CBOX เสรีชน

29 มกราคม, 2552

เราก้าวพ้นคุณทักษิณ แต่เราไม่ได้ก้าวข้ามคุณทักษิณ

โดย คุณ ลูกชาวนาไทย
ที่มา เวบไซต์ thaifreenews
27 มกราคม 2552

ใน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมเห็นสื่อต่างๆ พยายามสร้างกระแสอย่างเหลือเกินว่า ท่านนายกฯทักษิณ หมดเงินแล้ว ไม่มีเงินเหลือแล้ว ไม่มีเงินหนุนใครอีกแล้ว

ที่ จริงผมขี้เกียจสนใจข่าวนี้ เพราะท่านนายกฯทักษิณ จะหมดเงิน หรือมีเงิน มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับขบวนการประชาธิปไตยมากนัก เพราะเราไม่ได้ต่อสู้ ด้วยเงินของทักษิณแต่อย่างใด พวกเราต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ดังนั้น ที่ตั้งสมมุติฐานเรื่องน้ำเลี้ยง มันจึงไม่มีความหมายแต่อย่างใด เพราะน้ำเลี้ยงมันไม่มีแต่ต้นแล้ว แต่การต่อสู้ของประชาชนก็ขยายตัวไปเรื่อย

ที่ จริง "น้ำเลี้ยงของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย" คือ เผด็จการต่างหาก ตราบใดที่ประเทศนี้ยังไม่มีความยุติธรรม ผู้ปกครองทั้งหลาย ไม่ได้มีใจเป็นธรรม ไม่ฟังเสียงประชาชน ฝืนมติของมหาชน ตราบนั้นการต่อสู้ของประชาชน ก็ยังคงมีอยู่ต่อไป จนกว่าเราจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับคืนมา

เราก้าวข้ามพ้นเรื่อง นายกฯทักษิณ ไปนานแล้ว เรายกระดับการต่อสู้ขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ใช่ต่อสู้เพื่อทักษิณแต่อย่างใด มันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ต้น หลังการทำรัฐประหาร 2549 แล้ว

แต่แม้ว่าเราจะก้าวข้ามพ้น การต่อสู้เพื่อ นายกฯทักษิณ แต่เราไม่ได้ก้าวข้ามนายกฯทักษิณแต่อย่างใด

เรา ยกท่านขึ้นไป สู่ระดับของการเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เราเอายุคสมัยของท่านขึ้นมา เป็นการให้ประชาชนได้เรียนรู้ว่า หากเรามีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ยุคสมัยที่รุ่งโรจน์สำหรับคนรากหญ้า คือ ยุคที่ท่านนายกฯทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี มันเป็นยุคทองของคนรากหญ้าอย่างแท้จริง

ท่านนายกฯทักษิณ เป็นขวัญใจของคนรากหญ้า เป็นสัญญลักษณ์ ที่ผู้คนจำนวนมากศรัทธา และให้ความเคารพนับถือ ดังนั้น ผมไม่คิดว่า ผู้นำการต่อสู้ของกลุ่มเสื้อแดงทั้งหลาย จะพยายามไปตกหลุมฝ่ายตรงข้าม "ด้อยความสำคัญของท่านนายกฯทักษิณ" ไปนะครับ

เรายังจะต้องชูนายกฯ ทักษิณ เป็นผู้นำอย่างเข้มข้นต่อไป เราต้องถือว่า ท่านคือ ธงแห่งประชาธิปไตย และเป็นแม่ทัพใหญ่ฝ่ายประชาธิปไตยต่อไป

มวลชนใน ระดับรากหญ้าจำนวนมาก อาจไม่สนใจประชาธิปไตยมากนัก ไม่เข้าใจความหมายของมันอย่างแท้จริง พวกเขาไม่ได้พัฒนาอุดมการณ์ทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตย เช่นเดียวกับคนเสื้อแดงที่เป็นคนชั้นกลางครับ

แต่คนรากหญ้านั้น ได้เรียนรู้ว่า "หนึ่งเสียงของเขานั้น" มีความสำคัญต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของพวกเขา พวกเขาเรียนรู้ที่จะออกเสียงเป็นกลุ่ม และออกเสียงเลือกพรรค แทนที่จะเลือกตัวบุคคลแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าคนรากหญ้า จะสนใจประชาธิปไตยหรือไม่ แต่พฤติกรรมทางการเมืองของคนรากหญ้าในขณะนี้ คือการส่งเสริมประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

สิ่งที่คนรากหญ้าตระหนักใน ขณะนี้คือ ยุคทักษิณ คือยุคทองของพวกเขา เป็นยุคที่ให้ความหวัง รวมทั้งทำให้เห็นอย่างแท้จริงว่า คนรากหญ้าจะมีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร

ดัง นั้น แกนนำคนเสื้อแดง หากต้องการปลุกเร้าทางการเมือง หาแรงสนับสนุนทางการเมืองจากคนรากหญ้า จะต้องชี้ให้เห็นว่า หากเลือกฝ่ายเราที่มี "นายกฯทักษิณเป็นสัญญลักษณ์" ของคนรากหญ้า จะทำให้พวกเขามีความหวังในการจะมีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร

การขายประชาธิปไตยอย่างเดียวให้คนรากหญ้านั้น ไม่ได้ผล แต่ต้องขายสิ่งที่จับต้องได้ พวกเขาเคยสัมผัสอย่างแท้จริง

และที่สำคัญคือ คนรากหญ้า ไม่เชื่อพรรคประชาธิปัตย์ว่า มีความจริงใจกับพวกเขา

ดังนั้น แม้ว่าเราจะก้าวพ้นกรณีการต่อสู้เพื่อนายกฯทักษิณ แต่เราไมได้ก้าวข้ามท่านแต่อย่างไร

อย่าพยายามสร้างกระแสว่า ทักษิณไม่มีความสำคัญ ทักษิณเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ต้องสร้างกระแสว่า ทักษิณนั้นสำคัญ และเป็นส่วนใหญ่ทีเดียว

คน ชั้นกลางที่เป็นกลาง รักประชาธิปไตย แต่ไม่ได้รักทักษิณ ที่ขบวนการประชาธิปไตยต้องการดึงเข้ามาร่วมนั้น ไม่ใช่พวกส่วนใหญ่ของสังคมนัก พวกเขาแม้เสียงดัง แต่จำนวนมีไม่มากพอที่จะทำให้ชนะการเลือกตั้งได้

สุดท้ายแล้ว เรายังต้องพึ่งพามวลชนพื้นฐานเหมือนเดิม และต้องไม่ลืมว่า ชัยชนะขั้นสุดท้ายของการต่อสู้อยู่ที่สนามเลือกตั้ง ไม่ใช่การเมืองข้างถนน หรือการเมืองนอกสภา ไม่ใช่การนำพรรคพวกออกไปชุมนุมเช่นเดียวกับพวกพันธมิตร และอย่าหลงเข้าไปเดินในเส้นทางเดียวกับพันธมิตร

บอร์ดบินไทยไม่ยอมตายเดี่ยว แฉสิ้นไส้ยึดสนามบินเป็นเหตุจำปีเจ๊ง เทือกเล็งให้คนทั้งชาติรับภาระอุ้ม

