ในปัจจุบัน วิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการส่งวิดีโอ ภาพและเสียง คือ การส่งแบบ Streaming จากผู้ให้บริการหรือเจ้าของสถานี ส่งมายังผู้ชมผ่านทางอินเตอร์เน็ต เช่น จากเว็บ TrueWorld.net เราก็ไปเลือก content ที่อยากดูแล้วทาง TrueWorld.net ก็จะส่ง content ด้วยวิธีที่เรียกว่า Streaming มายังคอมพิวเตอร์ของเราโดยตรง (เป็นแบบ One to One เพราะผู้ชมแต่ละคนอยากดูรายการที่ไม่เหมือนกัน และจะเป็นแบบ One to Many/Broadcast ถ้าทุกคนดูรายการเดียวกัน ซึ่งโดยรวมแล้วเรียกด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ยุคโบราณ คือ Client-Server) แต่มีอีกวิธีหนึ่งที่เป็นที่นิยมกันมากในเมืองนอก คือ การส่งแบบ Peer to Peer
เราๆ ท่านๆ หลายคนคงรู้จักคุ้นเคยกับ Napster , Kazaa หรือจะเป็น Bit Torrent (ที่เพื่อนๆนิด้าใช้โหลดไฟล์ข้อสอบต่างๆจากคอมผมน่ะแหล่ะ) วิธีนี้ เป็นการส่งผ่านข้อมูลแบบช่วยกันโหลด ช่วยกันส่ง ตัวอย่างเช่น ถ้าเราจะดู DVD ซักเรื่อง ไฟล์ของหนัง DVD โดยเฉลี่ยจะมีขนาดประมาณ 2-4.7 GB ถ้า เป็นวิธีการแบบ Streaming คนที่อยากจะดูจะต้องเข้าไปทำการเชื่อมต่อกับระบบที่ใช้ส่งข้อมูลของสถานี หรือผู้ให้บริการ เพื่อโหลดข้อมูลขนาด 4.7GB ที่ว่า ถ้าคนดูมีแค่คนเดียว ระบบที่ว่าคงรองรับสบายๆ แต่ถ้าคนดูซักห้าหมื่นคนล่ะ ระบบของทางผู้ให้บริการคงไม่เพียงพอที่จะรองรับ ผม ยกตัวอย่างง่ายๆ เหมือนคนต่อคิวรอจ่ายเงินซื้อของที่โลตัส แม้โลตัสจะใหญ่โต มีแคชเชียร์จ่ายเงิน 40 ช่อง (เสมือนมีระบบที่ใหญ่โตทั้ง Server และ Network) ถ้าวันไหนเกิดมีโปรโมชั่นลด 90% ทั้งห้าง ต่อให้ขยายช่องจ่ายเงินเป็น 80 ช่อง หรือ 160 ช่อง (เหมือนซื้อ Server มาเพิ่มเยอะๆเพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้น) ผมคิดว่าก็คงยังไม่สามารถรองรับปริมาณคนที่จะมาซื้อของที่ลดราคาเหมือนได้ ฟรีได้หรอกครับ
แต่ถ้าเราตั้งแคชเชียร์ย่อยๆ ให้อีกคนจ่ายเงินกับอีกคนได้ (สมมตินะครับ เอาจริงๆคงโดนโกงแน่ๆ) คิวการจ่ายเงิน คงเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นเยอะ จ่ายเงินได้เร็วขึ้น ระบายคนได้เร็วขึ้น ทำให้คนที่รอซื้อของก็จะเข้ามาซื้อได้มากขึ้น
สรุป คือ การรับส่งข้อมูลแบบ Peer to Peer คือ การมีหลายๆคน ช่วยกันส่งไฟล์ใหญ่ๆที่แยกเป็นส่วนๆ แล้วแจกให้คนอื่นต่อกันไปเป็นทอดๆ เราก็จะได้ไฟล์ส่วนนี้จากเพื่อนคนนี้ อีกส่วนจากเพื่อนคนนั้น หลายๆส่วนจนถึงระดับนึงคือ ได้ครบทุกส่วนแล้ว เราก็จะนำไฟล์ส่วนๆเหล่านี้มาประกอบรวมกันเป็นไฟล์เดียว แล้วเอาไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้
P2P TV
จากข้างบนเราเรียกรวมกันว่า Peer to Peer TV (P2P TV) ซึ่ง จริงๆไม่ใช่ของใหม่ เพราะมีคนทำมาแล้วหลายเจ้า แต่ P2P TV ส่วนใหญ่ก็จะใช้ P2P โดยใช้ Bit Torrent ซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย และอาจจะมาแทนที่ P2P แบบเดิม ( Napster,KaZaa) แถมยังมีคนหัวหมอ เอา BitTorrentมาจับรวมการใช้ RSS ในการดึงข้อมูล สร้างรูปแบบการรับข้อมูลใหม่ๆ เรียกว่า Broadcatching (Bit Torrent+RSS)
แต่ Bit Torrent ไม่ได้ออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานด้านรับส่งคอนเทนต์ประเภทวิดีโอ คือ ขาด Quality of Service (QoS) ทำให้ข้อมูลที่ส่งกันขาดสิ่งที่เรียกว่า Reliability และ Stability เช่น ดูหนังไปกระตุกไป หรือภาพและเสียงเพี้ยนไปจากความเป็นจริง Joost ได้พัฒนา protocol หรือรูปแบบการสื่อสาร แบบ P2P ขึ้นมาใหม่ โดยได้กระโดดข้ามขีดจำกัดที่เจอใน P2P TV เดิมๆที่พูดมาแล้ว เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างกัน สร้างความแตกต่างในด้านเทคนิค เช่นกับที่เคยทำให้ Skype โดดเด่นมาแล้ว
