CBOX เสรีชน

01 พฤษภาคม, 2552

เปิดแผน"เสื้อน้ำเงิน" ระดม3แสนร่วม"ฉัตรมงคล"

ต้องยอมรับว่า การชุมนุมของ "คนเสื้อน้ำเงิน" ในวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ท้องสนามหลวง เพื่อแสดงความจงรักภักดี เนื่องในพระราชพิธีฉัตรมงคล เป็น "วาระ" ที่กระทรวงมหาดไทย เตรียมจัดวางไว้ก่อนที่จะเกิดวิกฤตสงกรานต์วิปโยค ในเดือนเมษายน

เป็นการจัดวางที่สอดรับกับคอนเซ็ปท์พรรคภูมิใจไทย ที่มี "ชวรัตน์ ชาญวีรกูล" ที่นั่งเป็นทั้งหัวหน้าพรรค และ รมว.มหาดไทย

สังคม รู้ดีว่า พรรคภูมิใจไทย พยายามหา "จุดต่าง" ทางการเมืองในเรื่องของ "สี" เพื่อสร้างความได้เปรียบ และเป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง ท่ามกลางความขัดแย้งของ "เสื้อแดง-เสื้อเหลือง"

จะเห็นได้จากทุกอย่างในพรรค ไม่ว่าจะเป็นโลโก้, เสื้อ, สีประจำพรรค ล้วนถูกถ่ายทอดออกมาเป็น "สีน้ำเงิน" ทั้งสิ้น

แต่ ในที่สุด ภาพสีน้ำเงิน ก็ไม่ใช่ภาพแห่งความสมานฉันท์อีกต่อไป เมื่อพบว่า "สีน้ำเงิน" ถูกระดมพลไปรวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อป้องกัน เพราะกลัวว่ากลุ่มคนเสื้อแดง บุกยึดสนามบิน

เมื่อพบว่า "คนเสื้อสีน้ำเงิน" กลายเป็น "กองกำลังนอกระบบ" ที่ถูกนำมาต่อกรกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะบุกเข้าไปป่วนการประชุมผู้นำอาเซียน ที่พัทยา จ.ชลบุรี

ทำให้คอนเซ็ปท์ "สมานฉันท์" ของ "กลุ่มเสื้อน้ำเงิน" ถูกมองบิดเบี้ยว ผิดเพี้ยนไป

แต่ เบื้องหลังการสั่งระดมคนผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด และองค์การบริหารส่วนจังหวัด และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ของกระทรวงมหาดไทย กว่า 3 แสนคน ไม่ได้ถูกยกเลิก เพียงแต่ปรับเปลี่ยน "คอนเซ็ปท์"

แทนที่จะใส่ "สีน้ำเงิน" มาเต็มท้องสนามหลวง

จึงเปลี่ยนให้ "สีน้ำเงิน" กลายเป็น "สีหนึ่ง" ในการร่วมแสดงความจงรักภักดีกับอีก "หลากหลายสี"

เพราะถูก "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรี ออกอาการติติงถึงความเหมาะสม..?

คงต้องยอมรับว่า "เสื้อสีน้ำเงิน" เป็นแนวคิดที่หวังผลทางการเมือง

เพราะ หากย้อนกลับไปที่คำพูดของ "ชวรัตน์" ที่ระบุถึงเจตนารมณ์ท่ามกลางวิกฤตชัดๆ ว่า "สีน้ำเงินเป็นสีของพระมหากษัตริย์ ถ้าคุณเอาสีน้ำเงินออกจากธงชาติไทย ธงนั้นก็จะกลายเป็นธงชาติอินโดนีเซียทันที แม้จะมีปัญหาก็จะไม่มีการเปลี่ยนสี แล้วทำไมต้องรังเกียจสีน้ำเงินด้วย"

บวก กับสถานการณ์ร้อนที่พลพรรคเสื้อแดง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกโรงโจมตีบรรดา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และองคมนตรีอีกหลายคน

จึงถือเป็นโอกาสที่พรรคภูมิใจไทย จะแสดงเจตนารมณ์ปกป้อง ปกปักสถาบันหลักของชาติ

ก่อน ที่ "เนวิน ชิดชอบ" ผู้อยู่เบื้องหลังคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย จะออกมา "ตัดญาติขาดมิตร" กับ พ.ต.ท.ทักษิณ "อดีตนายที่เคยรัก" แบบไม่เหลือเยื่อใย

แนวคิดการจัดงานวันที่ 5 พฤษภาคม จึงถูกมองได้สองมุม

มุมหนึ่ง เป็นการแสดงความจงรักภักดี เพื่อสร้างความสามัคคีให้กับคนในชาติ หลังต้องเผชิญวิกฤตทางการเมืองมาตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่า

มุม หนึ่ง เพื่อต้องการหวังผลทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทย ที่ต่อมาต้องใส่คอนเซ็ปท์การ "แสดงพลัง" เพื่อต่อต้านกลุ่มคนเสื้อแดงที่ประกาศจะชุมนุมในวันที่ 5 พฤษภาคม เข้าไปด้วย

การจัดงานดังกล่าวเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ จะมีการปิดถนนราชดำเนินช่วงเย็น ตั้งแต่ลานพระบรมรูปทรงม้า จนถึงท้องสนามหลวง เพื่อให้มีการจัดเวทีคอนเสิร์ต 9 เวที

เดิมงานนี้ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรี แสดงความไม่เห็นด้วย เพราะเท่ากับจะเป็นการ "สุมไฟ" ให้ปัญหาไม่จบสิ้น

แต่ปรากฏว่า กระทรวงมหาดไทยไม่ยอม

จึงต้องส่ง "ทูตผิวดำ" อย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ไปเจรจา

แต่ แทนที่งานจะล้มเลิก กลับกลายเป็นว่า มีการสั่งระดมคนเพิ่มจากเดิมที่กำหนดให้ผู้ว่าฯ 75 จังหวัด ระดมคนไว้จังหวัดละ 2,000 คน ก็ราว 2 แสนคน

ยอดคนเพิ่มขึ้นมาเป็น 3 แสนคน เพียงแต่ให้คนมาร่วมงานใส่เสื้อหลากหลายสีเท่านั้น

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pol01010552&sectionid=0133&day=2009-05-01