CBOX เสรีชน

26 กรกฎาคม, 2552

19 กรกฎาคม, 2552

จักรภพ เพ็ญแข:ก้าวที่ถูกและผิดของฝ่ายประชาธิปไตยในฮอนดูรัส


โดย จักรภพ เพ็ญแข
ที่มา คอลัมน์ “ผมเป็นข้าราษฎร” หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์วิวาทะ Thai Red News ปีที่ 1 ฉบับที่ 7
17 กรกฎาคม 2552

เขา รู้ครับว่า การเอาศาลมาตัดสินคดีเพื่อให้ศัตรูทางการเมืองกลายเป็นคนผิด เป็นวิธียึดอำนาจแบบใหม่ที่ใช้แทนรถถังและอาวุธประจำกายของทหารราบ ความหวังว่าสากลโลกเขาจะเออออไปด้วยเหมือนว่าฝ่ายตุลาการมีความศักดิ์สิทธิ์ และแสนจะเที่ยงธรรมนั้น ก็หดหายไปตามระเบียบ ไม่อย่างนั้นผู้นำทั่วโลกเขาไม่ยืนอยู่ข้างเซเลน่าทั้งๆ ที่ศาลฮอนดูรัสตัดสินแล้วว่ามีความผิดหรอกครับ


ผมนั่งดูข่าวการช่วงชิงอำนาจในฮอนดูรัสด้วยความสนใจใกล้ชิด

เมื่อ สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันว่าได้เกิดการรัฐประหารเงียบกลางนครหลวงเตกูสิกัลปา ทหารเกือบ ๓๐๐ คนบุกจี้ตัวประธานาธิบดีและบังคับให้บินออกไปจากประเทศทั้งชุดนอน ประเทศทั่วโลกทั้งมหาอำนาจและไม่ใช่มหาอำนาจประสานเสียงเป็นเอกฉันท์ว่า ไม่ยอมรับการกระทำครั้งนี้ของฝ่ายทหารฮอนดูรัส และขู่จะต่อต้านต่างๆ นานา

ตัว ประธานาธิบดีมานูเอล เซเลน่าก็ไม่อยู่เฉย เดินสายขอความสนับสนุนไปทั่วโลก ขณะที่เขียนอยู่นี้ก็ได้ข่าวว่าอยู่ในสาธารณรัฐโดมินิกันและได้รับความสนับ สนุนเต็มที่จากประเทศนั้น

คำถามที่น่าสนใจมีอย่างน้อย ๒ ข้อคือ ๑) เราศึกษาอะไรได้บ้างจากกรณีฮอนดูรัส ๒) จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ถามเพื่อเอาคำตอบมาประยุกต์ใช้ในเมืองไทยนั่นล่ะครับ

ฝ่าย ประชาธิปไตยไทยได้รับประโยชน์ใหญ่อย่างหนึ่งโดยไม่รู้ตัว เมื่อทั่วโลกวิเคราะห์ถึงวิธีที่เขารวมหัวโค่นฝ่ายประชาธิปไตยในฮอนดูรัส เราก็เกิดสว่างวาบทางปัญญาขึ้นด้วย

ก่อนการรัฐประหาร มานูเอล เซเลน่าคือประธานาธิบดีที่กำลังใช้ขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญที่เรียกว่า “การหารือสาธารณะโดยไม่มีข้อผูกพัน” หรือ “the non-binding public consultation” กำหนดให้เป็นวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๒

เรื่อง นี้แปลไทยเป็นไทยได้ว่า ประธานาธิบดีขอถามประชาชนฮอนดูรัสว่าเราสมควรจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ ประธานาธิบดีลงสมัครรับเลือกตั้งซ้ำสองหรือไม่ ถ้าประชาชนตอบว่าสนใจ ก็ยังไม่เด็ดขาด ต้องจัดการลงประชามติขึ้นในทันที หรือจะรอถามเมื่อวาระตำแหน่งของประธานาธิบดีใกล้จะสิ้นสุดลงในปลายปี ๒๕๕๒ ก็ได้

แต่เซเลน่ากำลังเป็นที่หวาดระแวง หวาดกลัว ไปจนถึงเกลียดชังของ “ฝ่ายอำมาตย์” ในฮอนดูรัสเป็นอย่างยิ่ง

เพราะนโยบายที่ค่อนมาทางสังคมนิยมขึ้นเรื่อยๆ ของเขา แถมประชาชนผู้มีรายได้ขนาดกลางและระดับรากหญ้าพอใจขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ ว่าข้าราชการระดับสูง ทหารใหญ่ ข้าราชการตุลาการ (โดยเฉพาะผู้พิพากษา) จนถึงนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม จ้องจะโค่นเขาลงทั้งนั้น เมื่อประชาชนทำท่าว่าจะต่ออายุอำนาจต่อให้เขาอีก โบราณวัตถุเหล่านี้ก็แผลงฤทธิ์ในทันที

เริ่มต้นจากฝ่ายถือปืน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของฮอนดูรัสแสดงท่าทีปฏิเสธที่จะจัดกำลังพลและอุปกรณ์ ต่างๆ มาช่วยประธานาธิบดีจัดการหารือสาธารณะฯ ทั้งที่มีหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่แตกต่างนักจากผู้บัญชาการทหารบกที่ปฏิเสธคำสั่งนายกรัฐมนตรีในการควบคุม ฝูงชนที่ใช้ความรุนแรง ตลอดจนการคุ้มครองทำเนียบรัฐบาลและท่าอากาศยานนานาชาติของประเทศ แต่ประธานาธิบดีจากการเลือกตั้งในฮอนดูรัสเขาไม่ต้องเกรงใจหรือเห็นแก่หน้า ใคร ไม่ต้องก่ายหน้าผากวิเคราะห์ว่าใครอยู่เบื้องหลัง ผู้บัญชาการทหารสูงสุดจึงถูกปลดแบบสายฟ้าแลบเป็นรายแรก

แต่ไม่ทันลงมือในรายที่สอง ศาลฮอนดูรัสกระโดดร่วมวงศ์ไพบูลย์ ออก โรงวินิจฉัยทันทีว่าคำสั่งปลดของประธานาธิบดีไม่ถูกต้องและขัดต่อรัฐธรรมนูญ สั่งให้ประธานาธิบดีแต่งตั้งนายทหารผู้นี้กลับคืนสู่ตำแหน่งและอำนาจดังเดิม

จากนั้นตุลาการภิวัตน์แกก็เดินหน้าต่อ วินิจฉัยอีกว่าหากประธานาธิบดียังยืนกรานจัดการหารือสาธารณะฯ ต่อไป ให้ถือว่าประธานาธิบดีกระทำการอันขัดต่อรัฐธรรมนูญอีกเหมือนกัน แต่เซเลน่าไม่ใส่ใจใดๆ ประกาศเดินหน้าถามประชาชนต่อไปเหมือนเดิม

ในที่สุดก็เกิดรัฐประหารอย่างเงียบๆ ขึ้นในช่วงย่ำรุ่งของวันหารือสาธารณะฯ นั่นเอง

คน ที่ฝ่ายอำมาตย์ฮอนดูรัสเลือกขึ้นมานั่งแป้นรักษาการแทนคือ โรเบอร์โต มิเชลเล็ตติ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นลำดับสองในการสืบทอดตำแหน่งอยู่แล้วโดยรัฐธรรมนูญ ซึ่งในเกมนี้ถือเป็นไม้สอง ก็แสดงความสามารถดึงเสียงสมาชิกจำนวนมากมาสนับสนุนการแต่งตั้งตนเอง ส.ส. กลุ่มนี้ได้รับเลือกตั้งโดยตรงและไม่ใช่ฐานเสียงของประธานาธิบดี เรื่องนี้ไม่แปลก เพราะตัวประธานาธิบดีก็ไม่ได้อยู่หรือไปด้วยเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ตามระบอบนี้อยู่ดี

ตัวอย่างนี้บอกเราว่า กลไกของฝ่ายอำมาตย์ที่ไหนก็ตามมักมีองค์ประกอบที่คล้ายกันเสมอ นั่นคือ

๑) กองทัพ
๒) ศาลและผู้พิพากษา
๓) นักการเมืองฝ่ายอำมาตย์




องค์ประกอบอื่นๆ ที่ทำ หน้าที่เชียร์แขกอยู่แทบเท้าก็ไม่แตกต่างจากรัฐเผด็จการทั่วไปนัก ได้แก่นักวิชาการอนุรักษ์นิยมหรือไม่ก็ขาดความกล้าหาญทางจริยธรรม สื่อมวลชนผู้หลงใหลระบบอุปถัมภ์และการเล่นพวก องค์กรพัฒนาเอกชนที่ แสดงความสำคัญของตนด้วยกิจกรรมเชิงลบและยังชีพตลอดมาด้วยพฤติกรรมเช่นนั้น ส่วนสุดท้ายและเป็นปัจจัยตัดสิน คือมวลชนที่ตกเป็นเหยื่อของการครอบงำทางสื่อและการโฆษณาชวนเชื่อของฝ่าย อำนาจเดิมจนสับสน

เพราะประชาชนมีอำนาจต่อรองน้อยที่สุด เขาก็เล่มเกมปั่นหัวหนักที่สุด

อด อยากยากจนแทบจะไส้ขาด เขาก็ชวนตั้งชื่อลูกหมีแพนด้าบ้าง ลูกช้างบ้าง อยู่เฉยๆ เขาก็ทำให้เกิดกลัวไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จนสังคมแทบเป็นบ้า ทั้งๆ ที่คนไทยตายด้วยไข้หวัดสายพันธุ์เก่าและอุบัติเหตุทางรถยนต์ปีละไม่รู้เท่า ไหร่ นี่ยังไม่รวมประเด็นไร้สาระต่างๆ ที่เข้ามาครองพื้นที่ข่าวอยู่ทุกวัน จนเห็นชัดว่ารัฐบาลของฝ่ายอำมาตย์จะขึ้นครองอำนาจพร้อมข่าวที่ไร้สาระจนไม่ น่าจะเป็นข่าวเสมอ

ทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพื่อให้มวลชนลืมปัญหาอันแท้จริงของชาติ นั่นคือเศรษฐกิจที่ไร้อนาคตและความคิดที่จะปิดประเทศไทยของผู้มีอำนาจที่แท้ จริง เพราะความเปลี่ยนแปลงใหญ่ใกล้เข้ามาเต็มที จะยืดเวลาครองอำนาจให้นานที่สุดอย่างไร คิดมาคิดไป รูปแบบเมียนมาร์ก็ปรากฏขึ้น

