรติยศ

ดังนั้นการที่เราพูดต่อต้านการกระทำ ของประธานองคมนตรีปัจจุบันและองคมนตรีบางท่านเราไม่ต้องการจะตำหนิพระเจ้า อยู่หัวจะด้วยวิธีใดก็ตาม ถึงแม้ว่าสภาองคมนตรีจะใกล้ชิดกับพระเจ้าอยู่หัวสำหรับเวลาที่พระองค์ท่าน ต้องการคำปรึกษา ไม่มีทางที่จะถือว่าเป็นสถาบันกษัตริย์เอง ข้อที่ 4 และ 5 ข้างบนนี้อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องภายในประเทศที่ไม่เกี่ยวกับสมาคมโลก แต่พวกเราคิดว่ามันสำคัญมากที่เราจะแถลงจุดยืนของเราในเวทีนานาชาติเพื่อไม่ ให้เราถูกเข้าใจผิดในสายตาชาวโลก

ในช่วงรัฐบาลของนายกฯ ดอกเตอร์ ทักษิณ ชินวัตร ที่มาจากการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ซึ่งเป็นผู้นำพรรคฝ่ายค้านตอนนั้นร่วมกับเสื้อเหลืองที่กล่าวหา อย่างอื้อฉาวและอย่างไร้ข้อมูลว่านายกทักษิณไม่จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ การกล่าวหามันเริ่มรุนแรงขึ้นถึงขั้นไม่มีเวลาที่จะพิสูจน์ความจริงจนทำให้ รัฐบาลของทักษิณถูกกำจัดโดยรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 การก่อรัฐประหารเพื่อโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมันเป็นการใช้อำนาจ อย่างผิดที่น่ารังเกียจบนพื้นฐายของการกล่าวเท็จ

พวกเราที่รักสงบ และเป็นพลเมืองของโลกที่ปฏิบัติตามกฏหมายสมควรจะอนุญาตหรือยอมรับการใช้ กำลังทหารมากดขี่ความเต็มใจทั่วไปของประชาชนในยุคศรรตวรรษที่ 21หรือไม่?

จากมุมมองทางกฏหมาย พวกเราขอให้ท่านพิจารณาปัจจัยดังต่อไปนี้ตามกฏหมายสากล:

รัฐบาล อภิสิทธิ์กำลังกระทำสิ่งที่ฝ่าฝืนกฏหรือหลักปฏิบัติที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญ ของไทย กฏบัตรของสหประชาชาติ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมถึง ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ปี 1948 และข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ทั้งหมดเป็นการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศ สมาชิกของสหประชาชาติที่ได้ลงนามและให้สัตยาบัน

การกระทำของรัฐบาล อภิสิทธิ์และกลุ่มที่สนับสนุนเขา (ซึ่งรวมถึงรัฐบาลของพล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ - รัฐบาลที่แต่งตั้งโดยทหารหลังรัฐประหารปี 2549) ที่ช่วยรัฐบาลปัจจุบันเข้ามามีอำนาจเป็นการกระทำที่ผิดต่อจุดมุ่งหมายของสห ประชาชาติที่จะสร้าง "ปัจจัยเพื่อให้ความยุติธรรมและการเคารพกติกาที่มาจากสนธิสัญญาและกฏหมาย สากลอื่นๆสามารถคงอยู่รักษาไว้"

ขบวนการยุติธรรมได้ถูกใช้อย่างไม่ ถูกต้องโดยรัฐบาลอภิสิทธิ์เพื่อที่จะกำจัดศัตรูทางการเมือง พรรคไทยรักไทยที่นำโดยอดีตนายกฯทักษิณ ซึ่งได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งสองครั้งติดกัน ได้ถูกยุบไป รูปแบบกฏหมายที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใช้เพื่อยุบพรรคไทยรักไทยนั้นมันสามารถ ที่ใช้ได้กับพรรคประชาธิปัตย์ของนายอภิสิทธิ์เช่นกัน แต่พรรคประชาธิปัต์ไม่ได้ถูกยุบ พรรคพลังประชาชนที่ตั้งขึ้นมาแทนหลังจากนั้นนำโดยนายสมัคร สุนทรเวช ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งครั้งแรกหลังจากรัฐประหารถึงแม้ว่าทหารและศาลจะ พยายามทุกวิถีทางที่จะกีดกันพรรคนี้ พรรคพลังประชาชนประสบชะตาเดียวกับพรรคไทยรักไทย นายกฯสมัครถูกสั่งให้ออกจากตำแหน่งจาการทำงานอดิเรกเป็นผู้จัดรายการทำอาหาร ทางโทรทัศน์ โดยข้อเท็จจริงแล้ว นายกฯสมัคร ได้รับเงินค่าตอบแทนเพื่อไปซื้อเครื่องปรุงสำหรับจัดรายการ แต่ดูเหมือนมันจะฝ่าฝืนกฏหมาย (ซึ่งเขียนโดยคณะทำงานที่แต่งตั้งโดยทหาร) และเขาก็ถูกตัดสินให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯ ในการตัดสินคดีอย่างหนักเช่นนี้ที่ฝืนจิตวิญญาณของกฏหมาย ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ใช้พจนานุกรมในการอ้างอิงความถูกต้องของการตัดสิน คดีแทนที่จะใช้กฏหมายแรงงานที่เกี่ยวข้อง ถ้ามีการใช้กฏหมายแรงงานที่เกี่ยวข้องตามหลักวิชาการแล้ว นายกฯสมัครก็จะพ้นจากข้อกล่าวหา ตัวอย่างของการใช้กฏหมายสองมาตรฐานบ่งชี้ถึงความยินยอมขององค์กรและฝ่ายตรง ข้ามต่างๆที่จะล้ำเส้นในความพยายามที่จะบ่อนทำลายประชาธิปไตยในประเทศไทย