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา ผู้จัดการ
28 มกราคม 2552

เทพเทือกโดดอุ้มการบินไทยไม่ยอมปล่อยให้เจ๊ง คาดให้คนทั้งประเทศแบกรับภาระ ส่อแววโยนขี้ให้บอร์ดเป็นจำเลย โดนบอร์ดสวนกลับแฉข้อเท็จจริงเหตุการณ์ยึดสนามบินเป็นเหตุให้บริษัทขาดเงิน ทุนหมุนเวียน ส่งผลขาดสภาพคล่องเกือบเจ๊ง เผยยังขาดอีกหมื่นล้านมาต่อท่อไม่งั้นล้ม เผยหากไม่มียึดสนามบินจะขาดทุนเล็กน้อยเท่านั้นไม่กระทบหนักขนาดนี้ พันธมิตรแถด้านๆอดีตนายกฯสมชายต้องรับผิดชอบ ให้ออกดีๆไม่ยอมจนต้องปิดสนามบินไล่เอง เลยช่วยไม่ได้



เทพเทือกส่อโยนขี้บอร์ดบินไทยทำสายหารบินแห่งชาติจวนเจ๊ง

วันนี้(28 ม.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีปัญหาบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประสบภาวะขาดทุนอย่างรุนแรง โดยยอมรับว่า สถานการณ์ตอนนี้ น่ากลัวมาก เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐบาลมองว่า น่ากลัวแต่ทำไมยังเงียบ คณะกรรมการ (บอร์ด) ก็ไม่ยอมลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่บกพร่องต่อหน้าที่และบริหารงานผิดพลาด ซึ่งนายสุเทพ กล่าวว่า ใช่ ๆ น่ากลัวมาก ตอนนี้รัฐบาลกำลังเตรียมการอยู่ ที่ยังไม่พูดอะไรมาก เพราะไม่อยากซ้ำเติมสถานการณ์ และจะขอดูข้อมูลรายละเอียดให้ชัดเจน

"ต้องยอมรับว่า วิกฤตปัญหาเกิดขึ้นมานานแล้ว และรัฐบาลก็เพิ่งเข้ามา แต่พอมาเห็นก็ยอมรับว่าหนักใจ เอาเป็นว่า รัฐบาลจะเข้าไปดูแลบริษัทการบินไทยก็แล้วกัน ตนขอยืนยันอย่างนี้ ซึ่งขณะนี้แผนฟื้นฟูยังไม่เสนอขึ้นมา แต่อย่าให้ตอบว่าจะเข้าไปเมื่อไหร่ เอาคำมั่นจากผมไปได้เลยว่ารัฐบาลจะดูแลการบินไทย เพราะนี่เป็นสมบัติของชาติ"

เมื่อถามว่าไม่เกรงเมื่อนำเงินภาษีไปอุ้มการบินไทยจะไม่เป็นธรรมหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดตรงนี้ได้ไหมครับ รอให้เห็นว่ารัฐบาลเข้าไปทำอะไร เมื่อถามว่าบริหารงานผิดพลาดมาตั้งแต่อดีต ปล่อยให้เงินรั่วไหลมาก และบอร์ดเข้าไปก็ไม่มีฝีมือในการบริหารงาน เอาว่ารัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด ทำแน่นอนไม่ปล่อยปละละเลย และจะรีบ

"รัฐบาลจะจัดให้มีการหารือกันระหว่างกระทรวงการคลังกับกระทรวงคมนาคมก่อน และจะขอคุยนอกรอบก่อน เพื่อให้เห็นภาพกันได้ชัด ไม่ต้องติดขัดกับระเบียบวิธีการ เมื่อปรับความคิดความเห็นตรงกันแล้ว ก็จะได้ดูกันว่าแนวทางแก้ไขจะเป็นอย่างไร ขอยืนยันว่าทุกเส้นต้องหยุดก่อน เพื่อเอาความอยู่รอดของบริษัทการบินไทยก่อน เอาผลประโยชน์ชาติเป็นหลักก่อน"นายสุเทพกล่าว

เมื่อถามว่าตัวบอร์ดบริหารงานผิดพลาดจะพิจารณาอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าเพิ่งถามตอนนี้ เมื่อถามว่าจะใช้โอกาสนี้เข้าไปล้างบางหรือทำความสะอาดบอร์ดหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าเพิ่งๆๆ โธ่ เดี๋ยวเขาก็ล้างตนซะก่อน ใจเย็นๆ

บอร์ดบินไทยตอกกลับโจรยึดสนามบินเป็นเหตุให้เจ๊ง

นายพิชัย ชุหวิชร กรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ สามารถจัดหาแหล่งเงินกู้จำนวน 2.2 หมื่นล้านบาทได้แล้ว จากแผนการดำเนินงานที่จะต้องหาเงินกู้จำนวน 3.4 หมื่นล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของบริษัท โดยคาดว่าจำนวนเงินที่เหลืออีกกว่าหมื่นล้านบาทจะสามารถจัดหาได้อย่างไม่มี ปัญหา

นายพิชัย กล่าวเสริมว่า แผนงานเดิมการบินไทยคาดการณ์ว่าในปี 2551 ที่ผ่านมา บริษัทจะประสบภาวะขาดทุนเล็กน้อยตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยจากในปี 2550 ที่บริษัทเคยมีกำไรประมาณ 7 พันล้านบาท แต่เนื่องจากประเทศไทยประสบปัญหาการเมืองและเหตุการณ์ปิดสนามบิน 2 สัปดาห์ จึงทำให้การบินไทยไม่มีรายได้ และยังมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเหตุทำให้ประสบภาวะขาดทุนอย่างมาก และต้องกู้เงินสูงถึง 3.4 หมื่นล้านบาท

นายพิชัย ยืนยันว่า การรับมอบเครื่องบินแอร์บัส 330-300 จำนวน 6 ลำในปีนี้ มีความจำเป็นเพราะจะช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัทฯ ไม่ใช่เป็นภาระอย่างที่พนักงานหรือบุคคลภายนอกเข้าใจ ทั้งนี้ การบินไทย ได้จ่ายค่าเครื่องบินแอร์บัสไปแล้ว 30-35% ของค่าเครื่องบินทั้งหมด

"เราคิดว่าอีกหมื่นกว่าล้านจะหาได้ ทุกธุรกิจก็มีปัญหาสภาพคล่อง ไม่ใช่ว่าเราขาดทุนเพราะธุรกิจไปไม่รอด แต่การซื้อเครื่องบินไม่ใช่ว่าคืนทุนได้เร็ว 3-5 ปี ฉะนั้นเราต้องสร้างความเชื่อมั่น ความเข้าใจกับคนข้างนอกว่าการรับเครื่องบินไม่ใช่ภาระ"

นายพิชัย ยังเชื่อมั่นว่า การบินไทยจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยจะปรับโครงสร้างใหม่ที่เข้ม แข็งกว่าเดิม และจะไม่มีเงินกู้เพิ่มขึ้นอีก