แต่นั่นก็ยังไม่เด็ดที่สุด

นอก จากวิกฤติฮอนดูรัสเผยว่าใครคือผู้แสดงประจำของฝ่ายอำมาตย์บ้างแล้ว ประโยชน์สำคัญอีกหนึ่งคือทำให้เรารู้ว่าประชาคมระหว่างประเทศเขาก็รู้เท่า ทันวิธีสร้างอำนาจของอำมาตย์เหมือนกัน

เขารู้ครับว่า การเอาศาลมาตัดสินคดีเพื่อให้ศัตรูทางการเมืองกลายเป็นคนผิด เป็นวิธียึดอำนาจแบบใหม่ที่ใช้แทนรถถังและอาวุธประจำกายของทหารราบ ความหวังว่าสากลโลกเขาจะเออออไปด้วยเหมือนว่าฝ่ายตุลาการมีความศักดิ์สิทธิ์ และแสนจะเที่ยงธรรมนั้น ก็หดหายไปตามระเบียบ ไม่อย่างนั้นผู้นำทั่วโลกเขาไม่ยืนอยู่ข้างเซเลน่าทั้งๆ ที่ศาลฮอนดูรัสตัดสินแล้วว่ามีความผิดหรอกครับ

แล้วอะไรบ้างที่ถือว่าผิดพลาดในทางยุทธวิธีของฝ่ายประชาธิปไตย?

ประธานาธิบดี มานูเอล เซเลน่า อาจจะมุ่งมั่นชิงอำนาจคืนจนลืมอะไรบางอย่าง เดิมเกมการเมืองระหว่างประเทศอย่างชาญฉลาดจนเอาสหรัฐอเมริกามารับรองได้ใน วันที่ ๒๙ มิ.ย. หรือรุ่งขึ้นของการรัฐประหาร ทำให้องค์การรัฐอเมริกา หรือ OAS ลงมติเป็นเอกฉันท์ประณามการยึดอำนาจได้ในวันที่ ๔ ก.ค. ซึ่งเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ให้กับองค์กรนี้ คอสตาริกา ซึ่งเป็นประเทศที่ OAS มอบหมายเป็นประเทศตัวกลางในการเจรจาหย่าศึกระหว่างประธานาธิบดีเซเลน่าที่ ประชาชนเลือกตั้ง และมิเชลเล็ตติที่อำมาตย์รวมหัวกันตั้ง ก็เพิ่งจบรอบแรกไปที่กรุงซานโฮเซ่ โดยฝีมือกรรมการกลางระดับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ คือประธานาธิบดีออสการ์ อาริอัส ซานเชซ

ถึงยังไม่ได้ความอะไรแต่ก็ยืนยันว่าเซเลน่ายังมีความชอบธรรมทางการเมืองอย่างครบถ้วนอยู่

ทั้ง ที่ทุกอย่างเริ่มเข้าที่แล้ว แต่เจ้าตัวเกิดใจร้อน บินกลับมายังฮอนดูรัสในวันที่ ๕ ก.ค. ๕๒ นัยว่าจะไปเดินขบวนร่วมกับมวลชนในการต่อสู้กับรัฐบาลฝ่ายอำมาตย์ ขนาดปราศรัยสดๆ ลงจากเครื่องบินมาที่สถานีโทรทัศน์ฝ่ายซ้ายคือเทเลซอร์ ปลุกใจเต็มที่ ขนาดใช้สำนวนว่า “เลือดของพระเจ้ากำลังหลั่งไหลเต็มตัวข้าพเจ้า และบัดนี้ข้าพเจ้าพร้อมแล้วที่จะแบกไม้กางเขนเดินร่วมไปกับประชาชน

ฮอนดูรัส เป็นสาธารณรัฐแคธอลิคที่ออกจะเคร่งครัด อ้างอย่างนี้ก็พอเข้าใจได้ คนข้างล่างก็ฮือฮากันอย่างหนัก เหวี่ยงปะทะเข้ากับทหารและตำรวจที่มาสกัดกั้นไม่ให้เครื่องบินของเซเลน่าลง จนเกิดล้มตายและบาดเจ็บกันมาก ในที่สุดเซเลน่าก็ไม่ได้ลง ต้องบินต่อไปเอลซัลวาดอร์ เขาให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่าความจริงเขาพร้อมสู้ตายแล้ว แต่นักบินปฏิเสธไม่ยอมลง เนื่องจากกลัวอุบัติเหตุจากเครื่องกีดขวางต่างๆ ที่วางอยู่

ข้อคิดก็คือ ผู้นำประชาธิปไตยที่โลกเขามายืนอยู่ข้างตัวจนสามารถสร้างแรงกดดันได้แล้ว อย่าบุ่มบ่ามผลีผลามและเสี่ยงต่อ การทำให้ตัวเองบาดเจ็บล้มตายไปอย่างโง่เขลา ต้องมีศรัทธาต่อมวลชนและปล่อยให้พลังของระบอบประชาธิปไตยโลกได้ทำงาน ตัวเองค่อยเสริมเข้าไปอย่างนิ่มนวลในภายหลังเมื่อถึงจังหวะ เซเลน่าถูกต่อว่าจากผู้นำต่างๆ พอดูในประเด็นนี้

การเมืองไทยจะได้ รับประโยชน์ขนาดไหนจากกรณีฮอนดูรัส ขึ้นอยู่กับความเด็ดเดี่ยวทางความคิด ผู้นำประชาธิปไตยต้องมั่นคงว่าระบอบประชาชนเหนือกว่าอะไรทั้งหมด ความชัดเจนในแง่นี้ต้องมีมากและไม่แปรผัน ต้องท่องไว้เสมอว่าในระบอบประชาธิปไตยนั้น คืบก็ประชาชน ศอกก็ประชาชน

ใครถือตัวว่าไม่ใช่ประชาชน คนนั้นคือส่วนเกินของระบอบประชาธิปไตย.


พลังประชาธิปไตยชนะ TRUEยุติบล๊อกไทยอีนิวส์แล้ว หลังเจอรุมสวดพร้อมขู่เลิกใช้บริการนับล้าน


พลังของผู้บริโภค-หลัง จากที่ท่านผู้อ่านของเรารวมพลังร้องเรียนไปยังเน็ตTrueให้ยกเลิกการบล๊อกเวบ ไทยอีนิวส์และอีก33เวบฝ่ายประชาธิปไตย ช่วงสายวันนี้ท่านผู้อ่านของเรารายงานมาว่าเริ่มเข้าไทยอีนิวส์ได้ตามปกติ แล้ว หลังจากส่วนใหญ่ได้ร้องเรียนTrueไปทำนองว่าหากไม่ยกเลิกการบล๊อก ก็จะใช้วิธีแก้ไขแบบเบ็ดเสร็จคือยกเลิกบริการของTrueไปใช้บริการของผู้ให้ บริการรายอื่น

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
17 กรกฎาคม 2552


ท่าน ผู้อ่านไทยอีนิวส์จำนวนมากได้กรุณาแจ้งเข้ามาว่า ในช่วงเช้าวันนี้ได้ร้องเรียนไปยังผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตTrueเพื่อขอให้ ยกเลิกการบล๊อกปิดกั้นเวบไทยอีนิวส์ และอีก33เวบไซต์ฝ่ายประชาธิปไตย โดยเตือนว่าหากไม่ยกเลิกการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายนี้ก็จะยกเลิกการให้บริการ ส่งผลให้ช่วงสายวันนี้สามารถเข้าไทยอีนิวส์ได้ตามปกติแล้ว อย่างไรก็ตามยังวางใจไม่ได้ทีเดียว เรายังขอวิงวอนให้ท่านผู้อ่านของเราร่วมพลังร้องเรียนต่อไปเพื่อให้Trueยก เลิกการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย และละเมิดสิทธิผู้บริโภค มีพฤติการณ์ปิดกั้นความเคลื่อนไหวของฝ่ายประชาธิปไตยอย่างเด็ดขาดต่อไป


ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างเพียงส่วนหนึ่งของการรายงานผลการร้องเรียนของท่านผู้อ่านเข้ามายังไทยอีนิวส์

วันนี้ แหละจะด่าให้หนำใจ ทั้งโทรสาร และโทรสด ด่ากันมาหลายยกแล้วเรื่องตอนกลางคืนปล่อยอ่อน สปีดไม่ถึงที่กำหนด โทรไปถามมันบอกให้แบ่งๆ กันใช้ในพื้นที่นั้น ๆ .. ห่วยแตกจริง/เสื้อแดง


ผมได้ร้องเรียนทรู โดยแนบข่าวไทยอีนิวส์โดนบล๊อกไป และแจ้งร้องเรียนทางอีเมล์ไปดังนี้

บริษัท ของข้าพเจ้าเป็นองค์กรธุรกิจขนาดกลาง ใช้บริการทรูลีดไลน์มานานหลายปี แต่ช่วงที่ผ่านมาไม่ได้รับความสะดวกในการบริการ เนื่องจากเข้าเวบไทยอีนิวส์ และเวบประชาธิปไตยอื่นๆไม่ได้เลย มาทราบภายหลังว่าทรูได้ปิดกั้นเวบเหล่านี้โดยพลการ ทำให้กระทบต่อธุรกิจของข้าพเจ้าที่ใช้ข้อมูลข่าวสารจากไทยอีนิวส์และเวบ อื่นๆไปประเมินความเสี่ยงและเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจดำเนินธุรกิจที่ สำคัญ การที่ท่านปิดกั้นโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีคำสั่งศาล ไม่มีคำสั่งจากรัฐบาล แต่ทำไปเองถือเป็นการกระทำที่แย่มาก

จึงขอให้ ท่านยกเลิกการปิดกั้นหรือบล๊อกเวบดังกล่าวเสีย ก่อนที่ข้าพเจ้าและบริษัทของข้าพเจ้าจะยกเลิกการใช้บริการอินเตอร์เน็ตของ ท่านและอาจจำเป็นที่จะต้องฟ้องร้องดำเนินคดีฐานละเมิดต่อท่านด้วย