พวก เราประหลาดใจว่า ในขณะที่นายสมัครถูกบังคับให้ลงจากตำแหน่งนายกฯหลังจากคำตัดสินของศาล แต่อย่างน้อยหนึ่งในตุลาการของศาลหรือสงสัยจะมากกว่า ก็ทำงานพิเศษในบริษัทเอกชนในฐานะผู้เชี่ยวชาญและยังทำงานต่อโดยได้รับข้อยก เว้นจนถึงทุกวันนี้ การใช้กฏหมายสองมาตรฐานเช่นนี้ไม่สามารถจะเป็นพื้อนฐานของสังคมที่โปร่งใส และเท่าเทียมกัน

นายกฯสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ได้รับหน้าที่ต่อจากนายกฯสมัคร ก็ได้รับชะตากรรมเช่นเดียวกันเมื่อพรรคพลังประชาชนถูกยุบซึ่งผู้สังเกตุ การณ์อิสระหลายคนได้บรรยายว่าเป็น “การตัดสินที่แปลกประหลาดของศาล” และอีกครั้งหนึ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ควรจะถูกยุบภายใต้หลักการที่ตุลาการศาล รัฐรรมนูญใช้แต่พวกเขาก็ไม่ถูกแตะต้องเลย ด้วยการที่สามพรรคร่วมรัฐบาล (พปช, ชาติไทย และมัชชิมาธิปไตย) ถูกกำจัดออกไป พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้มาเป็นรัฐบาลโดยปริยาย มันน่าตลกที่การตัดสินยุบพรรคของศาลมันเกิดขึ้นในช่วงที่มีการยึดสนามบิน สุวรรณภูมิอย่างผิดกฏหมายโดยกลุ่มเสื้อเหลืองที่สนับสนุนโดยพรรคประชาธิปัต ย์ มันดูไม่ยุติธรรมที่การก่ออาชญากรรมโดยฝ่ายเสื้อเหลืองและผู้สนับสนุนเขาคือ พรรคประชาธิปัตย์ได้รับรางวัลอย่างโจ่งแจ้งขนาดนั้น ผลที่เกิดขึ้นยืนยันอย่างน่าปวดใจถึงอำนาจของผู้ที่มีสิทธิ์พิเศษและชนชั้น ในประเทศซึ่งทำให้เกิดความเสียหายกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งส่วนใหญ่

ทั้ง หมดนี้จะไม่เกิดขึ้นกับสังคมที่มีกฏหมายที่ยืนอยู่บนพื้นฐานของความเท่า เทียมกันซึ่งถูกบัญญัติไว้ในมาตราที่ 7 ของปฏิญญาณสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ภายใต้รัฐบาลอภิสิทธิ์ทุกคนไม่มีความเท่าเทียมกันภายใต้กฏหมาย จุกยืนของรัฐบาลปัจจุบันไม่รู้เห็นเป็นใจกับการปฏิบัติสากล

ถ้าความ เสมอภาคภายใต้กฏหมายมันหมายถึงทุกคนไม่ว่าเขาจะเป็นใครจะต้องถูกพิจารณาใน ศาลอย่างเป็นธรรมตามกระบวนการทางกฏหมาย รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ไม่ได้เข้าใจตามนั้น ในขณะที่การดำเนินการตามกฏหมายต่อเสื้อเหลืองซึ่งได้ก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรง ต่อชาติหลายครั้งมันช้ามากถึงขั้นที่นักข่าวต่างประเทศอย่างเช่น The Economist เชื่อว่าความยุติธรรมจะไม่เกิดขึ้นหรือไม่ก็จะต้องมีการต่อรอง แต่การดำเนินการตามกฏหมายต่อเสื้อแดงมันเร็วมาก

เราไม่เชื่อว่าขบวน การยุติธรรมที่น่าเชื่อถือจะมองว่าการปิดสนามบินใหญ่สองแห่งโดยเสื้อเหลือง เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถึงกระนั้น รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ยังหวังว่าพวกเราและชาวโลกจะไม่เอาผิดกับเสื้อเหลือง โดยแท้จริง นายอภิสิทธิ์ ยังได้แต่งตั้งหนึ่งในผู้ที่ยั่วยุให้เกิดการยึดสนามบินสุวรรณภูมิเป็น รัฐมนตรีต่างประเทศ! การแต่งตั้งผู้ก่อการร้ายที่รู้กันดีในตำแหน่งรัฐมนตรีที่สำคัญไม่เป็นนิมิต หมายที่ดีต่อประชาธิปไตยเลย

รัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่เคารพในความคิดของ การเป็นมนุษย์ที่มีเสรีภาพเพื่อใช้สิทธิ์และเสรีภาพทางการมืองและพลเมืองที่ ประกาศไว้ในปฏิญญาณสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง

ที่ระบุไว้ชัดกว่านั้น รัฐบาลของเขาไม่ยอมรับความเห็นที่แตกต่างและที่จริงแล้วถือใครที่ไม่เห็นตรง กันว่าเป็นศัตรูของเขา รัฐบาลปัจจุบันแบ่งแยกคนไทยโดยความเห็นทางด้านการเมือง และที่แย่กว่านั้นนายอภิสิทธิ์ได้ประกาศไม่นานมานี้ว่าเสื่อแดงเป็นศัตรูของ ประเทศ จุดยืนนี้ไม่ได้เป็นการกระทำของผู้นำที่รวมประเทศเข้าด้วยกันอย่างสามัคคี

ถ้า เสิ้อแดงที่ไม่ได้พกอาวุธและมีสันติเป็นศัตรูของชาติอย่างที่นายอภิสิทธิ์ อ้าง เขากำลังบอกว่าเสื้อเหลืองที่พกอาวุธและมีความรุนแรงที่ไปปิดสนามบินนานา ชาติและเหนี่ยวรั้งนักท่องเที่ยวและคนไทยหลายพันว่าเป็นเพื่อนที่ดีกับ ประเทศหรือ?

รัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่ได้เคารพสิทธิ์ของการมีเสรีภาพที่ จะชุมนุมอย่างสงบที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 20(1) ของปฏิญญาณสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน การชุมนุมอย่างสันติและปราศจากอาวุธของเสื้อแดงถูกมองว่าเป็นภัยต่อรัฐบาล อภิสิทธิ์ ถ้ามีอะไรที่ “น่าอันตราย” เกี่ยวกับเสื้อแดง มันก็คือจำนวนคนที่มากมายของสามัญชนที่มาจากทั่วทุกแห่งของประเทศไทยและมา เพื่อเรียกร้องการยุบสภา ดังนั้นถ้าพวกเราจะเป็นอันตรายพวกเราก็แค่เป็นอันตรายกับรัฐบาลที่ไม่ได้มา จากการเลือกตั้งของนายอภิสิทธิ์เท่านั้น ไม่ใช่กับประเทศหรือกับประชาชนคนไทย เพราะฉะนั้นการกระทำของรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่จะกดขี่เสื้อแดงแท้จริงแล้วที่ เป็นภัยคุกคามต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน (อย่างเช่นการใช้สิทธิ์ที่จะมีเสรีภาพทางพลเมืองและการเมืองที่รับรองโดยรัฐ ธรรมนูญไทยและสนธิสัญญานานาชาติหลายฉบับ) การกระทำของรัฐบาลอภิสิทธิ์เองที่เป็นภัยคุกคามต่อชาติไทยและประชาชนชาวไทย

พวก เราเสื้อแดง ได้ให้คำมั่นสัญญาอย่างจริงจังว่าการเคลื่อนไหวหรือการชุมนุมของเราจะต้อง ถูกต้องตามสิทธิ์ที่มอบให้โดยรัฐธรรมนูญไทย (เช่นการชุมนุมโดยสันติ ปราศจากอาวุธ และถูกกฎหมาย) เราถือคำมั่นสัญญาในหัวใจและได้ปฏิบัติตามกฎหมายมาธดยตลอด เราเชื่ออย่างแท้จริงว่าเสียงเรียกร้องของเสื้อแดงที่ปฏิบัติตามกฏหมาย รักสันติ จะถูกรับฟัง จากการโต้ตอบอย่างโหดร้ายและขาดมนุษยธรรมของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ท่านอาจจะได้เห็นว่าการชุมนุมของเสื้อแดงเป็นแสนตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมในความร้อนไม่ได้เกิดความรุนแรงแต่อย่างใดจนถึงเมื่อวันที่ 14 เมษายน เมื่อกองทัพเริ่มทำการยิง ซึ่งทำให้เกิดการจลาจลและการปราบเสื้อแดงที่ปราศจากอาวุธโดยกองกำลังทหาร อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จากข้อเท็จจริงที่กล่าวมา พวกเราขอเรียกร้องให้ท่านประณามรัฐบาลอภิสิทธิ์จากการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อที่จะใช้กำลังในการปราบการชุมนุมที่เป็นสันติและปราศจากอาวุธของผู้ที่ รักประชาธิปไตยที่แท้จริง พวกเราอ้อนวอนให้ท่านเรียกร้องให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ยุบสภาเพื่อที่จะให้จัดการ เลือกตั้งโดยใช้รัฐธรรมนูญปี 2540

พวกเรากำลังยื่นคำเรียกร้อง อย่างเร่งด่วนนี้เพราะเราขาดเครื่องมือในการที่จะบอกชาวโลกว่าสิทธิขั้นพื้น ฐานของเรากำลังถูกทำลายอย่างโหดร้ายและเราไม่สามารถจะพึ่งสถาบันกฏหมายภายใน ประเทศได้เพราะมันได้ถูกทำลายถึงระดับหนึ่ง ขอความกรุณาเถิดท่านเลขาธิการสหประชาชาติทำอย่างไรก็ได้ที่จะช่วยพวกเรา

ขอกราบขอบพระคุณที่ท่านกรุณาสละเวลาอันมีค่ายิ่งในการพิจารณาหนังสือฉบับนี้

วอนเสื้อแดงรินน้ำใจช่วยนักสู้ที่บาดเจ็บรอความช่วยเหลือ16ราย


โดย ลุงธรรม
ที่มา บอร์ดประชาไท
26 เมษายน 2552

ทุก คนตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก บางคนอาการสาหัส สติไม่สมประกอบ เล่าเหตุการณ์วกไปวนมา น่าสงสารมาก แต่ละรายจะต้องใช้เวลานานมากกว่าอาการบาดเจ็บจะหายและสามารถจะทำงานได้ บางรายลูกจะเปิดเรียนเดือนหน้าแล้ว ยังไม่สามารถหาเงินให้ลูกไปโรงเรียนได้



จาก การไปเยี่ยมเสื้อแดงที่ได้รับบาดเจ็บด้วยตนเอง และจากการประสานงานกับมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ทราบมาว่าคนเสื้อแดงที่ได้รับบาดเจ็บมีจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่เมื่อได้รับการรักษาเยียวยาอาการเบื้องต้นให้ทุเลาแล้ว ต่างก็เผ่นกลับไปรักษาตัวตามภูมิลำเนาเดิมของตน เพราะกลัวทหารและหรือตำรวจอุ้ม กลัวถูกปิดปาก