ด้านนายอารีพงศ์ ภู่ชะอุ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ปัญหาของการบินไทย เกิดจากความผิดพลาดของฝ่ายจัดการที่คาดไม่ถึงในเรื่องของการปิดสนามบิน จนส่งผลกระทบต่อถึงเงินทุนหมุนเวียน และเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องในระยะสั้น เพราะการปิดสนามบินเกิดขึ้นช่วงไฮซีซั่นในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ปัญหาสภาพคล่องเป็นเรื่องที่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งหากพื้นฐานเศรษฐกิจปี 2552 เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เชื่อว่า จำนวนผู้โดยสารจะมีปริมาณมากเหมือนเดิม และมีรายได้กลับคืนมาพอแก้ปัญหาการขาดทุน แต่ปัญหาระยะสั้นที่ การบินไทยต้องเร่งดำเนินการ คือการปรับลดค่าใช้จ่าย ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น การชะลอรับมอบเครื่องบิน การขยายเวลาชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด

ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตุว่า ในช่วงเดือนธันวาคม แม้การบินไทยจะมีเครื่องบินถึง 80 ลำ หากขึ้นบินทุกวัน มีคนนั่งเต็มทุกเที่ยวบินตลอด 1 เดือน ก็จะมีรายได้ไม่ถึง 1 พันล้านบาท ดังนั้นเหตุผลในการกล่วโทษการปิดสนามบิน จึงขัดกับหลักความเป็นจริง และหากมองดูงบการเงินย้อนหลังแล้ว ก็มีปัญหาการขาดทุนมาโดยตลอด และมักใช้การซื้อเครื่องบินเพิ่ม เป็นข้ออ้างในการเพิ่มรายได้เพื่อขอเงินรัฐบาล และยังมีการทุจริตภายในที่รัฐบาลยังไม่เคยเข้าไปตรวจสอบเอาผิดอย่างจริงจัง ทั้งยังเป็นบริษัทที่มีข่าวการทุจจริตโกงกินมากที่สุดด้วย

โจรพธม.โยนขี้ให้อดีตนายกฯสมชายรับกรรมหน้าตาเฉย

นาย พิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวไปยังสถานที่ต่างๆรวมทั้งสนามบินสุวรรณภูมินั้นมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งขณะนั้นหมดความชอบธรรมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างสิ้นเชิง โดยไม่สามารถบริหารประเทศได้ ให้ลาออก แต่เมื่อนายสมชาย ไม่ลาออกก็ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อมีคนที่มองว่าพธม.ทำผิดก็พร้อมที่จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ให้ศาลตัดสินแต่ขออย่าให้สร้างหลักฐานเท็จหรือตั้งข้อกล่าวหาเกินจริงก็แล้ว กัน

เสื้อแดงเชียงใหม่ลั่น ปิดสถานีวิทยุเมื่อใดจะออกมาลุกฮือทันที

โดย generalwill
ที่มา เว็บบอร์ดประชาไท
29 มกราคม 2552



หลัง รายงานข่าวจากสถานีช่อง 7 ภาคบ่ายวานนี้ (28 ม.ค.) กรณีนายสาทิต วงค์หนองเตยให้สัมภาษณ์ว่าจะพิจารณาปิดสถานีวิทยุของประชาชนจำนวน 4 แห่ง คือ ที่อุดร เชียงใหม่ ลำปาง และลำพูน ฐานปลุกปั่นประชาชนให้เกลียดรัฐบาลและต่อต้านรัฐบาลเทพประทาน

คน เชียงใหม่เดือดดาลขึ้นทันที เพิ่มความเกลียดและชิงชังรัฐบาลชุดนี้ขึ้นมาอีกเป็นทวีคูณ โดยมีผู้โทรศัพท์เข้าไปในรายการวิทยุชุมชน FM 92.5 Mhz. และคลื่นอื่น ๆ จำนวนมาก โดยแสดงความรู้สึกว่า

- เำหตุใดจึงไม่ปิดสถานีเอเอสทีวีก่อน เพราะนั่นก็ปลุกระดม ใส่ร้าย ใส่ความ หยาบคาย ทำลายชาติยิ่งกว่า
- ทำไมละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย
- นายสาทิต วงศ์หนองเตยเป็นคนที่เลวมาก ทำตัวรับใช้อำนาจเผด็จการ
- รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย ทำไมประชาชนวิจารณ์ไม่ได้ ทำไมจะขับไล่ไม่ได้
- เป็นสิทธิของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยที่จะวิจารณ์และขับไล่รัฐบาล
- รัฐบาลชุดนี้บริหารห่วย คอร์รับชั่น กำลังจะพาประเทศลงเหวแห่งหายนะ เช่น การกู้หนี้ยืมสิน การใช้กระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน การไม่จัดการอย่างจริงจังต่อการประพฤติมิชอบหรือคอร์รัปชั่นของรัฐมนตรีชุด นี้ การไม่ได้รับการยอมรับจากอารยะประเทศ และการขาดวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหาของชาติ ฯลฯ
- สั่งปิดสถานีเมื่อใด บ้านเมืองลุกเป็นไฟ ประชาชนพร้อมออกมาแข็งข้อต่ออำนาจรัฐ


ผู้ นำเสนอข่าวแสดงความเห็นว่า สถานการณ์จะไปกันใหญ่ จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาปลดนายสาทิตย์ เนื่องจากบุคคลนี้ไม่ได้สร้างประโยชน์ต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลชุดนี้ รังแต่จะทำให้ประชาชนเกลียด และจะทำให้รัฐบาลนี้อายุสั้นลง รูปร่างอัปลักษณ์ยังไม่พอ คำพูดก็ชวนให้เพิ่มศัตรู แถมความคิดก็ล้าหลัง "เป็นนักการเมืองยุคโลกาภิวัฒน์ แต่วิสัยทัศน์ยุคจอมพลสฤษดิ์"

ดีเดย์แดงทั้งประเทศ31มกราคม 3ทุ่มเคลื่อนพลปิดล้อมทำเนียบจี้โจรจับโจร



ทีมข่าวไทยอีนิวส์
29 มกราคม 2552

กำหนดการ ชุมนุมใหญ่ฝ่ายประชาธิปไตย"แดงทั้งแผ่นดิน"คลอดแล้ว นัดรวมพลเสาร์31มกราฯ4โมงเย็น จากนั้น3ทุ่มเคลื่อนขบวนล้อมทำเนียบ จี้เอาผิดโจรก่อการร้ายยึดสนามบิน ปลดกษิตพ้นรัฐมนตรีต่างประเทศ นำรธน.ฉบับประชาธิปไตยกลับมาใช้ เสื้อแดงรวมกำลังคึกคักทั้งสายเหนือ-อีสาน ส่วนคนกรุงระดมผ่านอินเตอร์เน็ตพร้อมแล้วขับไล่โจร ทวงคืนประชาธิปไตยและความเป็นธรรม