หาก ผลพิจารณาเป็นประการใดโปรดแจ้งกล้บมาเป็นการด่วน ด้วยความผิดหวังในบริการของท่านเป็นอย่างยิ่ง/สมชาย กรรมการผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่งที่เป็นลูกค้าทรูลีดไลน์มานาน แต่เหลืออดเต็มทนในการนี้


ไทยอีนิวส์กราบขอบพระคุณท่าน ผู้อ่านของเราที่กรุณาเสียสละเวลาของท่านแสดงพลังในการนี้ อย่างไรก็ตามยังวางใจไม่ได้นัก จึงขอเรียนเชิญร่วมพลังร้องเรียนต่อไป เพื่อให้Trueยกเลิกการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย และละเมิดสิทธิผู้บริโภค มีพฤติการณ์ปิดกั้นความเคลื่อนไหวของฝ่ายประชาธิปไตยอย่างเด็ดขาดต่อไป

เมื่อ เช้าวันนี้ไทยอีนิวส์นำเสนอข่าวว่า เป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์มาแล้วที่มีผู้อ่านของเราได้ร้องเรียนเข้ามา และมีการแจ้งข่าวร้องทุกข์ตามเวบบอร์ดต่างๆเช่น ประชาไท พันทิป ฟ้าเดียวกัน เป็นต้นว่า เมื่อคลิ้กเข้าชมเวบบล็อกของไทยอีนิวส์ ตามลิ้งค์www.thaienews.blogspot.com หรือhttp://thaienews.blogspot.comแล้วไม่สามารถเข้าได้ เพราะจะลิ้งค์ไปที่เวบไซต์ของictโดยอัตโนมัติที่ http://58.97.5.29/ict.html

เหตุการณ์ นี้เกิดขึ้นกับกรณีผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตของTRUE เป็นหลัก ถือว่าเป็นวิธีบล๊อคเวบแบบใหม่ของคนที่ใช้ Internet ของ True คือการ redirect หน้า webpage ไปยังอีกหน้านึง ก็คือหน้าของictที่ขึ้นรูปใบไม้เขียว

ปัญหานี้ไม่ได้เกิดเฉพาะกับไทยอีนิวส์ แต่รวมถึงอีก33เวบของฝ่ายประชาธิปไตย(ดูรายชื่อท้ายข่าวนี้)

อย่างไรก็ตามสำหรับวิธีแก้ไขในระยะนี้ เราแนะนำท่านผู้อ่านของเราที่ประสบปัญหาดังนี้

1.ท่านควรใช้สิทธิร้องเรียนตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง “กระบวนการรับเรื่องร้องเรียนและพิจารณาเรื่อง ร้องเรียนของผู้ใช้บริการ” ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2549 โดยท่านสามารถร้องเรียนได้ดังนี้

- ทางโทรศัพท์ (Call Center) (ไม่คิดค่าบริการ)
ผ่านเลขหมาย 0-2900-8088
เวลาทำการ: ทุกวัน เวลา 08.00น.-20.00น. ไม่มีเวลาพัก
- ทางโทรสาร (Fax) (คิดอัตราค่าใช้จ่ายตามอัตราปกติ)
ผ่านเลขหมาย 0-2699-4338
- ทางจดหมายอิเลคทรอนิคส์ (Email) Email Address: voc@truecorp.co.th
- ทางเว็บไซต์ (Website) www.truecorp.co.th
- ทางจดหมาย (Mail) ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเลขที่ 1252 ชั้น10 อาคารธญาณ ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวงเขตสวนหลวงกทม.10250


หากการร้องเรียนเป็นผล คือTrueยกเลิกการบล๊อก ท่านควรให้โอกาสเขาได้แก้ไข แต่หากท่านร้องเรียนแล้วไม่เกิดผล เราแนะนำให้ใช้วิธีการแก้ไขเบ็ดเสร็จเด็ดขาดคือยกเลิก และเปลี่ยนไปใช้บริการของผู้ให้บริการรายอื่นที่ไม่บล๊อกไทยอีนิวส์ หรือเวบของฝ่ายประชาธิปไตย

2. หากท่านไม่ได้ดำเนินการตามข้อ1 คือไม่ขอร้องเรียน และหรือไม่ยกเลิกอินเตอร์เน็ตTRUEไปใช้บริการอื่น ก็ยอมทนรำคาญเสียเวลาอีกหน่อย ด้วยการเปิดหน้าwww.google.co.thก่อน จากนั้นคีย์คำว่าthaienewsลงไปในช่องค้นหาและคลิ้ก ก็จะเข้ามาหน้าไทยอีนิวส์ได้ตามปกติ

3.หากท่านไม่ร้องเรียน และหรือไม่ยกเลิกอินเตอร์เน็ตTRUEไปใช้บริการอินเตอร์เน็ตอื่น และไม่อยากรำคาญทำตามข้อ2 ก็ขอรบกวนให้ท่านเข้าเยี่ยมชมผ่านทางเวบพร็อกซี่ต่างๆ โดยเข้าไปที่www.proxy.org จากนั้นเลือกเวบพร็อกซี่ที่ท่านต้องการ เช่น www.hidemyass.com เป็นต้น เมื่อเข้าไปในเวบพร็อกซี่เหล่านี้ได้แล้ว ก็นำชื่อurlของไทยอีนิวส์ คือwww.thaienews.blogspot.comหรือhttp://thaienews.blogspot.comไปวางใน ช่องค้นหา แล้วกดenter เพียงแค่นี้ท่านก็สามารถเข้าเยี่ยมชมไทยอีนิวส์ได้ แต่อาจไม่ได้รับความสะดวกนัก

ในการนี้เราใคร่ขอวิงวอนให้ ท่านผู้อ่านของเรากรุณาสละเวลาเพียงเล็กน้อยด้วยการ โทรศัพท์ หรืออีเมล์ไปร้องเรียนกับTrueเพื่อให้พวกเขาทราบถึงปัญหาของท่านผู้อ่าน และกรุณาเตือนเขาว่าหากยังไม่ยกเลิกการบล๊อกไทยอีนิวส์ และเวบฝ่ายประชาธิปไตยอีก33เวบ ก็อาจทำให้Trueต้องสูญเสียลูกค้าที่ทรงคุณค่าอย่างท่าน และท่านอื่นๆที่เป็นผู้อ่านไทยอีนิวส์อีกนับล้านคนได้ เมื่อร้องเรียนไปแล้วผลเป็นประการใดกรุณาแจ้งมาให้เราทราบทางอีเมล์
thaienews@googlegroups.com จะเป็นพระคุณอย่างสูง


ไทย อีนิวส์เป็น1ในจำนวน63เวบไซต์ของฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งถูกรัฐบาลบล็อกเวบ นับตั้งแต่เหตุการณ์ลุกฮือขึ้นประท้วงครั้งใหญ่ของขบวนการคนเสื้อแดงในช่วง สงกรานต์เลือดที่ผ่านมา โดยรัฐบาลอ้างพ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อบล็อกหรือปิดกั้นเวบ อย่างไรก็ตามแม้เวลาต่อมารัฐบาลได้ยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อสามารถควบคุม สถานการณ์ได้แล้วก็ไม่ยกเลิกการปิดกั้นเวบบล็อกของไทยอีนิวส์แต่อย่างใด และยังได้ปิดกั้นหนักขึ้นในระยะ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ โดยเมื่อผู้อ่านคลิ้กเข้าเยี่ยมชมก็จะลิ้งค์ไปยังเวบไซต์ของictขึ้นรูปใบไม้ เขียว โดยไม่ต้องมีพฤติกรรมปิดบังซ่อนเร้นแบบที่เคยทำตั้งแต่หลังสงกานต์เลือดอีก แล้ว แต่ictก็ไม่ได้ระบุสาเหตุว่า ทำไมต้องปิดกั้นเวบบล็อกนี้

แต่ ผู้อ่านของเราได้ตั้งข้อสังเกตว่าบางครั้ง บางวัน บางช่วงเวลาก็เข้าไทยอีนิวส์ได้ตามปกติ ไม่ต้องผ่านพร็อกซี่ ขึ้นกับว่า รัฐบาลหรือict และหรือTRUEกำลังอยู่ในอารมณ์ไหนเป็นหลัก

ไทยอีนิวส์ เกิดขึ้นหลังรัฐประหาร19กันยายน2549เพื่อรายงานข่าว และบทความ ตลอดถึงความเคลื่อนไหวของฝ่ายเรียกร้องต้องการประชาธิปไตย เปิดโปงความชั่วช้าของเผด็จการทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่สื่อมวลชนกระแสหลักไม่ได้ทำในสิ่งที่ควรต้องทำ

ไทยอีนิวส์มียอดผู้เข้าอ่านถึงขณะนี้ 10,850,397 คลิ้ก โดยเริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2550 เป็นต้นมา
(อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง:ฝ่าวงล้อมสื่อกระแสหลัก ยอดผู้อ่านไทยอีนิวส์ทะลุ10ล้านคลิ้ก )

รายชื่อเว็บไซต์ทั้ง 33 แห่งที่ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตของTrueเจอปัญหา เมื่อคลิ้กเข้ามาแล้วจะredirectไปที่ictใบไม้เขียว

01. http://www.justin.tv/nationsiam (Blocked)
02 http://www.konthai.org (Blocked)
03. http://www.thaifreenews.com (Blocked)
04. http://www.thairedshirt-democracy.org/cbox/s1.html (Blocked)
05. [url]http://www.democracytoday.tv [/url](OK)
06. http://www.thaipeoplevoice.org (OK)
07. http://freethais.com/update_13apr09.php (OK)
08. http://www.wered.net (Blocked)
09. http://www.redplus.org (N/A)
10. http://thaienews.blogspot.com (Blocked)
11. http://www.prachachonthai.com (Blocked)
12. http://www.cbnpress.com (OK)
13. http://uddtoday.ning.com (Blocked)
14. http://www.thaireduk.com (N/A)
15. http://www.nocoup.net (OK)
16. http://downmerng.blogspot.com (Blocked)
17. http://www.jakrapob.net (Blocked)
18. http://www.truethaksin.com (Blocked)
19. http://www.chupong.com (Blocked)
20. http://www.rednon.com (Blocked)
21. http://www.chupong.org (Blocked)
22. http://www.serichon.com (Blocked)
23. http://www.nationsiam.com (OK)
24. http://www.gmm2008.com/index.php (OK)
25. http://thaksin.wordpress.com (Blocked)
26. http://thaipresslog.blogspot.com (Blocked)
27. http://thaiopinions.blogspot.com (Blocked)
28. http://www.newskythailand.com (Blocked)
29. http://sites.google.com/site/prachathaiclub/Home (Blocked)
30. http://siamfreedom.blogspot.com (Blocked)
31. http://www.priority-radio.com (Blocked)
32. http://www.cbox.ws (Blocked)
33. http://www.sameskyboard.org


ปลาใหญ่ตายน้ำตื้น อะไรมันจะซวยขนาดนี้ สองวรนุช !!