แต่มีบางคนอาการ สาหัสยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จึงสามารถรวบรวมรายชื่อคนเสื้อแดงที่เหลืออยู่ได้จำนวน 16 ราย ซึ่งลุงได้พูดคุยกับทุกคนเพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาเหล่านั้น และเพื่อตรวจสอบว่าเป็นเสื้อแดงจริง รายละเอียดต่าง ๆที่ได้รับจากการพูดคุยและหมายเลขโทรศัพท์ไม่สามารถนำมาเล่าให้ฟังในขณะนี้ ได้ แต่ทางส.ส.พรรคเพื่อไทยได้ติดต่อขอบันทึกเรื่องราวจากทุกคนเพื่อเก็บไว้เป็น หลักฐาน และบางเรื่องได้นำไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแล้ว

ในขณะที่ โพสท์กระทู้นี้ คนเจ็บส่วนใหญ่ออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านเกือบหมดแล้ว คนเหล่านี้หาเช้ากินค่ำ เป็นลูกจ้าง ขับรถแท็กซี่ ฯลฯ ในตอนนี้ไม่มีเงินติดกระเป๋าเลย บางคนตอนหนีทหารที่ไล่ยิง กระเป่าเงินหล่นหาย เอกสารและเงินหายหมด คนที่ยังอยู่ รพ. ทางมูลนิธิบ้านเลขที่ 111
พรรคเพื่อไทย และลุงเองได้บริจาคเยียวยาให้เบื้องต้น แต่ส่วนใหญ่ที่กลับไปก่อน จึงยังไม่ได้รับการเยียวยา (เปิดงานพรุ่งนี้ทางพรรคเพื่อไทย
มูลนิธิ 111 และลุงคงจะโอนเงิน ไปช่วยบรรเทาให้ได้เบื้องต้น)

ทุก คนตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก บางคนอาการสาหัส สติไม่สมประกอบ เล่าเหตุการณ์วกไปวนมา น่าสงสารมาก แต่ละรายจะต้องใช้เวลานานมากกว่าอาการบาดเจ็บจะหายและสามารถจะทำงานได้ บางรายลูกจะเปิดเรียนเดือนหน้าแล้ว ยังไม่สามารถหาเงินให้ลูกไปโรงเรียนได้

สำหรับขั้นตอนในการช่วยเหลือเบื้องต้นมีดังนี้

1. ทางพรรคเพื่อไทย และมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 จะดำเนินการติดต่อเพื่อให้การเยียวยาเบื้องต้นให้ครบทุกราย

2 ลุงจะติดต่อกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เพื่อขอทราบหลักเกณฑ์ในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เมษาอำมหิต
เพื่อ แจ้งให้กับผู้ป่วยทุกราย (แต่ได้ทราบจากคุณ Paul Frank ว่าต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและอนุมัติหลายเดือน กว่าความช่วยเหลือจะมาถึง)

3. ลุงได้ติดต่อกับ มูลนิธิ Red Shirt Fund ของ อ.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ เพื่อมอบรายชื่อคนเจ็บเหล่านี้ ให้กับทางมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือต่อไป ปรากฏว่าทางมูลนิธิมีเงินกองทุนน้อยมาก เพราะไม่ค่อยได้รับการบริจาค อีกประการหนึ่งวัตถุประสงค์หลักของมูลนิธินี้จะเน้นคนตายและคนสูญหายเป็น หลัก อนึ่ง อ.สุธาชัย มีอีกหนึ่งมูลนิธิที่จะให้ ความช่วยเหลือคนที่ถูกฟ้องคดีหมิ่นฯ เช่นคุณดา แต่ไม่น่าเชื่อว่ามีคนบริจาคเข้ามูลนิธินี้น้อยมากจนแทบไม่พอค่าใช้จ่ายใน การดำเนินงานใด ๆ ทั้งสิ้น ท่านผู้ใดประสงค์จะบริจาคสามารถติดต่อได้ที่หมายเลข 02-7761803แจ้งความประสงค์ให้ชัดเจนว่าจะบริจาคเข้ามูลนิธิใด

4. ลุงได้เมล์รายชื่อคนเสื้อแดงเหล่านี้ให้กับผู้ที่มีฐานะพอที่จะช่วยเหลือได้ (โดยเฉพาะผู้ที่เป็นแกนนำกลุ่มในจ.ชลบุรี และอุดร ฯลฯ ตลอดจนคุณแตแต้แว้ด คุณ Regards คุณต้อย Lung Mote)

5. ที่พึ่งสุดท้ายของพวกเขาเหล่านั้น คือพวกเราในเวบประชาไท ใครพอจะช่วยเหลือได้ ลุงขอกราบรบกวนล่ะครับ (ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ลุงไม่ได้คาดหวังอะไรมาก และลุงรู้อย่างเต็มอกว่าใครเป็นใครในเวบเรา และใครจะพึ่งได้บ้าง ลุงไม่ได้ดูถูกในน้ำใจ แต่พูดออกมาด้วยความน้อยใจ จากประสบการณ์ที่ได้รับจากคนในเวปนี้) อนึ่ง ถ้ารวมกันเป็นกลุ่มก้อนแล้วบริจาค อาจจะประหยัดค่าโอนเงินเข้าบัญชีผู้รับบริจาค มากกว่าบริจาคเป็นรายย่อย เช่น ผู้เดือดร้อนมี 16 ราย แทนที่จะบริจาค คนเดียว 16 ราย ๆ ละ 100 บาท อาจเสียค่าโอนเงิน (กรณีต่างธนาคารและข้ามจังหวัด) มากกว่า การหาเพื่อนมา 16 ราย แล้วบริจาครายละ 500 บาท