People Channel P2P
สำหรับระบบ P2P Streaming ของ People Channel นั้นได้เริ่มต้นจากการที่ประสปกับปัญหาหลายๆด้านทั้งในเรื่องจำนวนของผู้รับ ชมพร้อมกันมากทำให้เซิฟเวอร์ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเนื่องจากมี การใช้งานแบนวิธที่สูงจนไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ปัญหาที่เกิดคือทำให้ผู้รับชมรายการในบางช่วงไม่สามารถรับชมรายการสดทาง อินเตอร์เน็ตได้หรืออาจจะกระตุกจนดูไม่ได้. ในสถานการฉุกเฉินหรือมีการประกาศสภาวะฉุกเฉิน ซึ่งอาจจะมีคำสั่งทางกฎหมายให้ระงับการแพร่สัญญาณการแพร่ภาพหรือข้อมูลข่าว สารใดๆที่เป็นปฎิปักกับรัฐบาล ซึ่งการแพร่ภาพผ่านระบบอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยอาจจำเป็นต้องระงับการแพร่ ภาพ ด้วยปัญหาเหล่านี้ทำให้เรานำระบบ P2P Streaming มาใช้ซึ่งซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ เนื่องจากการรับส่งข้อมูลเป็นระบบ แชร์แบนวิธซึ่งยิ่งมีผู้ชมจำนวนมากระบบก็จะยิ่งเสถียรมากเพราะมีผู้ช่วยส่งต่อสัญญาณเพิ่มขึ้น ระบบการสื่อสารแบบนี้จะไม่สามารถหาผู้ที่ส่งสัญญาณเป็นคนแรกได้เนื่องจากจะใช้เครื่องเซิฟเวอร์ที่แพร่สัญญาณอยู่ในต่างประเทศ และผู้ที่รับสัญญาณจะเป็นผู้ส่งต่อสัญญาณเช่นกัน และการรับชมก็ไม่สามารถรับชมได้ปกติจำเป็นต้องติดตั้ง Software เพิ่มแล้ว Add ช่องสัญญาณลงไปจึงจะสามารถรับชมได้และเป็นระบบ Private ด้วยซึ่งไม่ใช่สาธารณะ
Software
Software ที่ใช้รับชมทีวีออนไลน์ในระบบ P2P นั้นมีมากมายซึ่งการใช้งานจะต่างกันไป People Channel P2P Streaming นั้นสามารถรับชมได้ผ่าน Software TVU Networks ซึ่งเป็น Freeware ดาวโหลดได้ที่ http://pages.tvunetworks.com/downloads/player.html รายละเอียด Software
TVU Networks would be the most well known provider in this space. Copyright issues aside, there lineup of live channels is fairly solid with a range of US based content, although like most in this space, you’ll get better value from it if you speak Mandarin. I’ve used TVU previously, and again with my testing for this post; both times picture quality was flaky; audio is fine but it’s difficult to watch. It’s a service that would probably work better with a high speed internet connect, one quicker than my 2mb cable.
การใช้งานของโปรแกรมเบื้องต้น เพื่อรับชม People Channel
# หลังดาวโหลดมาแล้วให้ติดตั้งให้เรียบร้อย จากนั้นให้เปิดโปรแกรมขึ้นมา ตามภาพด้านล่างครับ นอกจากนี้เรื่องคอมของเรายังต้องมีการติดตั้งโปรแกรม Media Player เวอร์ชั่น 10 ด้วยเพื่อให้โปรแกรมสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง (ระหว่างการติดตั้งโปรแกรม anti virus ของเราอาจจะรายงานว่าตรวจพบไวรัสหรือ malware ซึ่งเป็นการรายงานที่ผิดพลาด ให้เราวางใจได้ว่าโปรแกรม TVU เป็นฟรีแวร์ที่ได้บการทดสอบว่าใช้งานได้จริงและไม่มีไวรัสปนเปื้อนแน่นอน ครับ)
# สังเกตุทางด้านซ้ายจะมีช่องให้ใส่ Keyword ชื่อช่องรายการ ให้ ใส่ชื่อช่อง people channel หรือใส่รหัสช่องคือ 80420 ดับเบิลคลิกที่ชื่อช่องรายการหากช่อง Online ท่านจะสามารถรับชม People Channel ได้ตามปกติ (หากสถานีส่งยังไม่ถูกปิด อิอิ)