โดย คุณ อัคนี คคนัมพร
ที่มา เวบไซต์ โลกวันนี้
17 กรกฎาคม 2552

ทำไปทำมา ปลาใหญ่กำลังจะตายน้ำตื้น คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่นแหละครับ ไม่ใช่ใครที่ไหน

นักเรียนนอก ออกซ์ฟอร์ด หน้าใส ปัญญาดี ฝีปากเด่น ตกหลุมพราง “เนรวิน” ถิ่นบุรีรัมย์เข้าจังเบอร์ คล้ายต้องมนต์ดำเมืองเขมร

หลง ดีใจได้ปลื้ม ที่เนรวินอุ้มเข้าสะเอว กระเตงไปแถลงพื้นที่อีสานได้ ลบคำสบประมาทของนักการเมืองทั้งปวง แต่แล้วก็พลาด ไปติดบ่วง “ความประจบสอพลอ” ของรัฐมนตรีในรัฐบาลตัวเอง บวกกับความเผลอไผลเคลิบเคลิ้มในบุญบารมี ปลื้มปีติรับเอาของกำนัลมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท ไปหลายแสน

งาช้างครับ งาช้างแท้ๆ งาช้างประจำตระกูลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสียด้วย คู่หนึ่งราคาหลายแสนบาท

ผู้ สื่อข่าวไร้สำนัก เขารายงานว่า ในการมอบของกำนัลกันครั้งนี้ ท่านรัฐมนตรีโสภณ ซารัมย์ ได้กล่าวสุนทรพจน์หวานจับใจ (ประมาณว่า รัฐมนตรีต่างประเทศกษิต ภิรมย์ ที่ใช้ลิ้นทูตยกย่องว่าเป็นปูชนียบุคคลของประเทศไทยได้อายไปเลย)

รัฐมนตรี คมนาคมโสภณกล่าวว่า งาช้างนี้เป็นสมบัติประจำตระกูล ตกทอดมาแต่บรรพบุรุษซึ่งเคยเลี้ยงช้าง เป็นของมีค่าที่หวงแหนหนักหนา แต่การที่นายกรัฐมนตรีให้เกียรติเสี่ยงภัย (จากคนเสื้อแดง) มาเยี่ยมเยียนถึงบ้าน นับเป็นเกียรติและเป็นสิริมงคลอย่างสูง ไม่มีสิ่งใดจะเป็นเครื่องตอบแทน จึงขอมอบงาช้างประจำตระกูลคู่นี้ให้

เรื่อง มันจะไพเราะเพราะพริ้งกว่านี้เพียงใด เกินสติปัญญาที่ผู้เขียนจะบรรยายได้ จึงขอสรุปว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็รับเอาของกำนัลนั้นกลับกรุงเทพฯ ด้วยความสุขเปี่ยมล้นหัวใจ

สิทธิการิยะ ท่านว่า คนเราเมื่อถึงกาลแห่งความวิบัติ พุทธิปัญญาก็ดับไปเสีย นายอภิสิทธิ์ลืมไปว่า คนที่มีตำแหน่งทางการเมืองนั้น ประกาศของ ป.ป.ช. เขาห้ามไว้ว่า จะรับของกำนัลมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาทมิได้ ผู้ใดฝ่าฝืน มีความผิดต้องโดนปรับอาบัติขั้นปาราชิก คือหลุดจากตำแหน่งทันที

คราวนี้แหละครับที่ผู้เขียนบอกว่า ปลาใหญ่ตายน้ำตื้น เพราะเหตุว่า คนเสื้อแดงจะกล่าวหาด้วยเรื่องราวใดๆ นายอภิสิทธิ์ก็ทำเป็นเฉยเสีย

เป็นต้นว่า กล่าวหาว่าตั้งรัฐบาลนอกครรลองประชาธิปไตย ก็เฉยเสีย
กล่าวหาว่า ตั้งรัฐบาลแล้วไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ก็เฉยเสีย
กล่าวหาว่า หนีการเกณฑ์ทหารและใช้เอกสารราชการปลอม ก็เฉยเสีย

ทำท่าเหมือนกับว่า จะอยู่ในตำแหน่งไปได้โดยไม่มีใครสามารถทำอะไรให้ระคายผิว

แต่แล้ววันดีคืนดี ก็รับของกำนัลกันง่ายๆ กลางหมู่คนที่อ้างว่ามีเกียรติสูง มีความน่าเชื่อถือทางศีลธรรมและจริยธรรม

นั่นเท่ากับเป็นการทำผิดต่อหน้าพยานบุคคลผู้มีเกียรติจำนวนมาก และความผิดก็สำเร็จแล้ว

เรื่องมันง่ายๆ อย่างนี้แหละครับท่านผู้อ่าน

ปัญหา มันอยู่ที่ว่า ป.ป.ช. ผู้มีหน้าที่ที่จะต้องจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะว่าอย่างไร จะปกป้องกันต่อไปตามระบอบ 2 มาตรฐาน หรือว่า จะตรงไปตรงมาสักครั้งหนึ่ง พอให้คนเห็นว่า ป.ป.ช. ยังมีความใฝ่ดีอยู่บ้างเหมือนกัน อันนี้สุดแท้แต่จะเลือกเดิน

ป.ล. สำหรับ นายโสภณ ซารัมย์ นั้น มีปัญหาว่า งาช้างอันเป็นทรัพย์สินมีค่านั้น มิได้แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินที่แจ้งไว้ต่อ ป.ป.ช. แต่อย่างใด จึงมีความผิดฐานซุกทรัพย์สินอันมีค่า ต้องอาบัติปาราชิกเหมือนกัน

อะไรมันจะซวยขนาดนี้ละวุ้ย

Thai E-News

'สื่อ' : เครือข่ายโล่มนุษย์ เกราะกำบัง 'ผู้มีอำนาจ'


ที่มา เวบไซต์ บางกอกทูเดย์
17 กรกฎาคม 2552


กรณี เว็บไซต์ไทยอีนิวส์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ที่ชี้ให้เห็นว่า ...ผู้มีอำนาจต้องการ “ปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร” ไม่ให้ประชาชนรับรู้ในสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์ ไทยอีนิวส์เป็นเว็บไซต์การเมืองอันดับต้นๆ ของไทย ที่ “ถูกบล็อก” ไม่ให้เยี่ยมชม ซึ่งเรื่องนี้ เป็นผลลัพธ์ที่ไปกระทบผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตเจ้าหนึ่งโดยตรง เรื่องนี้เกิดความวุ่นวาย ...ถึงขั้นผู้ใช้บริการ ที่เข้ามาดูข่าวการเมืองในเว็บไซต์การเมืองแห่งนี้เป็นประจำ ร้องเรียนขอ “ยกเลิกบริการ” หากไม่ยกเลิกการบล็อกเว็บไซต์ไทยอีนิวส์

ซึ่งผลสุด ท้าย ...ทางบริษัทจึงต้องยกเลิกการบล็อกเว็บไซต์ไทยอีนิวส์ เพราะหากยังกระทำตามคำสั่งของ “ผู้มีอำนาจ” ทางบริษัทอาจ “สูญเสียรายได้” จำนวนมหาศาล...


เร่งปฏิกิริยาให้รุนแรงเร็วขึ้น?

ยุทธวิธี รูปแบบปฏิบัติการของชนชั้นปกครอง ที่เรียกว่า เหล่าเสนาธิการ “อมาตย์” ที่ต้องการพยายาม “ควบคุมอำนาจ” ไว้ในมืออย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ทุก ช่องทางการสื่อสารถูก “แทรกแซง” โดยกลุ่มผู้มีอิทธิพล ที่ต้องการหวังผลประโยชน์ทางการเมือง อันเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ “ประเทศไทย” ไม่เจริญ... เพราะมีการกดดันความเจริญให้มันย่ำอยู่กับที่

โดย เฉพาะด้าน “เทคโนโลยี” การสื่อสาร ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์ ซึ่งประชาชนไม่มีสิทธิและเสรีภาพในการใช้ ด้วยความเท่าเทียมและเสมอภาค

วิธีคิด ...การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ทุกสิ่งทุกอย่าง กลายเป็น “สงครามสื่อ” เพื่อการแย่งชิงมวลชน
ประชาชน “ถูกกดดัน” ไม่ให้รับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน

เหรียญ มี 2 ด้าน แต่ผู้มีอำนาจ กลับกรอกหูให้ประชาชนซึมซับข้อมูลข่าวสารเพียงด้านเดียว ซ้ำร้ายบางเรื่องราวยังมีการ “ปรุงแต่ง” เติมสี เพื่อให้ประเทศชาติเกิดความขัดแย้งมากขึ้น...

คนเสพ ก็เสพด้วยอาการขาดสติ ไม่รู้จักนึกคิด ตรึกตรอง

กรณี ล่าสุด คงเป็นที่ เว็บไซต์ไทยอีนิวส์ เว็บไซต์การเมืองอันดับต้นๆ ของไทย ที่ “ถูกบล็อก” ไม่ให้เยี่ยมชม... พูดตามตรงว่า ไทยอีนิวส์ เป็นเว็บไซต์แหล่งข้อมูลทางการเมืองที่อยู่ “ตรงกันข้าม” กับทางรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ เป็นผลลัพธ์ที่ไปกระทบผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตเจ้าหนึ่งโดยตรง

เหตุการณ์ นี้ถือว่า เป็นวิธีบล็อกเว็บแบบใหม่ ของคนที่ใช้อินเตอร์เน็ต คือการ redirect หน้า webpageไปยังอีกหน้าหนึ่ง ซึ่งก็คือหน้าของ ict ที่ขึ้นให้เห็นรูป ใบไม้เขียว

เรื่องนี้เกิดความ วุ่นวาย ...ถึงขั้นผู้ใช้บริการ ที่เข้ามาดูข่าวการเมืองในเว็บไซต์การเมืองแห่งนี้เป็นประจำ ร้องเรียนขอ “ยกเลิกบริการ” หากไม่ยกเลิกการบล็อกเว็บไซต์ไทยอีนิวส์

ซึ่ง ผลสุดท้าย ...ทางบริษัทจึงต้องยกเลิกการบล็อกเว็บไซต์ไทยอีนิวส์ เพราะหากยังกระทำตามคำสั่งของ “ผู้มีอำนาจ” ทางบริษัทอาจ “สูญเสียรายได้” จำนวนมหาศาล...