6. สำหรับผู้ที่มีเวลาโปรดสงเคราะห์ช่วยนำกระทู้นี้ไปแปะในเวบการเมืองอื่น ๆด้วยน่ะครับ โปรดร่วมด้วยช่วยกัน ก่อนที่รัฐบาลและหรือทหารจะชุบมือเปิบยัดเงินปิดปากพยานปากเอกเหล่านี้ เหมือนกรณีภรรยาพี่นวมทอง(คนขับรถแท็กซี่ชนรถถัง)

รายชื่อพวกเราที่บาดเจ็บต้องการความช่วยเหลือด่วนมีทั้งหมด 16 คนดังต่อไปนี้ (สามารถตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดได้ที่มูลนิธิบ้านเลขที่ 111
เบอร์ 02-6270909 ต่อ 5018)


1 ชื่อบัญชี นายไสว ทองอ้น เลขที่บัญชี 052-0-24903-8 ธ.กรุงเทพ สาขาย่อยคาร์ฟูร์ศรีนครินทร์

2. ชื่อบัญชี นายวิเชียร ขีดกลาง เลขที่บัญชี 175-4-14363-2 ธ.กรุงเทพ สาขาคลองเตย

3. นายสนอง พานทอง ชื่อบัญชี นายกร หาสุข (หลาน)เลขที่บัญชี 311-2-88858-8 ธ. ไทยพาณิชย์ สาขารังสิต

4. นายอดิเรก เมฆออย ชื่อบัญชี น.ส.พิชฎาภรณ์ พรหมจักร (ภรรยา)เลขที่บัญชี 741-2-40408-9 ธ.กสิกรไทย สาขาย่อยอโศกดินแดง

5. ชื่อนายธีรชัย บทมาตย์ เลขที่บัญชี 115-0-65364-7 ธ.กรุงไทย สาขาสระบุรี

6. นายชัยพฤกษ์ ชัยศักดานุกูล ชื่อบัญชี นายประทีป ชัยศักดานุกูล (บิดา)เลขที่บัญชี 116-2-11866-4 ธ.ไทยพาณิชย์ สาขา บางโพ

7. ชื่อบัญชี นายเฉลิม ภูสุดสูง เลขที่บัญชี 083-2-20050-5 ธ. ทหารไทย สาขา ประตูน้ำอินทรา

8. ชื่อบัญชีนายณรงค์ วิเศษศรี เลขที่บัญชี 075-10420088033-1ธ.ออมสิน สาขา วาปีปทุม

9. ชื่อบัญชี นายอัครพงษ์ จันอ่อน เลขที่บัญชี 928-0-00102-6 ธ.กรุงเทพ สาขา เอ็มมาร์ทพลาซ่า บางกะปิ

10. ชื่อบัญชี นายชัชวาลต์ ศรีจันดา เลขที่บัญชี 322-0-27957-0ธ. กรุงไทย สาขา ถนนสรรพสิทธิ์

11. ชื่อบัญชี นายอนุภาค พูนสวัสดิ์ เลขที่บัญชี 113-4-85106-0 ธ. กรุงเทพ สาขา อินทามระ

12.ชื่อบัญชี นายศักชาย ศักเนาวรัตน์ เลขที่บัญชี 088-2-75002-7ธ. กสิกรไทย สาขา รามอินทรา

13. ชื่อบัญชี นายวราวุฒิ ทิศลังกา เลขที่บัญชี 185-0-86389-3 ธ. กรุงเทพ สาขา อโศกดินแดง

14. นายอนันต์ กลัดมั่น ชื่อบัญชี น.ส.อัมพร มูลแสง (ภรรยา) เลขที่บัญชี 06-440420063948-7 ธ. ออมสิน สาขา วารินชำราบ

15. นายสำราญ วานสอน ชื่อบัญชี น.ส.วรภร สิลกุล (ผู้ดูแล)เลชที่บัญชี 067-2-09117-8 ธ.ไทยพาณิชย์ สาขา สวนจิตรลดา

16. นายทองคำ เฉิดฉาย ชื่อบัญชี น.ส.อนุสรา กินรี (หลาน) เลขที่บัญชี ธ. 473-4-15546-0 ธ.กรุงเทพ สาขา หนองหาน

ป.ล.บางท่านต้องใช้บัญชีของญาติ เพราะป่วยอยู่ จึงยังไม่สามารถไปเปิดบัญชีในนามตนเองได้


"สาทิตย์"สั่ง อสมท.สู้คดี"สรยุทธ" ฟ้องเรียก 249 ล้าน ปฏิเสธเอ็นบีทีลอกโลโก้ "โกลเด้นโบล์"



"สาทิตย์" สั่งให้บอร์ดอสมท.สู้คดีโดน "สรยุทธ-ไร่ส้ม" ฟ้องเรียกค่าตัวหาย 249 ล้านบาท เร่งไปหารือฝ่ายกฎหมายรับมือ พร้อมปฏิเสธโลโก้เอ็นบีทีไปละเมิดเครื่องหมายการค้าของ"โกลเด้นโบล์" มอบหมา"เผชิญ"เจรจา

รัฐบาลโยนบอร์ดอสมท.สู้คดีไร่ส้มของ "สรยุทธ"


นาย สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรข่าวชื่อดัง ได้ยื่นฟ้องบริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ต่อศาลปกครองกลาง กล่าวหาว่า อสมท.ใช้อำนาจทางปกครองมิชอบ พร้อมเรียกค่าชดเชยเป็นเงิน 249 ล้านบาทนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีการฟ้องร้องกันมานานแล้ว และเคยมีการเรียกเงินคืนมาจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ เป็นหน้าที่ของผู้บริหารของอสมท.จะต้องไปหารือกับฝ่ายกฎหมายของอสมท.ว่าจะ เตรียมตัวต่อสู้คดีอย่างไร



สรยุทธ-ไร่ส้มฟ้องอสมท.เรียกค่าเสียหาย249ล.