"เสื้อแดง"ชุมนุมใหญ่31มกราคมนี้3ทุ่มบุกทำเนียบฯ

ผู้ จัดรายการความจริงวันนี้ นำโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ร่วมกันแถลงข่าวถึงการชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยนายวีระ กล่าวว่า จะมีการชุมนุมใหญ่ ภายใต้ชื่อแดงทั้งแผ่นดินที่ ท้องสนามหลวง ในวันเสาร์ที่ 31 มกราคม นี้ เวลา 16.00 น. ก่อนที่จะเคลื่อนมวลชนปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ในเวลาประมาณ 21.00 น. เพื่อกดดันให้รัฐบาลปลด นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปิดสนามบินสุวรรณภูมิรวมทั้งควรมีการนำรัฐ ธรรมนูญฉบับปี 2540 มาบังคับใช้แทนรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และสุดท้ายรัฐบาลต้องยุบสภา


ขณะที่ นายจักรภพ เปิดเผยว่า การชุมนุมในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการวัดกระแสของกลุ่มคนเสื้อแดงไปในตัวด้วย เพราะที่ผ่านมามีการโจมตีว่าเกิดความแตกแยกไม่มีเอกภาพ รวมทั้งข่าวว่าหมดน้ำเลี้ยงจากอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร คนเสื้อแดงจะได้แสดงพลังให้เห็นว่าไม่เป็นความจริง และมากันด้วยใจไม่ใช่ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง

ขณะเดียวกันมีความ เคลื่อนไหว"แดงทั้งแผ่นอย่างคึกคัก" โดยประชาชนทั่วประเทศมีความเคลื่อนไหวชุมนุมพลเดินทางมากรุงเทพฯ ส่วนคนในกรุงเทพฯก็ชักชวนกันเข้าร่วมงานผ่านทางอินเตอร์เน็ตอย่างคึกคัก

เสื้อแดงเชียงใหม่ยกพลชุมนุมใหญ่ กร้าวไม่ชนะไม่กลับ

มติชนรายงานว่า เสื้อแดงเชียงใหม่ ยกพลร่วมชุมนุมใหญ่สนามหลวงขับไล่รัฐบาล ลั่นไม่ชนะไม่กลับ

น. ส.กัญญาภัค มณีจักร หรือ "ดีเจอ้อม" แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กล่าวว่า ภารกิจหลักในวันที่ 30 ม.ค.ของกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ มีอยู่ 2 เรื่อง คือ 1.การระดมกำลังไปชุมนุมต่อต้านนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีกำหนดเดินทางมาที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นประธานเปิดงานรณรงค์ "90 วัน รวมพลังหยุดเผา บรรเทาโลกร้อน" โดยจะไปชุมนุมที่สนามบินเชียงใหม่และที่จัดงานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ 2.ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจแรกแล้ว กลุ่มเสื้อแดงจะเดินทางไปขึ้นรถบัส เพื่อเดินทางชุมนุมใหญ่กับเสื้อแดงทั่วประเทศที่สนามหลวง โดยช่วง 1-2 วันก่อนหน้านี้ ได้ตั้งกล่องรับบริจาคและระดมทุนจากประชาชน ที่สนับสนุนการเดินทางของกลุ่มเสื้อแดงแล้ว

"การระดมทุนและเดินทาง ไปร่วมชุมนุมใหญ่ กลุ่มจะไปอย่างเปิดเผย โดยนัดให้สวมใส่เสื้อสีแดง ที่เขียนว่า "รักเชียงใหม่ 51" ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีผู้ร่วมเดินทางไม่น้อยกว่า 500 คน โดยจะมีตนและแกนนำคนอื่นร่วมเดินทางไปพร้อมกัน ภารกิจหลักของการไปร่วมชุมนุมใหญ่ของรักเชียงใหม่ 51 ครั้งนี้ มีเป้าหมายกดดันให้รัฐยุบสภา และไม่มีกำหนดกลับ จนกว่าจะได้ชัยชนะ"

เสื้อแดงอุดรเริ่มระดมพลบุกสนามหลวงแล้ว
ประชาทรรศน์รายงาน ว่า ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง จ.อุดรธานี ในวันนี้(29 ม.ค.) ที่จะเดินทางไปร่วมงานที่ท้องสนามหลวง ในวันเสาร์ที่ 31 ม.ค.ได้มีกลุ่มชมรมคนรู้ใจ จ.อุดรธานี ที่แตกตัวออกมาจากชมรมคนรักอุดร มาตั้งสถานีวิทยุชุมชน FM 99.75 MHz ได้ระดมสมาชิกคนรู้ใจ จ.อุดรธานี ได้แล้ว 500 คน พร้อมกับได้เตรียมรถทัวร์ปรับอากาศ ชั้น 1 ไว้ 10 คัน จะออกเดินทางจาก จ.อุดรธานีในวันศุกร์ที่ 30 ม.ค. 2552 ซึ่งทางกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จะเดินทางไปในครั้งนี้ เป็นกลุ่มที่รักและศรัทธาใน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งนี้ทางด้าน นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ยังสงวนท่าที ไม่นำคนลงไปร่วมงานในวันเสาร์ที่จะถึงนี้


เสื้อแดงเหนือจากเชียงรายชุมนุมพลคึกคัก

เวบผู้จัดการASTV กระบอกเสียงของพันธมิตรรายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า ในการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 31 ม.ค.52 ที่ท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ เพื่อหวังจะล้มรัฐบาล ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นพบว่า ในพื้นที่ จ.เชียงราย เริ่มมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่จะเดินทางไปสมทบกับเครือข่ายคนเสื้อแดงแล้ว

ที่ประกาศตัวว่าจะเดินทางไปอย่างแน่นอน คือ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จ.เชียงราย นำโดย น.ส.จีรนันท์ จันทวงศ์ ที่เคยประกาศว่าจะไปร่วมทั้งการชุมนุมดังกล่าว และไปที่การประชุมอาเซียนซัมมิทด้วย ส่วนกลุ่มอื่นๆ ไม่มีการประกาศตัวหรือเคลื่อนไหวชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเชียงรายฮักประชาธิปไตย กลุ่มมิตรภาพป่าห้า กลุ่มอาจารย์บางคนในเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เชียงราย เขต 3

อย่างไรก็ตาม พบว่ายังมีอีกกลุ่มกำลังเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก คือ บรรดาหัวคะแนนคนสำคัญของนักการเมืองที่มีอยู่ทั้ง 8 เขตเลือกตั้งของเชียงราย ส่วนกลุ่มคนเชียงรายฮักประชาธิปไตยพบว่าอาจจะมีการตั้งเวทีบริเวณใกล้กำแพง เมือง ห้าแยกพ่อขุนเม็งรายมหาราช อ.เมือง เพื่อถ่ายทอดการชุมชนใหญ่ที่กรุงเทพฯ ให้ผู้ที่ผ่านไปมาหรือมีอุดมการณ์เดียวกันได้รับฟังแทน

สำหรับกลุ่มหัวคะแนนของนักการเมืองมีรายงานว่า มีการกำหนดให้หัวคะแนนของแต่ละเขตเลือกตั้ง พาคนเข้าไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ อำเภอละ 1 คันรถ โดยพื้นที่ที่ค่อนข้างจะมีความชัดเจนคือเขตเลือกตั้งที่ 3 โดยพบว่ามี “นายหงส์” หัวคะแนนคนสำคัญได้ตระเตรียมผู้คนเพื่อจะพาเดินทางไปยังกรุงเทพฯ อย่างคึกคัก