เพราะนั่นถือเป็นการไป “ละเมิดสิทธิผู้บริโภค”

กรณี เว็บไซต์ไทยอีนิวส์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ที่ชี้ให้เห็นว่า ...ผู้มีอำนาจต้องการ “ปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร” ไม่ให้ประชาชนรับรู้ในสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์

การปิดหูปิดตาประชาชน ...เกิดขึ้นทั่วไปในทุกหย่อมหญ้า ไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทย ...

อย่าง ที่ “ประเทศจีน” ศึกวิวาทะระหว่าง ชาวฮั่น และ ชาวอุยกูร์ ที่มณฑลกวางตุ้ง แม้ภาพเหตุการณ์จะไม่ปรากฏตามสื่อทั่วไปมากนัก แต่ก็เป็นภาพที่มีการ “แพร่หลาย” อยู่ในอินเตอร์เน็ตประเทศจีน เป็นประเทศที่รัฐบาลมีการควบคุมข้อมูลข่าวสารอย่างเข้มงวด

“อินเตอร์ เน็ต” จึงถือเป็นเครื่องมือที่ทรงอิทธิพล ประชาชนสามารถเข้าถึงได้รวดเร็ว พร้อมกับมีการส่งต่อข้อมูลผ่านถึงกัน ด้วยความแม่นยำในความเป็นจริง ประชาชนคนไทยที่อยู่ในกลุ่มแต่ละกลุ่ม ....ทุกคนล้วนหวังให้ประเทศชาติพัฒนา และเจริญก้าวหน้า

แต่ความคิด ...วิธีการ และแนวทาง เพื่อบรรลุเป้าหมายวัตถุประสงค์นั้น แตกต่างกัน

ปัจจุบัน “ข้อมูลข่าวสาร” จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้มองเห็น “ภาพรวม” ที่แตกฉานต่อการนำมาคิดวินิจฉัยและตรึกตรอง

เสียดายที่ว่า ...ทุกวันนี้ “ทางเลือก” มันไม่มี ...

ผู้ มีอำนาจไม่ยอมเปิดโอกาส คิดถึงแต่การทำลายมากกว่าสร้างสรรค์ อ้างความชอบธรรมตามสิทธิรัฐธรรมนูญ แต่กลับทำให้ประชาชนคนอื่น เกิดความเดือดร้อน

เหตุการณ์บ้านเมืองที่ความขัดแย้งลุกลามใหญ่โตทุกวันนี้ เกิดจาก ความอิจฉาริษยา และจิตเกินพอ ที่คิดถึงแต่เรื่องผลประโยชน์

โดยเฉพาะ “ธุรกิจ” ทางด้านสื่อ หลายเจ้า ที่ต้องยอม “ก้มหัว” ตกเป็นเบี้ยล่างให้แก่กลุ่มอมาตย์ “เผด็จการ” อย่างไม่มีทางเลือก

ตอน นี้กลาดเกลื่อน ...ไม่มีคุณภาพ วันๆ ได้ยินแต่คำด่าทอ เสียดสี และปลุกระดม หรือไม่ก็เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น ...หาสาระความจริงอะไรไม่ได้

ศักดิ์ศรีเลือนหาย ...จริยธรรมไม่หลงเหลือ จรรยาบรรณไร้ค่า

“สื่อ” เป็นเพียงโล่มนุษย์ ที่สร้างเครือข่ายขึ้นมา เพื่อเป็นเกราะกำบังให้ “ผู้มีอำนาจ”

แต่หากวันหนึ่งวันใด คนเหล่านั้น “หมดอำนาจ” และ “วาสนา”

เครือข่าย “โล่มนุษย์” ที่ว่า ...ก็จะเปลี่ยนสภาพ กลายเป็นแค่ “อากาศ”

ไม่เชื่อลองเอา “ขี้หมา” ปาใส่หน้ามันดู!!

Thai E-News


เสื้อแดงทำเนียนเหมือนจะเชลียร์มาร์ค ทะลุเข้าวงในได้ทียกป้ายด่าขวัญกระเจิง

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา คมชัดลึก
19 กรกฎาคม 2552


เสื้อ
แดงเนียนเปลี่ยนมาใส่เสื้อดำ อำพรางแก่นแกนตะโกนนายกฯสู้ๆ
ตำรวจกับการ์ดเห็นว่างานนี้ได้หน้ายอมปล่อยทะลุวงใน
ได้จังหวะยกป้ายด่าลั่นขณะมาร์คสร้างภาพอัดรายการเชื่อมั่นประเทศไทย



คม
ชัดลึก รายงานว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
เดินทางไปปาฐกถาเรื่องคิดเพื่ออนาคต ตอบโจทย์ประเทศไทย ครั้งที่ 2 ณ
โรงแรมเรดิสัน พระรามเก้า จากนั้นเวลา 10.35
น.นายกฯเดินทางมายังสถานีรถไฟฟ้ามหานคร สถานีพระรามเก้า
เพื่อนั่งรถไฟฟ้าไปสถานีบางซื่อบันทึกรายงาน"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ
อภิสิทธิ์" ซึ่งมีนายสุทธิพงษ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือฮาร์ท
เป็นผู้ดำเนินรายการพิเศษ

ทั้งนี้นายกฯยังมีกำหนดการตรวจสอบเส้นทางส่วนขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง รวมทั้งสายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ผู้
สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯได้แลกเหรียญซื้อตั๋วรถไฟฟ้า โดยกล่าวว่า
“ผมเคยขึ้นรถไฟฟ้านี้เมื่อนานมาแล้ว”สำหรับการรักษาความปลอดภัยนั้นมีความ
เข้มข้นโดยมีตำรวจหลายสิบนาย
รวมทั้งสุนัขตำรวจกระจายกำลังในบริเวณสถานีรถไฟฟ้าต่าง ๆ
ทั้งนี้มีการปิดกั้นสองโบกี้ที่นายกฯเดินทางและบันทึกเทปอย่างหนาแน่น
ทั้งนี้นายกฯใส่หน้ากากอนามัยเพื่อสาธิตให้ประชาชนใช้ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
สายพันธุ์ใหม่และใช้เจลล้างมือในช่วงการบันทึกเทปรายการด้วย
โดยนายกฯกล่าวว่า”
หากต้องใกล้ชิดกับใครที่ไม่แน่ใจในระยะหนึ่งเมตรก็ควรใส่หน้ากากอนามัยและ
ใช้เจลล้างมือเพื่อป้องกันโรคนี้ด้วย เพราะผมไม่รู้ว่าใครเป็นใคร”

ผู้
สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการบันทึกเทปในช่วงแรก
นายกฯไม่ยอมถอดหน้ากากอนามัยและอ้างว่า หากช่างภาพและผู้สื่อข่าว
รวมทั้งเจ้าหน้าที่ไม่ยอมออกห่างจากตนหนึ่งเมตร
ตนก็ไม่ถอดหน้ากากอนามัยเพราะไม่มั่นใจ
แต่ผ่านไปสักระยะนายกฯก็ถอดหน้ากากอนามัยออกไป

ผู้สื่อข่าวรายงาน
ว่า เมื่อนายกฯเดินทางมาถึงสถานีบางซื่อนั้น
มีรายงานข่าวว่าคนเสื้อแดงหลาย สิบคนมาชุมนุมอยู่บริเวณป้ายรถเมล์
ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟจำนวน 50นาย
คอยดูแลรักษาความเรียบร้อยและปิดประตูทางขึ้นลงรถไฟฟ้าแต่ไม่มีเหตุการณ์
รุนแรงใด ๆ เกิดขึ้น และเมื่อมีคนเสื้อแดงมา ชุมนุม
ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยต้องเปลี่ยนกำหนดการของนายกฯที่เดิมนั้นจะขึ้นไป
ตรวจสอบเส้นต่อขยายโครงการสายสีม่วง
โดยเปลี่ยนให้นายกฯตรวจสอบโมเดลและแผนผังของโครงการนี้ภายในสถานีรถไฟฟ้า
บางซื่อแทน

โดยระหว่างที่นายกฯตรวจโครงการอยู่นั้น
กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 20
คนที่สวมเสื้อดำพร้อมตีนตบและหมวก”ความจริงวันนี้” มาชูป้าย
และยกตีนตบตะโกน “ยินดีต้อนรับนายกฯจอมกู้” บริเวณทางออกประตู 1
ฝั่งสถานีรถไฟบางซื่อ โดยก่อนหน้านี้ คนเสื้อแดงกลุ่มนี้ตะโกนว่า
นายกฯสู้ๆ แต่เมื่อทราบว่านายกฯมาถึงก็ตะโกนขับไล่นายกฯแทน

หนึ่งคำถามง่ายๆ กับ 4 คำตอบ จาก 4 นายกรัฐมนตรี

โดย คุณ tumleo
ที่มา เวบบอร์ด พันทิปราชดำเนิน
19 กรกฎาคม 2552

นักข่าว : ท่านครับ 1+1 เท่ากับเท่าไหร่ครับ

นายก ช. : อันนี้มันต้องขึ้นอยู่กับขั้นตอนในการดำเนินการ ซึ่งตอนนี้เรากำลังดำเนินการตามขั้นตอนอยู่แล้ว

นักข่าว : แล้ว ท่านพอจะทราบไหมครับว่า 1+1 เท่ากับเท่าไหร่ครับ

นายก ช. : ในส่วนนี้ ผมยังไม่ได้รับรายงานครับ คงต้องรอดูกันอีกทีว่าโจทย์จะเป็นยังไง แล้วค่อยตัดสินใจกันอีกที

นักข่าว : แล้วท่าน ถ้าโจทย์เป็น 1+1 เท่ากับเท่าไหร่ล่ะครับ

นายก ช. : เราก็ต้องดำเนินการ ตามขั้นตอน ต่อไปครับ

นักข่าว %)@#&%^!@_%)*!@


.............................................................