ก่อหนน้านี้เมื่อวันที่ 24 เมษายน บมจ. อสมท จัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อรายงานผลดำเนินการ ระหว่างการประชุม นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ อัยการพิเศษฝ่ายสัญญาและหารือ สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะกรรมการ บมจ. อสมท ได้ชี้แจงให้ผู้ถือหุ้นทราบว่า ขณะนี้บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง กล่าวหาว่า อสมท ใช้คำสั่งทางปกครองมิชอบ พร้อมเรียกค่าชดเชยเป็นจำนวนเงิน 249 ล้านบาท แยกเป็นการเรียกคืนเงินจากค่าส่วนลดที่ควรจะได้จาก อสมท ในสัดส่วน 30% จากเงินค่าโฆษณา 130 ล้านบาท ที่บริษัท ไร่ส้ม ส่งให้ อสมท ไป คิดเป็นเงิน 55 ล้านบาท และการเรียกคืนเงินจากการที่ อสมท โฆษณาเกินเวลาตามที่ตกลงไว้กับบริษัท เป็นจำนวนเงินอีก 195 ล้านบาท



นายสมบูรณ์กล่าวแสดงความมั่นใจว่า คดีนี้คงไม่มีปัญหา เพราะ อสมท ได้ดำเนินคดีบริษัทไร่ส้มไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยยื่นฟ้องผู้เกี่ยวข้องทางแพ่งและอาญา แต่ อสมท ตั้งค่าเผื่อหนี้สูญไว้กว่า 300 ล้านบาท เนื่องจากมีคดีฟ้องร้องในศาลหลายคดี โดยคดีของบริษัทไร่ส้มเป็นยอดเงินที่สูงที่สุด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมครั้งนี้ผู้ถือหุ้นยังได้ลงมติให้ นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลาม, นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการบริหาร บล.บัวหลวง, นางดารณี เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาร์เก็ตไวส์ และนางมัทนา เหลืองนาคทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร เครือซิเมนต์ไทย เป็นกรรมการบริหารคนใหม่แทนกรรมการเดิมที่ครบวาระและลาออกไป ส่วนกรรมการที่ขาดอยู่อีก 1 คนนั้น เป็นตำแหน่งของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ขณะนี้การสรรหายังไม่แล้วเสร็จ



ด้านนางอรัญรัตน์ อยู่คง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวว่า คาดว่าจะสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ได้ภายใน 2 เดือน หรือราวเดือนมิถุนายนนี้



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ได้มอบอำนาจให้นายมนต์อนันต์ เรืองจรัส และนายพิเชฐ กิตตินิเวศน์กุล ยื่นฟ้อง บริษัท อสมทต่อศาลปกครอง เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2551 (หมายเลขคดีดำที่ 1141/2551)ในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ขอให้ชำระเงินเนื่องจากผิดสัญญาร่วมดำเนินการรายการโทรทัศน์





"สาทิตย์"ยันช่อง11ไม่มีเจตนาลอกโลโก้ บ.โกลเด้นโบล์



นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่บริษัท โกลเด้นโบล์ จำกัด ทำหนังสือเตือนถึงตน ในฐานะกำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อขอให้ยุติการใช้โลโก้ใหม่ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ภายในเวลา 30 วัน (9 พฤษภาคม) เนื่องจากมีรูปร่างและลักษณะคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของบริษัท โกลเด้นโบล์ฯ ว่า ได้มอบหมายให้นายเผชิญ ขำโพธิ์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นผู้ไปเจรจากับตัวแทนบริษัทดังกล่าวแล้วว่า ช่อง 11 ไม่มีเจตนาละเมิดเครื่องหมายการค้า หรือลิขสิทธิ์ใดๆ เนื่องจากโลโก้ช่อง 11 เป็นเพียงโลโก้ที่ใช้ออกอากาศเท่านั้น ไม่ได้ใช้ในการผลิตสินค้าใดๆ จึงไม่น่าจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์บริษัทดังกล่าวที่ทราบว่า เป็นผู้ผลิตเสื้อผ้า


นายสาทิตย์ กล่าวว่า ขั้นตอนการได้มาของโลโก้ใหม่ของช่อง 11 นั้น มาจากการเปิดโอกาสให้ประชาชนส่งเข้ามาประกวด เพื่อเปลี่ยนสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีซึ่งเข้าไปมีส่วนร่วมในความขัดแย้งทางการ เมืองที่ผ่านมาให้กลายเป็นสถานีโทรทัศน์ของประชาชนอย่างแท้จริง โดยมีผู้ส่งเข้ามาประกวดกว่า 2,000 ชิ้น และมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งจากวงการสถาปนิก วงการโฆษณา และผู้เกี่ยวข้องอื่นเป็นผู้ตัดสิน จึงจำเป็นต้องไปทำความเข้าใจว่าไม่มีเจตนาลอกเลียนแบบแต่อย่างใด



โวยโลโก้เอ็นบีทีละเมิดเครื่องหมายการค้า


ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า บริษัท โกลเด้นโบล์ จำกัด โดยนายบัณฑิต บุญปาสาณ ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ได้ทำหนังสือถึงนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ และสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (ช่อง11) หรือ "เอ็นบีที" ขอให้ยุติการละเมิดเครื่องหมายการค้า เนื่องจากเอ็นบีทีได้เผยแพร่เครื่องหมาย หรือโลโก้ใหม่ เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีรูปร่างและลักษณะที่คล้ายกับลวดลายเส้นประดิษฐ์ ซึ่งเป็นภาคส่วนสาระสำคัญภาคส่วนหนึ่งในเครื่องหมายการค้าของบริษัท โกลเด้นโบล์ จำกัด หากเอ็นบีทีไม่ยุติกการใช้โลโก้ดังกล่าวภายใน 30 วัน นับจากได้รับหนังสือฉบับนี้ (ครบ 30 วัน ในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้) บริษัทจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามที่เห็นสมควรเพื่อรักษาไว้ซึ่งสิทธิตาม กฎหมายต่อไป