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า การเดินทางไปครั้งนี้มีการเกณฑ์บรรดาหัวคะแนนในจำนวนที่น้อยกว่าหลายครั้ง ที่ผ่านมา หรือน้อยกว่ากรณีม็อบอีแต๋นที่เดินทางไปให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเมื่อครั้งยังอยู่ในตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี ก่อนสิ้นอำนาจ

ด้าน น.ส.จีรนันท์ จันทวงศ์ แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จ.เชียงราย กล่าวว่า สมาชิกของกลุ่มหลายคนยืนยันจะเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ แต่ตนไม่ได้ไปเพราะติดภารกิจหลายอย่างโดยเฉพาะการเตรียมเผยแพร่วิทยุวิทยุชน คนรากหญ้าเจียงฮายทางคลื่นวิทยุเอฟเอ็ม 104 MHz

อย่างไรก็ตาม จากการรับทราบข้อมูลจากหลายฝ่ายทราบว่า นอกจากสมาชิกของกลุ่มแล้วยังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากกำลังจะพากันเดินทาง ร่วมกันอย่างเงียบๆ เนื่องจากรัฐบาลอยู่ฝ่ายตรงกันข้ามซึ่งค่อนข้างจะลำบาก จึงเป็นลักษณะต่างคนต่างไป กระนั้นก็จะเป็นพลังบริสุทธิ์ที่มีจำนวนมากเช่นกัน



ทางด้านชุมชนคนท่องอินเตอร์เน็ตในบอร์ดราชดำเนิน เวบไซต์พันทิป ได้แสดงความตื่นตัวที่จะเข้าร่วมกิจกรรมชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงที่ท้องสนาม หลวงในวันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2552นี้อย่างคึกคัก โดยพากันให้เหตุผลในการเข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุน การเคลื่อนไหวประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ แสดงความคัดค้านที่มาของรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรม ไม่ได้มาจากเสียงของประชาชน แต่มาจากการการชุมนุมยึดสนามบิน ก่อความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างร้ายแรง และการสมคบคิดของชนชั้นนำผ่านกองทัพ กระบวนการตุลาการที่ให้ยุบ3พรรคการเมือง และทวงประชาธิปไตย ขณะที่แกนนำประกาศรวมตัวสนามหลวงแล้วเคลื่อนพลบุกทำเนียบ

หัวข้อกระทู้แนะนำของบอร์ดราชดำเนินเรื่อง เสื้อสีแดง ๆ ที่ท้องสนามหลวงวันที่ 31 นี้ใครมีเหตุผลดี ว่าไปกันทำไมบอกหน่อย เขียนว่า ใครไปเติมสีแดงให้ท้องสนามหลวงวันที่ 31 นี้กันบ้างค่ะ งานนี้ไปกันให้เต็มสนามเลยเน้อ สิ่งก่อสร้างอะไร ๆ น่าจะไม่เหลือแล้ว เมื่อการชุมนุมล่าสุดในวันที่ 28 ธันวา คม2551 ที่ว่างแค่ครึ่งสนามต้องไปแทรกตัวกันตามสิ่งก่อสร้างเที่ยวนี้น่าจะสบายขึ้น แล้ว คนกรุงเทพปริมณฑล อย่าให้แพ้คนต่างจังหวัดต้องเสียเวลาเดินทางกันมาไกลนะคะ

งานนี้ ขอบอกก่อนล่วงหน้าว่าไม่น่าจะไปแอบคิดว่าจะไปทำไมกันเนี้ย ขอเหตุผลดี ๆ หน่อยเหอะ ยังตอบตัวเองไม่ได้สงสัยจะเริ่มขี้เกียจล่ะ เพื่อนๆ อย่าขี้เกียจตามกันนะคะงานนี้ประมาณว่าจะนับกำลังพลกันว่า สีแดงยังแรงฤทธิ์ ไม่ได้แผ่วตามขี้ปากใคร ขอตบปากพวกที่บอกว่าเพราะตรูคนถึงเยอะ หน่อยเหอะว่าคนเขาไปกัน ด้วยใจไม่มีใครจ้างไม่ต้องให้ใครจูงจมูก คิดเองเป็นเฟ้ยคนไทยไม่ได้โง่

กระทู้ ดังกล่าวนี้มีผู้ตอบกระทู้ล่าสุดถึงวันนี้(29ม.ค.)155ความคิดเห็น ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าจะเข้าร่วมการชุมนุม ด้วนเหตุผลสนับสนุนประชาธิปไตย และต่อต้านเผด็จการ ความไม่ยุติธรรม เช่น

-สำหรับผมแล้ว เหตุผลที่ไป คือ อยากให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นกับทุกคนไม่ใช่เกิดขึ้นกับ ''คนบางกลุ่ม'' อยากให้รัฐบาลรู้ว่าสิ่งที่คุณทำมันไม่ถูกต้อง ความชอบธรรมที่คุณอ้าง มันเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะคุณมาจากกลุ่มคนบางกลุ่ม ที่ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศ

-ไปให้โลกรู้ว่า คนไทย รักประชาธิปไตย

-แสดงจุดยืนถึงความชอบธรรมครับ เอาผิดโจรกบฎ

-ไปเพื่อ
1. ไปทำให้ทาสเผด็จที่ปล่อยไม่ไป ทั้ง ๆ เลิกทาสมาร้อยกว่าปีแล้วเกิดสำนึกในสรีภาพของตัวเอง (จะมีมั๊ยน้อ)
2. ไล่เผด็จการอีแอบอยู่หลังประชาธิปไตยจอมปลอมที่แอบอิงรัฐธรรมนูญเผด็จการ
3. ไปกดดันแก้รัฐธรรมนูญโจร
4. ไปทำให้พวกปล้นอำนาจได้รู้ว่ายังมีคนไทยไม่น้อยได้หลุดพ้นจากความทาสที่ถูกครอบงำ
5. ไปเพื่อจะบอกว่า ประชาชนเท่านั้นที่เป็นใหญ่ในแผ่นดิน
6. ไปเอากบฏปล้นทำเนียบและสนามบินมาดำเนินคดี


ฯลฯ

นปช.บุกทำเนียบยื่นคำขาดถึงนายกฯให้จัดการพันธมารยึดสนามบิน

ก่อน หน้านี้ เมื่อวันที่ 27 ม.ค. แนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ หรือ นปช.ประมาณ 20 คน นำโดยนายจรัญ ดิษฐาอภิชัย แกนนำนปช. นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นายไชยนิรันดร์ พะยอมแย้ม ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ซึ่งนายสุธรรม ลิ้มสุวรรณเกษม รองเลขาฯนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นคนมารับหนังสือ

โดยข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ

1. เร่งรัดดำเนินคดีอย่างจริงจังนำตัวแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและ ผู้อยู่เบื้องหลังซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย และเป็นผู้ที่ก่ออาชญากรรมทางการเมือง ผู้ก่อความรุนแรงจากการปิด ถนน การยึดทำเนียบรัฐบาล การยึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที การปิดล้อมสถานที่ราชการ การทำลายทรัพย์สินทางราชการ การปล้นทรัพย์ในทำเนียบรัฐบาล การใช้อาวุธปืน การจัดทำระเบิด จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บในโอกาสต่างๆ มาลงโทษตามกฎหมายให้สาสมกับความผิดโดยไม่แทรกแซงกระบวนการทางกฎหมาย ด้วยความรวดเร็ว อย่างโปร่งใสเปิดเผย