นักข่าว
: ท่านครับ 1+1 เท่ากับเท่าไหร่ครับ

นายก ส. : โจทย์แค่นี้คุณทำเป็นมาถามผม ผมตอบให้เลยก็ได้ว่า 1+1 = 3.142857 เรื่องตัวเลข ผมจำแม่น

นักข่าว : ท่านมีวิธีคำนวนยังไงครับ

นายก ส.
: ไอ้เรื่องนี้นะ มันต้องเล่ากันยาว ผมต้องท้าวความไปถึงสมัยก่อนโน่น
สมัยที่ผมเป็นเด็กนี่นะ ผมเคยไปเล่าไปเรียนมา คนสอนหนังสือสมัยก่อน
เค้าที่เค้าเรียกว่าครูบาอาจารย์นี่แหละ เค้าก็ได้พร่ำได้สอนมา
ก็พอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งกำลังนี้นะ
คุณจะหาครูบาอาจารย์แบบนี้ได้ยากแล้ว บลา...บลา...บลา...

นักข่าว ^^'


.............................................................


นักข่าว
: ท่านครับ 1+1 เท่ากับเท่าไหร่ครับ

นายก อ.
: ในช่วงของเศรษฐกิจโลกที่กำลังวิกฤติอยู่ในขณะนี้ ผม ในฐานะนายกรัฐมนตรี
อยากเรียนให้พี่น้องประชาชนได้ทราบว่า ทางรัฐ
ไม่ได้นิ่งนอนใจในการเตรียมพร้อม ซึ่งจะนำไปสู่หนทางในการแสวงหา
หรือให้ได้มาซึ่งคำตอบที่ชัดเจนและแน่นอน โดยทางภาครัฐ ที่มีผม
เป็นนายกรัฐมนตรี และภาคเอกชนต่างก็ได้จัดตั้ง
เตรียมคณะทำงานให้มีความสอดคล้องในอันที่จะช่วยเร่งประสานในการแก้ไขปัญหา
และจัดสรรงบประมาณไว้อย่างเพียงพอแล้ว ผม ในฐานะ
นายกรัฐมนตรีจึงอยากให้พี่น้องประชาชนทุกคน
อย่าได้วิตกและกังวลเกี่ยวกับคำตอบที่ได้มา ไม่ว่าคำตอบมันจะออกมาเช่นใด
ผม ในฐานะนายกรัฐมนตรี ขอยืนยันต่อพี่น้องประชาชนทุกคนและให้มั่นใจได้
กับกระบวนการดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ ได้มีความคืบหน้าที่อยู่ในระดับดี
คาดว่าอีกไม่นาน คงได้คำตอบที่ชัดเจนแน่นอนครับ ผมมั่นใจ

นักข่าว : แล้วตกลง 1+1 นี่มัน เท่ากับเท่าไหร่เหรอครับ

นายก อ. : ผมได้ตอบคำถามนี้ไปแล้วนะครับ ผมจะไม่ตอบซ้ำอีก

นักข่าว : ท่านมีวิธีคำนวนยังไงครับ

นายก อ.
: เพราะรัฐบาลที่แล้ว ได้ให้คำตอบที่ผิดพลาด
อันเป็นเหตุให้โครงสร้างทางเศรษฐศาสตร์ ถูกบิดเบือนอยู่ ดังนั้น ผม
ในฐานะนายกรัฐมนตรี จึงได้จัดตั้งคณะทำงาน
เพื่อได้ทำการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากรัฐบาลที่แล้ว ให้เกิดความถูกต้อง
สุจริตและโปร่งใส เพื่อไม่ให้เหตุการดังกล่าวเกิดขึ้น
และย้อนมาทำร้ายพี่น้องชาวไทยอีกครั้งครับ ผมมั่นใจ

นักข่าว : ท่านพอจะบอกคร่าวๆ ได้ไหมครับ ว่าประมาณเท่าไหร่

นายก อ. : สาม จุด หนึ่ง สี่ สอง แปด ห้า เจ็ด ครับ

นักข่าว : เอ่อ ... คำตอบมันไม่เหมือนเดิมเหรอครับ

นายก อ.
: ไม่ครับ โครงการของเรา เป็นโครงการอันที่จะนำไปสู่การพัฒนา
และแก้ไขปัญหาความยากจนของพ่อแม่พี่น้องชาวไทย ผม ในฐานะนายกรัฐมนตรี
อยากชี้ให้พ่อแม่พี่น้องได้ทราบทั่วกันว่า โครงการต่างๆที่ไม่ได้ผลนั้น
เป็นเพราะ พี่น้องในภาคอีสาน ซึ่งมีพื้นความรู้อยู่ในเกณฑ์ต่ำนั้น
ตกเป็นเครื่องมือ ของนักการเมืองที่คอรัปชั่น โกงกินบ้านเมือง
ทำให้ยากต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

นักข่าว : แล้วถ้าคำตอบมัน ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ล่ะครับ ท่านมีแนวทางที่จะจัดการอย่างไรต่อไป

นายก อ. : ปัญหาดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นครับ ผม ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมมั่นใจ

นักข่าว !!! (ถ้าในบอร์ดสามารถแทรกเสียงได้ จะได้ยินเสียง ตึ่งโป๊ะ)


.............................................................


นักข่าว
: ท่านครับ 1+1 เท่ากับเท่าไหร่ครับ

นายก ท. : 2 ครับ

นักข่าว : ท่านไม่คิดว่า มันจะเป็นคำตอบที่ขัดกับหลักการที่เคยยึดถือ หรือปฏิบัติกันมาเหรอครับ

นายก ท. : มันต้องทำแบบนี้ ไม่ทำ มันก็แก้ปัญหาไม่ได้ มันต้องแก้ที่ต้นเหตุ

นักข่าว : ท่านไม่กลัวว่า จะเกิดความขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลเหรอครับ

นายก ท.
: เอาเป็นว่า ให้ยึดถือเป็นแนวทางนี้ในการปฏิบัติ ใครผิดอยู่
ก็เปิดโอกาสให้ปรับเปลี่ยนโดยถือว่าไม่มีความผิด ที่แล้วๆ ก็แล้วกันไป
แต่นับจากนี้ถ้าใคร หน่วยงานไหน ยังให้ข้อมูลที่ผิดพลาดอยู่
ก็ต้องถือว่าเป็นศัตรูกัน สามารถนำตัวมาลงโทษตามกฏหมายได้เต็มที่เลยครับ
มีคำถามอื่นไหมครับ

นักข่าว ...


.............................................................

จากตัวเลขง่ายๆ และโจทย์เดียวกันนี้


จะเห็นได้ว่า ใครตอบโจทย์ได้ดีที่สุด

และเป็นเหตุผลที่ทำให้เขา เป็นนายกฯในดวงใจของใครต่อใครหลายๆ คน

บางคนถึงกับกล้าพูดว่า

เป็นนายกฯที่ดีที่สุด เท่าที่ประวัติศาสตร์ชาติไทยเคยมีมา

Thai E-News

17 กรกฎาคม, 2552

สาเหตุที่ผู้ใช้บริการTRUE INTERNETเข้าเว็บไซต์ประชาธิปไตยไม่ได้

เว็บไซต์ที่ทดสอบ: http://www.sameskyboard.org และ http://uddtoday.ning.com
1. ทดสอบเปิดเว็บไซต์ http://www.sameskyboard.org ปรากฎภาพใบไม้สีเขียว แต่ยังมีข้อความ "ชุมชนฟ้าเดียวกัน" ที่ไตเติ้ลบาร์ (title bar)

http://farm3.static.flickr.com/2666/3690417561_439b2a748c.jpg

2. ทดสอบเปิดเว็บไซต์ http://uddtoday.ning.com ที่อยู่เว็บไซต์เปลี่ยนทาง (URL redirect) ไปที่เว็บไซต์ http://58.97.5.29/ict.html แสดงรูปภาพใบไม้สีเขียวเช่นเดียวกับ http://www.sameskyboard.org

http://farm3.static.flickr.com/2553/3691225772_e7a9483d4f.jpg

3. ทดลองเปิดเว็บไซต์ http://58.97.5.29 โดยไม่มี /ict.html ต่อท้าย ปรากฎข้อความ "เว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ที่มีลักษณะเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือเป็นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม จึงขอระงับการเผยแพร่ชั่วคราว จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น"

http://farm3.static.flickr.com/2542/3691226026_16c0111be7.jpg

เพิ่มเติม

หลัง จากทดสอบเปิดเว็บไซต์ข้างต้นไม่สำเร็จ จึงได้ทำการโทรศัพท์ไปสอบถามกับทาง Call Center ของ ทรูอินเตอร์เนต True Internet 02-900-9898 ว่าเกิดเหตุขัดข้องอะไรหรือไม่ ที่ไม่สามารถเปิดเว็บไซต์ http://uddtoday.ning.com

พนักงานรับเรื่องได้ทำการตรวจสอบเปิด เว็บไซต์ดังกล่าว และไม่สามารถเข้าใช้งานได้เช่นกัน (เวลา 01.48 น.) ไม่ปรากฎข้อความหรือรูปภาพใดๆ (พนักงานให้ข้อมูลว่าใช้เบราเซอร์ Internet Explorer)

หลังจากทดลองอยู่สักพัก พนักงานก็ขอรายละเอียดเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้งานอินเตอร์เนต คอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน ระบบปฏิบัติการ และยี่ห้อของโมเด็ม (ตามระเบียบปฏิบัติ) และแจ้งว่าจะประสานงานไปทางเจ้าหน้าที่เทคนิคให้ตรวจสอบการเรียกเว็บไซต์ดัง กล่าวอีกครั้ง และจะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง

-----

อัพเดทภาคกลางวัน:

หลัง จากทดสอบภาคกลางคืนและโทรแจ้งไปทาง Call Center 02-900-9898 และเวลาประมาณ 9 โมงครึ่ง มีโทรศัพท์ไม่แสดงเบอร์โทรเข้ามาที่หมายเลขที่ให้เบอร์ติดต่อเอาไว้ แต่เนื่องจากผมยังไม่ตื่นเลยไม่ได้สนทนากัน