ข่าวแจ้งว่า บริษัท โกลเด้นโบล์ จำกัด ได้ส่งสำเนาทะเบียนเครื่องหมายการค้า ทะเบียนเลขที่ ค198773 และสำเนาเอกสารความแพร่หลายของเครื่องหมายการค้าของบริษัทไปพร้อมกับโนติ๊ส พร้อมอธิบายโลโก้ของบริษัท ประกอบด้วย 2 ภาคส่วน คือภาคส่วนแรกเป็นลวดลายเส้นในลักษณะประดิษฐ์เป็นลายเส้นมุมฉากลบมุมสองเส้น วางประกบกันด้านบนและล่าง และมีช่องว่างระหว่างเส้นทั้งสอง โดยเส้นที่อยู่ด้านซ้ายมือมีการลากเส้นยาวขึ้นด้านบนมีลักษณะคล้ายตัวอักษร โรมัน b ประดิษฐ์ และภาคส่วนที่สองเป็นคำอักษรโรมันคำว่า bowling รวมเรียกขานได้ว่า บี หรือ บี โบลิ่ง และสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวได้รับการจดทะเบียนโดยกรม ทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2546 และเป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่สาธารณชนผู้บริโภคทั่วไปแล้ว


สำหรับผู้ชนะการประกวดออกแบบโลโก้สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ได้แก่ นายเนติพิกัติ ตังคไพศาล กราฟิกดีไซเนอร์ จากทีวีไทย ซึ่งได้แนวความคิดจากสัญลักษณ์ของกรมประชาสัมพันธ์ที่เป็นรูปพระอินทร์เป่า สังข์ เหตุผลที่คณะกรรมการเลือกเพราะเห็นว่ามีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือสามารถสื่อความหมายว่าเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ มีเอกลักษณ์ที่แฝงความเป็นไทย จดจำง่ายและเด่นชัด รวมทั้งสามารถนำไปปรับใช้กับงานในหลายลักษณะ เช่น งานกราฟิกบนหน้าจอโทรทัศน์ นามบัตร ซองจดหมาย เป็นต้น



ร้อยดวงวิญญาณ ล้านหัวใจ




ขออุทิศให้แด่วีรชนคนเสื้อแดงทุกๆท่านที่ได้ยอมเสียสละชีวิตเพื่อลูกหลาน

จากเหตุการณ์ปะทะที่พัทยา และการปราบจราจลสงกรานต์เลือด 13-04-2552

ขอให้ดวงวิญญาณทุกดวงจงสู่สุคติ


หลับให้สบายเถิิดพี่น้องสหายข้า



เสียงปืนM16กระสุนยาง จะดังกึกก้องอยู่ในใจข้า...ตลอดไป


NatZ


ประมวลภาพการชุมนุมของชาวเสื้อแดง 2009-04-25


ประมวล ภาพการชุมนุมของชาวเสื่อแดงที่ท้องสนามกลวง ๒๕ เมษายน ๒๕๕๒ ทีมงาน cbnpress.com เกาะติดสถานการณ์ ถ่ายภาพมาให้ชมตามเคย งานนี้แม้แต่สันติบาลยังตกใจ เพราะประเมินกันไว้คงไม่เกิน 5,000 คน พอตกค่ำประมาณ 2 ทุ่ม คนไม่ถึง 2 หมื่นก็ไกล้เคียง สิ่งที่น่าสังเกตคือ การชุมนุมครั้งนี้ การนัดหมายเพียงวันเดียว ไม่มีการจัดตั้ง ต่างคนต่างมา และส่วนใหญ่ยังเลือกที่จะใส่เสื้อแดงเหมือนเดิม โดยไม่ได้กลัวแต่อย่างใด

จับเสิ้อน้ำเงินได้พร้อมอาวุธ

คลิปวีดีโอ จับคนเสื้อน้ำเงินป้วนได้พร้อมอาวุธปืน คนห้วโล้น
http://www.youtube.com/watch?v=3MjM9UECe4g

----------------

คลิบบรรยากาศ สนามหลวง 25-04-2009
http://www.youtube.com/watch?v=cVdAw6DjEZU

ThaiDephi : ถ่ายภาพนิ่ง
2tone : ถ่ายวีดีโอ
คำเกิ่ง : update



เผยปชช.51.9%หนุนนปช.เคลื่อนไหวไม่ทำเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. เอแบค เรียลไทม์ โพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สำรวจความเห็นประชาชนต่อการเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยแห่ง ชาติ (นปช.) จากกรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 1,346 ครัวเรือน ในวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 64.6 ติดตามข่าวการเคลื่อนไหวของ นปช. ขณะที่ 23.8 ติดตามอย่างใกล้ชิด และร้อยละ 11.6 ไม่ติดตามเลย ผลสำรวจดังกล่าวยังพบด้วยว่า ประชาชนร้อยละ 68.9 สนับสนุนการเคลื่อนไหวของ นปช. ที่ไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน และร้อยละ 51.9 ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการตามข้อเรียกร้องของ นปช. แต่ต้องเป็นข้อเรียกร้องที่เป็นไปตามกฎหมายบ้านเมือง ไม่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ไม่เอื้อประโยชน์ต่อคนใดหรือกลุ่มใด ขณะที่ ร้อยละ 30.6 ที่เห็นว่า รัฐบาลไม่ต้องดำเนินการตามข้อเรียกร้องใด ๆ