ประการที่2.ปลดรัฐมน ตรีว่การกระทรวงการต่างประเทศ นายกษิต ภิรมย์ เพื่อเป็นการแสดงให้สังคมรับรู้ว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้สนับสนุนการ ยึดสนามบิน ยึดทำเนียบรัฐบาล การชุมนุมปิดถนนและการก่อความรุนแรงของกลุ่มพันธมิตรฯปลดนายกษิต ภิรมย์ยังเป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลตั้งใจที่จะสร้างสังคมนิติรัฐและสร้าง ความสัมพันธ์อันดีกับนานาชาติ และเป็นการสร้างความมั่นคงและความมั่นคงในกลุ่มประเทศอาเซียนอีกด้วย

และประการที่ 3 แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 2550 โดยการนำรัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้เป็นการแสดงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐฐบาลที่ไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหารและมีความจริงใจต่อประชาธิปไตย

ฮึ่ม!เตือนมาร์คห้ามใช้เงินภาษีแบกขี้พันธมิตรอุดบินไทย จี้ไล่เบี้ยคนอยู่เบื้องหลังยึดสนามบินมาจ่ายชดเชย



หลักฐานโทนโท่-ภาพถ่ายหลักฐานพลตรีจำลอง ศรีเมือง ตัวแทนของพันธมิตรฯส่งมอบสนามบินสุวรรณภูมิคืนให้ประธานการท่าอากาศยานฯ เป็น1ในหลักฐานสำคัญของอาชญากรรมก่อการร้ายสากลยึดสนามบิน ส่วนอีกหลักฐานสำคัญคือประกาศแถลงการณ์ปิดสนามบินของพันธมิตรลงวันที่25พ. ย.2551 ตอนนี้การบินไทยบักโกรกขาดเงินหมุน35,000ล้านบาท หาไม่ได้มีสิทธิ์เจ๊ง รัฐบาลเทพประทานเตรียมนำภาษีคนทั้งประเทศมาอุ้ม ทั้งที่ผู้บริหารจำปีระบุชัดเจ๊งเพราะยึดสนามบิน

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
29 มกราคม 2552

รัฐมนตรี คลังใจไม่ด้านพอจะสนองใบสั่งเทพเทือก โดยลังเลใจนำภาษีคนทั้งประเทศมาอุ้มการบินไทย ขณะที่บอร์ด-ผู้บริหารจำปีไม่ยอมตายเดี่ยว แฉสิ้นไส้เจ๊งเพราะโดนปิดสนามบิน เสื้อแดงค้านไม่ยอมให้คนทั้งประเทศมาแบกขี้รับภาระแทนพันธมิตร หลักฐานโทนโท่ยึดสนามบินทั้งออกแถลงการณ์ปิด และพิธีส่งมอบคืนมัดตัวดิ้นไม่หลุด จี้ลากคอเข้าคุกพร้อมไล่เบี้ยคนอยู่เบื้องหลังต้องจ่ายชดเชยค่าเสียหาย ความถูกต้องเป็นธรรมจึงจะบังเกิด




กรณ์ไม่ด้านพอนำภาษีคนทั้งประเทศอุ้มการบินไทยแบกขี้พธม.

นาย กรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการขาดสภาพคล่องของการบินไทยในขณะนี้ว่า กระทรวงการคลังจำเป็นต้องพิจารณาอย่างละเอียด หากรัฐบาลต้องนำเงินภาษีของประชาชนเข้าไปช่วยเหลือการบินไทย ซึ่งขณะนี้กำลังรอการปรับปรุงแผนการดำเนินงาน รวมถึงยุทธศาสตร์การดำเนินงานหลังจากประสบภาวะวิกฤติ เพราะหากจะเข้าไปช่วยเหลือจะเข้าไปอย่างไร ในแง่ไหน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะพิจารณาตามความเหมาะสม

“ผมได้บอกไปหลายครั้งแล้วเกี่ยวกับการช่วยเหลือการบินไทย ตรงนี้ผมยืนยันว่าต้องรอการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง เพราะหากรัฐบาลต้องเข้าไปช่วยเหลือในฐานะที่กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลัง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เราต้องสามารถตอบได้ว่าจะนำเงินภาษีจากประชาชนไปใช้อย่างไร แต่จะพิจารณาตามความเหมาะสม หากมีการร้องขอให้ช่วยเหลือ”

เทพเทือกส่อโยนขี้บอร์ดบินไทยทำสายการบินแห่งชาติจวนเจ๊ง

ก่อน หน้านั้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ น่ากลัวมาก ตอนนี้รัฐบาลกำลังเตรียมการอยู่ ที่ยังไม่พูดอะไรมาก เพราะไม่อยากซ้ำเติมสถานการณ์ และจะขอดูข้อมูลรายละเอียดให้ชัดเจน พร้อมแสดงท่าทีว่า รัฐบาลจะเข้าไปดูแลการบินไทย ด้วยการให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะดูแลการบินไทย เพราะนี่เป็นสมบัติของชาติ

เมื่อถามว่าไม่เกรงเมื่อนำเงินภาษีไปอุ้มการบินไทยจะไม่เป็นธรรมหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดตรงนี้ได้ไหมครับ รอให้เห็นว่ารัฐบาลเข้าไปทำอะไร เมื่อถามว่าบริหารงานผิดพลาดมาตั้งแต่อดีต ปล่อยให้เงินรั่วไหลมาก และบอร์ดเข้าไปก็ไม่มีฝีมือในการบริหารงาน เอาว่ารัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด ทำแน่นอนไม่ปล่อยปละละเลย และจะรีบ

อดีตดีดีบินไทยแฉปิดสนามบินเป็นเหตุเจ๊ง

นาย สมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง และอดีตรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย ระบุว่า ปัญหาขาดทุนและปัญหาขาดสภาพคล่องของการบินไทยไม่ได้มีสาเหตุจากผู้บริหารขาด ประสิทธิภาพ แต่เป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ประกอบกับมีเหตุการณ์ปิดล้อมท่าอากาศยาน ทำให้การบินไทยได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าสายการบินอื่น



บอร์ดบินไทยไม่ยอมตายเดี่ยว ตอกกลับโจรยึดสนามบินเป็นเหตุให้เจ๊ง

ดูเหมือนบอร์ดการบินไทยจะตกเป็นจำเลยว่าทำให้การบินไทยขาดสภาพคล่อง ซึ่งมีการปฏิเสธออกมาแล้ว โดยนายพิชัย ชุหวิชร กรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า แผนงานเดิมการบินไทยคาดการณ์ว่าในปี 2551 ที่ผ่านมา บริษัทจะประสบภาวะขาดทุนเล็กน้อยตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยจากในปี 2550 ที่บริษัทเคยมีกำไรประมาณ 7 พันล้านบาท แต่เนื่องจากประเทศไทยประสบปัญหาการเมืองและเหตุการณ์ปิดสนามบิน 2 สัปดาห์ จึงทำให้การบินไทยไม่มีรายได้ และยังมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเหตุทำให้ประสบภาวะขาดทุนอย่างมาก และต้องกู้เงินสูงถึง 3.4 หมื่นล้านบาท

ด้านนายอารีพงศ์ ภู่ชะอุ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ปัญหาของการบินไทย เกิดจากความผิดพลาดของฝ่ายจัดการที่คาดไม่ถึงในเรื่องของการปิดสนามบิน จนส่งผลกระทบต่อถึงเงินทุนหมุนเวียน และเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องในระยะสั้น เพราะการปิดสนามบินเกิดขึ้นช่วงไฮซีซั่นในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ปัญหาสภาพคล่องเป็นเรื่องที่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งหากพื้นฐานเศรษฐกิจปี 2552 เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เชื่อว่า จำนวนผู้โดยสารจะมีปริมาณมากเหมือนเดิม และมีรายได้กลับคืนมาพอแก้ปัญหาการขาดทุน แต่ปัญหาระยะสั้นที่ การบินไทยต้องเร่งดำเนินการ คือการปรับลดค่าใช้จ่าย ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น การชะลอรับมอบเครื่องบิน การขยายเวลาชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด

เสื้อแดงเตือนอย่านำภาษีมาแบกขี้ จี้ให้ริบเงินพวกอยู่เบื้องหลังปิดสนามบินมาชดเชย

ทาง ด้านแหล่งข่าวแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงได้เตือนว่าจะขอคัดค้านนำภาษีของคนทั้ง ประเทศมาอุดการบินไทยขาดสภาพคล่องครั้งนี้ เพราะบอร์ดและผู้บริหารก็บอกชัดเจนแล้วว่า ปัญหาเกิดจากการยึดสนามบิน และหลักฐานก็ชัดเจนว่าพันธมิตรเป็นผู้ยึดสนามบิน โดยมีหลักฐานชัดเจนจากการที่ออกแถลงการณ์ยึดสนามบิน เมื่อวันที่25พ.ย.2551 และมีพิธีส่งมอบคืนในวันที่3ธ.ค.2551 ดังนั้นก็ต้องไปไล่เบี้ยเอากับพันธมิตร เพราะตอนนั้นพลตรีจำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรรายหนึ่งประกาศว่าพันธมิตรพร้อมจะรับผิดชอบ และจำเป็นต้องไล่เบี้ยพวกที่อยู่เบื้องหลังสนับสนุนให้ยึดสนามบิน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจที่เพิกเฉยละเว้นต่อหน้าที่ด้วย ทั้งที่รัฐบาลขณะนั้นได้ประกาศฉุกเฉินแล้ว และศาลก็มีคำสั่งให้ออกจากสนามบิน

โจรพธม.โยนขี้ให้อดีตนายกฯสมชายรับกรรมหน้าตาเฉย

นาย พิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวไปยังสถานที่ต่างๆรวมทั้งสนามบินสุวรรณภูมินั้นมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งขณะนั้นหมดความชอบธรรมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างสิ้นเชิง โดยไม่สามารถบริหารประเทศได้ ให้ลาออก แต่เมื่อนายสมชาย ไม่ลาออกก็ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อมีคนที่มองว่าพธม.ทำผิดก็พร้อมที่จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ให้ศาลตัดสินแต่ขออย่าให้สร้างหลักฐานเท็จหรือตั้งข้อกล่าวหาเกินจริงก็แล้ว กัน

แฉหลักฐานโทนโท่โจรพันธมิตรยึดสนามบิน แต่ยังมาแถหนีผิด

เหตุการณ์ ปิดสนามบินสุวรรณภูมิโดยพันธมิตรได้เข้ายึดเอาไว้ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 ไปจนถึงช่วงสายวันที่ 3 ธันวาคม 2551 เหตุการณ์คล้อยหลังไปเพียง 2 เดือนนี้ ฝ่ายผู้ก่อการร้ายสากลพันธมิตร พยายามบิดเบือนผ่านกระบอกเสียงของตนเองว่า พันธมิตรไม่ได้ปิดสนามบิน แต่คนสั่งปิดสนามบินคือการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย

ดังเช่นบทความในเวบผู้จัดการ หัวข้อเรื่องตกลงใครปิดสนามบินกันแน่หือ..นายเสรีรัตน์?!?โดย บทความในกระบอกเสียงของผู้ก่อการร้ายพันธมิตรได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ และโยนความผิดเรื่องการปิดสนามบินไปให้นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผอ.การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าเป็นผู้สั่งปิดสนามบินสุวรรณภูมิเอง

อย่าง ไรก็ตามเรื่องนี้ก็ผ่านสายตาคนทั้งโลกไปแล้วว่า คนปิดสนามบินคือนายเสรีรัตน์ หรือพันธมิตรกันแน่ โชคดีที่ว่าทุกๆอาชญากรรมนั้น อาชญากรมักต้องทิ้งร่องรอยเอาไว้เสมอ ต่อไปนี้คือร่องรอยสำคัญที่แม้แต่พันธมิตรก็เถียงไม่ออก

1.แถลงการณ์พันธมิตร ฉบับที่ 26/2551 ซึ่งออกในเวลา21.57 น.ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2525 ตอนหนึ่งระบุว่า

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับการชุมนุม และเพิ่มมาตรการอารยะขัดขืนโดยการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อยื่นคำขาดผ่านพี่น้องประชาชนทั่วประเทศและทั่วโลกไปยังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคณะรัฐบาลให้ลาออกจากตำแหน่งโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข

2.พันธมิตรทำพิธีส่งมอบสนามบินสุวรรณภูมิคืนทอท.

ปราก ฎหลักฐานเป็นข่าวไปทั่วโลกว่า หลังจากตุลาการรัฐธรรมนูญสั่งยุบ3พรรคการเมืองในวันที่ 2 ธันวาคมแล้ว มีผลให้รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องสิ้นสุดลง ในค่ำวันนั้นพันธมิตรประกาศยุติการชุมนุม และในช่วงสายวันที่ 3 ธันวาคม ก็มีพิธีส่งมอบสนามบินสุวรรณภูมิคืน

มติชนรายงานข่าวว่า ใน เวลา09.20 น.วันที่ 3 ธันวาคม 2551 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)ได้ดำเนินการส่งมอบพื้นที่สนามบิน สุวรรณภูมิคืนอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว โดยพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพธม.เป็นตัวแทนในการส่งมอบพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ อ่านแถลงการณ์ของพันธมิตร พร้อมส่งมอบพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิคืนให้กับนายวุฒิพันธ์ วิชัยรัตน์ ประธานกรรมการบริษัทท่าอากาศไทยฯ เพื่อจะได้เปิดใช้สนามบินได้อย่างเต็มรูปแบบต่อไป โดยพิธีนี้กระทำขึ้นต่อเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์

ปัญหามีอยู่ว่า หากพันธมิตรไม่ได้ยึดไม่ได้ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ผอ.ท่าอาศยานสุวรรณภูมิเป็นคนสั่งปิดเอง ทำไมพันธมิตรจะต้องมีพิธีส่งมอบคืนด้วยเล่า..