คิดเล่นๆ(อีกแล้ว) เรื่อง ยึดรถเมล์

รถเมล์ที่ยึดมา ทำไมง่ายจัง
เป็นรถเมล์ของ ขสมก กี่คันจำไม่ได้ครับ
ประเด็นที่น่าสนใจกว่าคือ รถร่วม 28คัน เป็นไปได้มั้ยว่าอาจจะเป็นรถเก่า
แล้วพอเค้ามายึดทางเจ้าของรถเลยให้ไปง่ายๆ เพราะรู้ๆแน่ๆว่าจะเอาไปเผา เลยให้เผาไป
พอถึงคราวที่ประกันจะต้องจ่าย ก็อ้างไปได้มั้ยว่า รถผมเป็นรถใหม่
หรือเป็นรถเก่าที่ผ่านการปรับปรุงไปแล้ว
ตัวอย่างเช่น รถเก่า ซื้อมาแค่ 2 - 3แสน แต่ถ้าอ้างว่า ซ่อมไป 5แสน
จะอ้างแบบนี้ได้มั้ย ในเมื่อรถโดนเผา

แต่ก็อย่างว่า งบเยียวยาตั้ง 2แสน ล.
อ้างไป 8แสนก็จ่าย8แสน อ้างล้านก็จ่ายล้าน
รัฐบาลชุดนี้ ใจกว้างอยู่แล้วนี่

จับทหารอากาศสวมเสื้อน้ำเงินพกปืนป่วนหน้าเวทีเสื้อแดง
http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=798791
04:30 น.

วัน ที่ 25 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่กลุ่ม นปช.ชุมนุมปราศรัยอยู่ที่ท้องสนามหลวง แขวงบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. ได้มีชายลักษณะมีพิรุธต้องสงสัย เดินอยู่บริเวณหน้าเวที เนื่องจากแต่งกายเป็นทหารครึ่งท่อน สวมใส่กางเกงขายาวลายพรางทหาร สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงินมีข้อความว่า"ปกป้องสถาบัน" โดยสวมเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีดำคลุมทับอีกชั้น และสวมหมวกแก๊ป หน่วยรักษาความปลอดภัย หรือการ์ด นปช. จึงเข้าควบคุมตัวก่อนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ที่รักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนามหลวงเข้าทำการตรวจสอบ

ตรวจ สอบพบว่าชายดังกล่าวพกอาวุธปืนลูกซอง ซึ่งบรรจุกระสุนเบอร์ 12 จำนวน 1 นัด เหน็บที่เอวกางเกงด้านหลัง และยังพบกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 อีก จำนวน 1 นัด ที่กระเป๋าเสื้อคลุมด้านขวา จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาดำเนินคดีที่ สน.ชนะสงคราม ทราบชื่อต่อมาคือ พลทหาร อนุชล เกลี้ยงมลทิน อายุ 23 ปี สังกัดกองบัญชาการยุทธทางอากาศ กองบัญชาการทหารอากาศ ประจำอยู่กองบิน 53 อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก. สน.ชนะสงคราม ทำการสอบปากคำ

พลทหาร อนุชล ให้การว่า อาวุธปืนและเครื่องกระสุนดังกล่าวเป็นของตนเองจริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับม็อบแต่อย่างใด ซึ่งตนเดินทางมาเที่ยวสนามหลวงเฉยๆ และไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเสื้อสีน้ำเงิน หรือเครือข่ายของนายเนวิน ชิดชอบ แต่ยอมรับว่าสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นรัฐบาล ตนเคยเป็นลูกน้องนายเนวิน แต่ตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว สำหรับเสื้อสีน้ำเงินที่ใส่นั้นเป็นของบิดาตน

ด้านพล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ผู้ต้องหาไปเดินอยู่บริเวณหน้าเวทีการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ที่สนามหลวง เมื่อการ์ด และผู้ชุมนุม นปช.พบเห็นจึงควบคุมตัวและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ เมื่อตรวจค้นก็พบว่าพกพาอาวุธปืนลูกซองบรรจุกระสุนพร้อมยิง จึงได้จับกุมมาดำเนินคดีที่ สน.ชนะสงคราม เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้ รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปนเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนให้พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม นำตัวไปทำบันทึกประจำวัน และทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากผู้ต้องหายังให้การวกไปวนมา การเข้าไปเดินป่วนหน้าเวทีปราศรัยต้องมีสาเหตุ

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=377060



คลิปวีดีโอ จับคนเสื้อน้ำเงินป่วนได้พร้อมอาวุธปืน
http://www.youtube.com/watch?v=3MjM9UECe4g

ดูจะจะ รถปิคอัพเสื้อน้ำเงินขนไม้มาแจกกัน ทหารตำรวจปล่อยให้แจกได้ไง









http://rspas.anu.edu.au/rmap/newmandala/2009/04/20/the-crushing-of-the-red-shirts

คุณตำรวจ คุณทหาร
อย่าบอกแบบเทพเทือกนะว่า
อาสาสมัครเสื้อน้ำเงินเขามาด้วยใจบริสุทธิ์
แล้วที่แจกไม้ให้เห็นจะจะ ตำรวจทหารนั่งดูเฉย
เวลาเหตุการณ์รุนแรงก็โทษเสื้อแดงไปป่วนการประชุมชาวบ้านเขาไม่ยอม
แล้วที่เตรียมไม้ไว้ตีเสื้อแดงละ จะว่าอย่างไร
จัดฉากเพื่อให้เกิดความรุนแรงใช่หรือไม่