เอาแค่2ข้อนี้ ก็พอจะเห็นแล้วว่า อาชญากรได้ทิ้งร่องรอยอาชญากรรมสำคัญไว้มากเพียงใด คือเข้ายึดและปิดสนามบินก็มีแถลงการณ์ทนโท่ พอตอนเลิกยึดก็มีพิธีส่งมอบคืนต่อหน้าพระฉายาลักษณ์...แล้วจะดิ้นปฏิเสธความ รับผิดชอบ และโยนความผิดไปให้ใครอื่นอีกทำไมเล่า?

แซ่ดรายการทีวีเสี่ยตาหลุดผังช่อง5ทั้งยวง หลังตลกคู่บุญ"หม่ำ"ประกาศ"ผมเป็นคนเสื้อแดง"

ทีมข่าวไทยอีนิวส์
29 มกราคม 2552




รายการทีวี"เสี่ยตา-ปัญญา"หลุดผังทีวีทหารช่อง5รวดเดียว5รายการ เจ้าตัวโอดผิดพลาดจากการประสานงานของบริษัท ไม่ได้มีปัญหากับผู้ใหญ่ในสถานี วงการแซ่ดหลุดทั้งยวงหลัง"หม่ำ"ตลกคู่บุญไปประกาศลั่น"ผมเป็นคนเสื้อแดง" ยำมุกฮาแดกพันธมิตรจมเขี้ยว


เสี่ยตาอ้างหลุดผังเพราะผิดพลาดประสานงาน...


หลุดผังไปมากกว่าเพื่อนสำหรับ "เสี่ยตา ปัญญา นิรันดร์กุล" บิ๊กบอส "บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)" ล่าสุดออกมาชี้แจง กรณี รายการของตนหลุดผังช่อง 5 ไปถึง 5 รายการ ทั้ง สู้เพื่อแม่ ,กล่องดำ ,รักริทึ่ม, ตลกหกฉาก และรักต้องซ่อม เจ้าตัวยันไม่เกี่ยวกับการมีปีญหากับผู้ใหญ่ แต่ปัญหาเกิดจากการผิดพลาดของการประสานงานบริษัทเท่านั้น ฟุ้งอีกไม่นานรายการจะกลับมาเหมือนเดิม

"อยากจะบอกอย่างนี้นะครับว่า หลุดผังเนี่ยเป็นความผิดพลาดเกิดมาจากบริษัทเอง ฝ่ายประสานงานของเราเกิดความผิดพลาด คือทางผู้ใหญ่คิดว่าเราไม่มีการต่อสัญญา แต่ตอนนี้ผู้ใหญ่เข้าใจแล้วว่าเราไม่ได้อยากไปอยู่ที่ไหน ตอนนี้เราก็ยังทำงานกันอยู่ ผู้ใหญ่ทุกท่านก็ถือว่าน่ารักมาก ก็ช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่ และหน้าที่ของเราก็ยังทำอยู่ คุณภาพของเราก็ยังอยู่ เพราะฉะนั้นเราเชื่อว่ายังมีรายการดีๆอยู่อีกเยอะ"

"คือกระแสข่าวจะมาหลายทางมาก ด้วยความรักด้วยความเป็นห่วง แต่จริงๆแล้วไม่ได้เกี่ยวกับทางสถานี ไม่ได้เกี่ยวกับอะไรที่ไม่ดีเลย เป็นความผิดพลาดของบริษัทที่ไม่ได้ประสานงานจากเจ้าหน้าที่ของเรา เพราะฉะนั้นเมื่อผู้ใหญ่ทราบไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ระดับไหนก็แล้วแต่ก็มีความ เมตตากรุณาเราอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการให้กำลังใจเรา"

เผยอย่างไรเสียก็ยังจะมีรายการผลิตให้ช่อง 5 แต่รับรู้ข่าวรายการโดนปลดตอนแรกเสียใจไม่น้อย

"ตอนแรกที่รู้ว่ารายการหลุด ก็รู้สึกเสียใจ เสียใจว่าทำไมถึงเกิดขึ้นแล้วเราก็เช็คดูผลปรากฎว่าเกิดจากความผิดพลาดของ เราเอง แต่เราก็ไม่ได้โทษใครไม่มีอารมณ์เสีย ไม่มีอารมณ์เครียด เพราะว่าเดี๋ยวสิ่งต่างๆก็จะเข้ามาสู่รายการปกติ"

"ตอนนี้ยังถ่ายทำรายการไม่ได้ แต่ถ้าจะได้ออกอากาศเมื่อไหร่เขาก็จะมีสัญญาณให้เราก่อน เราก็จะเริ่มถ่ายทำได้ แต่เรื่องงานเราคิดไว้หมดแล้ว และรายการของเรามันมีทั้งปรับมีทั้งเพิ่ม มีทั้งรายการใหม่ด้วย เราก็ยังอยากจะอยู่ช่อง 5 เหมือนเดิมแหละ แต่ช่องอื่นเราก็จะมีของช่องอื่นอยู่แล้ว ก็คือ 5 รายการก็ยังอยู่ที่ช่อง 5 อันนี้ก็คือ ความปรารถนาของเรา แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่เพราะว่าบางทีการอนุมัติรายการให้คนอื่นก็ต้อง ดูเวลา และก็หวังว่าน่าจะกลับไปอยู่ที่ช่องเดิมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น ก็คาดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นนะครับ เร็วๆนี้ แต่ว่าคนที่มีสิทธิ์ก็ต้องขึ้นอยู่กับทางสถานีนะครับ ก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ที่ท่านยังเมตตา"



ขณะเดียวกันที่บอร์ดของผู้จัดการ กระบอกเสียงพันธมิตร ได้สนทนากันในหัวข้อ"เมื่อหม่ำ จ๊กมก ประกาศกร้าวกลางพันธุ์ทิพย์" โดยระบุว่า เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมานั้น ที่ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ได้มีการจัดงานเลี้ยงที่ชั้นพระเครื่อง (ชั้น 3) และได้มีการเชิญพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตคู่แข่งขันเป็นนายกรัฐมนตรีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นประธานในพิธิ พร้อมกันนั้นยังได้มีการจ้างตลกคณะหม่ำ จ๊กมก มาเล่นโชว์ในงานด้วย

บนเวทีนั้นนายเพทาย วงศ์คำเหลา หรือหม่ำจ๊กมก ได้มีการเล่นตลกพูดจาเหน็บแนม พธม.เราและพูดชเลียพล.ต.อ.ประชาว่าสมัยหน้าท่านต้องได้เป็นนายกฯแน่นอน แต่เมื่อท่านเป็นอาจเจอพวกเสื้อเหลือง สนธิ จำลอง ก็จะออกมา (ซึ่งในตอนหลังจะแก้เกี้ยวว่าออกมาซื้อพระที่พันธุ์ทิพย์) และบอกว่า

"ผมไม่สนใจคนพวกนี้หรอก เพราะผมเป็นพวกเสื้อแดง"