ไม่เป็นไร ระหว่างรอช่างเทคนิค ก็ทำการทดสอบเพิ่มเติม

ข้อมูล

วันที่ 6 กรกฎาคม 2552 เวลา 13.30 น.
อินเตอร์เนต, คอมพิวเตอร์ และ โมเด็ม เป็นข้อมูลเดียวกับด้านบน
เว็บไซต์ที่ทดสอบ: http://www.sameskyboard.org, http://uddtoday.ning.com และเพิ่ม http://thaienews.blogspot.com
1. ในการทดสอบภาคกลางวัน เว็บไซต์ http://www.sameskyboard.org สามารถเปิดดูข้อมูลได้ตามปกติ

2. แต่เว็บไซต์ http://uddtoday.ning.com และ http://thaienews.blogspot.com ไม่สามารถเปิดดูได้ และตอบสนองช้ามาก ท้ายสุดก็เปลี่ยนทาง (URL redirect) ไปที่ http://w3.mict.go.th และแสดงข้อความ The connection has timed out.


http://farm3.static.flickr.com/2500/3692672969_28f8870c2f.jpg


http://www.poakpong.com/node/1253



True confirm, website UDDTODAY blocked by MICT
July 16, 2009 - 12:15pm | by poakpong

สืบ เนื่องจากบล็อกวันก่อน (Can't open more politics website by True Internet) ล่าสุดวันนี้ 16 ก.ค. เวลา 11.32 น. เจ้าหน้าที่จากทรูอินเทอร์เนต ใช้เบอร์ call center 029009000 ติดต่อกลับมายังเบอร์โทรศัพท์ที่ฝากไว้ โดยแจ้งว่า จากการตรวจสอบการเข้าใช้งานไม่ได้ของเว็บไซต์ http://uddtoday.ning.com เป็นการบล็อกโดยไอซีที

จากข้อมูลดังกล่าว ผมได้พยายามสอบถามต่อไปว่า การปิดกั้นลักษณะนี้จะมีช่วงเวลาหรือไม่ หรือว่าจะทำการปิดกันไปเรื่อยๆ ซึ่งพนักงานของทรูบอกว่าเป็นการดำเนินการจากไอซีที ทางทรูไม่ทราบข้อมูล

และ คำถามสุดท้ายก่อนจบการสนทนา ผมได้ถามว่าการดำเนินการในครั้งนี้ ไอซีทีเป็นผู้ดำเนินการเอง หรือว่ามีคำสั่งมาให้ทางทรูเป็นผู้ดำเนินการ คำตอบที่ได้ก็คือ การปิดกั้นเว็บไซต์นี้ดำเนินการโดยไอซีที

ปล.จากคำ ตอบดังกล่าว ยังมีข้อสงสัยว่า การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นโดยไอซีที แต่เหตุใดผู้ให้บริการรายอื่นสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าวได้?


ข้อมูลจาก http://www.poakpong.com/node/1259



พลังประชาธิปไตยชนะ TRUEยุติบล๊อกไทยอีนิวส์แล้ว หลังเจอรุมสวดพร้อมขู่เลิกใช้บริการนับล้าน

พลัง ของผู้บริโภค-หลังจากที่ท่านผู้อ่านของเรารวมพลังร้องเรียนไปยังเน็ตTrueให้ ยกเลิกการบล๊อกเวบไทยอีนิวส์และอีก33เวบฝ่ายประชาธิปไตย ช่วงสายวันนี้ท่านผู้อ่านของเรารายงานมาว่าเริ่มเข้าไทยอีนิวส์ได้ตามปกติ แล้ว หลังจากส่วนใหญ่ได้ร้องเรียนTrueไปทำนองว่าหากไม่ยกเลิกการบล๊อก ก็จะใช้วิธีแก้ไขแบบเบ็ดเสร็จคือยกเลิกบริการของTrueไปใช้บริการของผู้ให้ บริการรายอื่น

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
17 กรกฎาคม 2552




ท่าน ผู้อ่านไทยอีนิวส์จำนวนมากได้กรุณาแจ้งเข้ามาว่า ในช่วงเช้าวันนี้ได้ร้องเรียนไปยังผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตTrueเพื่อขอให้ ยกเลิกการบล๊อกปิดกั้นเวบไทยอีนิวส์ และอีก33เวบไซต์ฝ่ายประชาธิปไตย โดยเตือนว่าหากไม่ยกเลิกการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายนี้ก็จะยกเลิกการให้บริการ ส่งผลให้ช่วงสายวันนี้สามารถเข้าไทยอีนิวส์ได้ตามปกติแล้ว อย่างไรก็ตามยังวางใจไม่ได้ทีเดียว เรายังขอวิงวอนให้ท่านผู้อ่านของเราร่วมพลังร้องเรียนต่อไปเพื่อให้Trueยก เลิกการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย และละเมิดสิทธิผู้บริโภค มีพฤติการณ์ปิดกั้นความเคลื่อนไหวของฝ่ายประชาธิปไตยอย่างเด็ดขาดต่อไป


ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างเพียงส่วนหนึ่งของการรายงานผลการร้องเรียนของท่านผู้อ่านเข้ามายังไทยอีนิวส์


วันนี้ แหละจะด่าให้หนำใจ ทั้งโทรสาร และโทรสด ด่ากันมาหลายยกแล้วเรื่องตอนกลางคืนปล่อยอ่อน สปีดไม่ถึงที่กำหนด โทรไปถามมันบอกให้แบ่งๆ กันใช้ในพื้นที่นั้น ๆ .. ห่วยแตกจริง/เสื้อแดง



ผมได้ร้องเรียนทรู โดยแนบข่าวไทยอีนิวส์โดนบล๊อกไป และแจ้งร้องเรียนทางอีเมล์ไปดังนี้

บริษัท ของข้าพเจ้าเป็นองค์กรธุรกิจขนาดกลาง ใช้บริการทรูลีดไลน์มานานหลายปี แต่ช่วงที่ผ่านมาไม่ได้รับความสะดวกในการบริการ เนื่องจากเข้าเวบไทยอีนิวส์ และเวบประชาธิปไตยอื่นๆไม่ได้เลย มาทราบภายหลังว่าทรูได้ปิดกั้นเวบเหล่านี้โดยพลการ ทำให้กระทบต่อธุรกิจของข้าพเจ้าที่ใช้ข้อมูลข่าวสารจากไทยอีนิวส์และเวบ อื่นๆไปประเมินความเสี่ยงและเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจดำเนินธุรกิจที่ สำคัญ การที่ท่านปิดกั้นโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีคำสั่งศาล ไม่มีคำสั่งจากรัฐบาล แต่ทำไปเองถือเป็นการกระทำที่แย่มาก

จึงขอให้ ท่านยกเลิกการปิดกั้นหรือบล๊อกเวบดังกล่าวเสีย ก่อนที่ข้าพเจ้าและบริษัทของข้าพเจ้าจะยกเลิกการใช้บริการอินเตอร์เน็ตของ ท่านและอาจจำเป็นที่จะต้องฟ้องร้องดำเนินคดีฐานละเมิดต่อท่านด้วย

หาก ผลพิจารณาเป็นประการใดโปรดแจ้งกล้บมาเป็นการด่วน ด้วยความผิดหวังในบริการของท่านเป็นอย่างยิ่ง/สมชาย กรรมการผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่งที่เป็นลูกค้าทรูลีดไลน์มานาน แต่เหลืออดเต็มทนในการนี้


ไทยอีนิวส์กราบขอบพระคุณท่านผู้อ่าน ของเราที่กรุณาเสียสละเวลาของท่านแสดงพลังในการนี้ อย่างไรก็ตามยังวางใจไม่ได้นัก จึงขอเรียนเชิญร่วมพลังร้องเรียนต่อไป เพื่อให้Trueยกเลิกการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย และละเมิดสิทธิผู้บริโภค มีพฤติการณ์ปิดกั้นความเคลื่อนไหวของฝ่ายประชาธิปไตยอย่างเด็ดขาดต่อไป

เมื่อ เช้าวันนี้ไทยอีนิวส์นำเสนอข่าวว่า เป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์มาแล้วที่มีผู้อ่านของเราได้ร้องเรียนเข้ามา และมีการแจ้งข่าวร้องทุกข์ตามเวบบอร์ดต่างๆเช่น ประชาไท พันทิป ฟ้าเดียวกัน เป็นต้นว่า เมื่อคลิ้กเข้าชมเวบบล็อกของไทยอีนิวส์ ตามลิ้งค์www.thaienews.blogspot.com หรือhttp://thaienews.blogspot.comแล้วไม่สามารถเข้าได้ เพราะจะลิ้งค์ไปที่เวบไซต์ของictโดยอัตโนมัติที่ http://58.97.5.29/ict.html

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับกรณีผู้ใช้ บริการอินเตอร์เน็ตของTRUE เป็นหลัก ถือว่าเป็นวิธีบล๊อคเวบแบบใหม่ของคนที่ใช้ Internet ของ True คือการ redirect หน้า webpage ไปยังอีกหน้านึง ก็คือหน้าของictที่ขึ้นรูปใบไม้เขียว

ปัญหานี้ไม่ได้เกิดเฉพาะกับไทยอีนิวส์ แต่รวมถึงอีก33เวบของฝ่ายประชาธิปไตย(ดูรายชื่อท้ายข่าวนี้)

อย่างไรก็ตามสำหรับวิธีแก้ไขในระยะนี้ เราแนะนำท่านผู้อ่านของเราที่ประสบปัญหาดังนี้

1. ท่านควรใช้สิทธิร้องเรียนตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง “กระบวนการรับเรื่องร้องเรียนและพิจารณาเรื่อง ร้องเรียนของผู้ใช้บริการ” ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2549 โดยท่านสามารถร้องเรียนได้ดังนี้


- ทางโทรศัพท์ (Call Center) (ไม่คิดค่าบริการ)
ผ่านเลขหมาย 0-2900-8088
เวลาทำการ: ทุกวัน เวลา 08.00น.-20.00น. ไม่มีเวลาพัก
- ทางโทรสาร (Fax) (คิดอัตราค่าใช้จ่ายตามอัตราปกติ)
ผ่านเลขหมาย 0-2699-4338
- ทางจดหมายอิเลคทรอนิคส์ (Email) Email Address: voc@truecorp.co.th
- ทางเว็บไซต์ (Website) www.truecorp.co.th
- ทางจดหมาย (Mail) ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเลขที่ 1252 ชั้น10 อาคารธญาณ ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวงเขตสวนหลวงกทม.10250


หาก การร้องเรียนเป็นผล คือTrueยกเลิกการบล๊อก ท่านควรให้โอกาสเขาได้แก้ไข แต่หากท่านร้องเรียนแล้วไม่เกิดผล เราแนะนำให้ใช้วิธีการแก้ไขเบ็ดเสร็จเด็ดขาดคือยกเลิก และเปลี่ยนไปใช้บริการของผู้ให้บริการรายอื่นที่ไม่บล๊อกไทยอีนิวส์ หรือเวบของฝ่ายประชาธิปไตย

2.หากท่านไม่ได้ดำเนินการตามข้อ1 คือไม่ขอร้องเรียน และหรือไม่ยกเลิกอินเตอร์เน็ตTRUEไปใช้บริการอื่น ก็ยอมทนรำคาญเสียเวลาอีกหน่อย ด้วยการเปิดหน้าwww.google.co.thก่อน จากนั้นคีย์คำว่าthaienewsลงไปในช่องค้นหาและคลิ้ก ก็จะเข้ามาหน้าไทยอีนิวส์ได้ตามปกติ

3.หากท่านไม่ร้องเรียน และหรือไม่ยกเลิกอินเตอร์เน็ตTRUEไปใช้บริการอินเตอร์เน็ตอื่น และไม่อยากรำคาญทำตามข้อ2 ก็ขอรบกวนให้ท่านเข้าเยี่ยมชมผ่านทางเวบพร็อกซี่ต่างๆ โดยเข้าไปที่www.proxy.org จากนั้นเลือกเวบพร็อกซี่ที่ท่านต้องการ เช่น www.hidemyass.com เป็นต้น เมื่อเข้าไปในเวบพร็อกซี่เหล่านี้ได้แล้ว ก็นำชื่อurlของไทยอีนิวส์ คือwww.thaienews.blogspot.comหรือhttp://thaienews.blogspot.comไปวางใน ช่องค้นหา แล้วกดenter เพียงแค่นี้ท่านก็สามารถเข้าเยี่ยมชมไทยอีนิวส์ได้ แต่อาจไม่ได้รับความสะดวกนัก

ในการนี้เราใคร่ขอวิงวอนให้ท่านผู้อ่าน ของเรากรุณาสละเวลาเพียงเล็กน้อยด้วยการ โทรศัพท์ หรืออีเมล์ไปร้องเรียนกับTrueเพื่อให้พวกเขาทราบถึงปัญหาของท่านผู้อ่าน และกรุณาเตือนเขาว่าหากยังไม่ยกเลิกการบล๊อกไทยอีนิวส์ และเวบฝ่ายประชาธิปไตยอีก33เวบ ก็อาจทำให้Trueต้องสูญเสียลูกค้าที่ทรงคุณค่าอย่างท่าน และท่านอื่นๆที่เป็นผู้อ่านไทยอีนิวส์อีกนับล้านคนได้ เมื่อร้องเรียนไปแล้วผลเป็นประการใดกรุณาแจ้งมาให้เราทราบทางอีเมล์
thaienews@googlegroups.com จะเป็นพระคุณอย่างสูง

ไทย อีนิวส์เป็น1ในจำนวน63เวบไซต์ของฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งถูกรัฐบาลบล็อกเวบ นับตั้งแต่เหตุการณ์ลุกฮือขึ้นประท้วงครั้งใหญ่ของขบวนการคนเสื้อแดงในช่วง สงกรานต์เลือดที่ผ่านมา โดยรัฐบาลอ้างพ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อบล็อกหรือปิดกั้นเวบ อย่างไรก็ตามแม้เวลาต่อมารัฐบาลได้ยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อสามารถควบคุม สถานการณ์ได้แล้วก็ไม่ยกเลิกการปิดกั้นเวบบล็อกของไทยอีนิวส์แต่อย่างใด และยังได้ปิดกั้นหนักขึ้นในระยะ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ โดยเมื่อผู้อ่านคลิ้กเข้าเยี่ยมชมก็จะลิ้งค์ไปยังเวบไซต์ของictขึ้นรูปใบไม้ เขียว โดยไม่ต้องมีพฤติกรรมปิดบังซ่อนเร้นแบบที่เคยทำตั้งแต่หลังสงกานต์เลือดอีก แล้ว แต่ictก็ไม่ได้ระบุสาเหตุว่า ทำไมต้องปิดกั้นเวบบล็อกนี้

แต่ ผู้อ่านของเราได้ตั้งข้อสังเกตว่าบางครั้ง บางวัน บางช่วงเวลาก็เข้าไทยอีนิวส์ได้ตามปกติ ไม่ต้องผ่านพร็อกซี่ ขึ้นกับว่า รัฐบาลหรือict และหรือTRUEกำลังอยู่ในอารมณ์ไหนเป็นหลัก

ไทยอีนิวส์ เกิดขึ้นหลังรัฐประหาร19กันยายน2549เพื่อรายงานข่าว และบทความ ตลอดถึงความเคลื่อนไหวของฝ่ายเรียกร้องต้องการประชาธิปไตย เปิดโปงความชั่วช้าของเผด็จการทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่สื่อมวลชนกระแสหลักไม่ได้ทำในสิ่งที่ควรต้องทำ

ไทยอีนิวส์มียอดผู้เข้าอ่านถึงขณะนี้ 10,850,397 คลิ้ก โดยเริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2550 เป็นต้นมา
(อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง:ฝ่าวงล้อมสื่อกระแสหลัก ยอดผู้อ่านไทยอีนิวส์ทะลุ10ล้านคลิ้ก )


รายชื่อเว็บไซต์ทั้ง 33 แห่งที่ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตของTrueเจอปัญหา เมื่อคลิ้กเข้ามาแล้วจะredirectไปที่ictใบไม้เขียว

01. http://www.justin.tv/nationsiam (Blocked)
02 http://www.konthai.org (Blocked)
03. http://www.thaifreenews.com (Blocked)
04. http://www.thairedshirt-democracy.org/cbox/s1.html (Blocked)
05. [url]http://www.democracytoday.tv [/url](OK)
06. http://www.thaipeoplevoice.org (OK)
07. http://freethais.com/update_13apr09.php (OK)
08. http://www.wered.net (Blocked)
09. http://www.redplus.org (N/A)
10. http://thaienews.blogspot.com (Blocked)
11. http://www.prachachonthai.com (Blocked)
12. http://www.cbnpress.com (OK)
13. http://uddtoday.ning.com (Blocked)
14. http://www.thaireduk.com (N/A)
15. http://www.nocoup.net (OK)
16. http://downmerng.blogspot.com (Blocked)
17. http://www.jakrapob.net (Blocked)
18. http://www.truethaksin.com (Blocked)
19. http://www.chupong.com (Blocked)
20. http://www.rednon.com (Blocked)
21. http://www.chupong.org (Blocked)
22. http://www.serichon.com (Blocked)
23. http://www.nationsiam.com (OK)
24. http://www.gmm2008.com/index.php (OK)
25. http://thaksin.wordpress.com (Blocked)
26. http://thaipresslog.blogspot.com (Blocked)
27. http://thaiopinions.blogspot.com (Blocked)
28. http://www.newskythailand.com (Blocked)
29. http://sites.google.com/site/prachathaiclub/Home (Blocked)
30. http://siamfreedom.blogspot.com (Blocked)
31. http://www.priority-radio.com (Blocked)
32. http://www.cbox.ws (Blocked)
33. http://www.sameskyboard.org

พ่อสอนการเมืองลูก

เป็นเรื่องของเด็กน้อยคนหนึ่งซึ่งมีครอบครัวที่อบอุ่นซึ่งในครอบครัวมีด้วยกัน ทั้งหมด 5 คน

วันนึงขณะที่เด็กน้อยนั่งกินข้าวเช้าอยู่บนโต๊ะอาหาร

เด็กน้อยมองเห็นคุณพ่อดูข่าว TV เกี่ยวกับการ เมือง '

พ่อ...การเมืองคืออะไรอ่ะ ' เด็กน้อยถามพ่อด้วยความสงสัย

พ่อทำท่าทางคิดหนักก่อนจะตอบกลับไปว่า

'อืม...มันก็ไม่ยากหรอกลูกเปรียบเทียบง่ายๆนะลูก '

- เปรียบ พ่อเป็น พ่อค้านายทุน ก้อคอยหาเงินไง
- เปรียบ แม่เป็น รัฐบาล ก็คอยเอาเงินจากพ่อมาบริหารไง !
- เปรียบ ตัวลูกเองเป็น ประชาชน ที่ต้องมีรัฐบาลคอยดูแล
- เปรียบ น้องชายของลูกเป็น อนาคตของชาติ
- เปรียบ พี่แจ๋ว (พี่เลี้ยงของเด็กในบ้าน) เป็นชนชั้นแรงงาน

เด็กน้อยทำหน้า งง ก่อนจะปล่อยให้ ความสงสัยนั้นอยู่ในหัวตลอดทั้ง-วันจนเมื่อ
ถึงเวลาตกดึกของวันนั้น

ขณะเด็กน้อยกำลังหลับ ' แงๆๆๆๆๆ ' เสียงน้องชายตัวน้อยของเค้าร้องดังขึ้น


เด็กน้อยเดินไปดูที่เปลจึง
ได้รู้ว่าน้อยชายของเค้า ขี้แตก

เด็กน้อยรู้ทันทีว่าต้องไปตามแม่มาดูน้อง
ขณะเดินไปตามแม่เด็กน้อยได้ยินเสียงออกมาจากห้องของพี่แจ๋วพี่เลี้ยงคนสวย
ด้วยความสงสัยจึงแง้ม ประตูดูพบว่า พ่อเค้ากำลังอยู่บนตัวของพี่แจ๋ว  

เด็กน้อยจึงเดินไปที่ห้องของแม่พบว่าแม่ของเค้ากำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่
เด็กน้อยพยายามปลุกแต่ก็ ไม่ยอมตื่น   เด็กน้อยท้อใจเดินกลับห้องนอนและหลับไปหลังจากคิดอะไรได้มากมาย


ตื่นตอนเช้าขณะลงมาจากห้องเพื่อกินข้าวเช้า เด็กน้อยเห็นพ่อของเค้า ' พ่อๆ ผม
รู้แล้วละว่าการเมืองเป็นยังไง '
เด็กน้อยยิ้มที่ตัวเองเข้าใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่บางคนยังไม่เข้าใจ
' แล้วมันเป็นยังไงละไหนบอกพ่อสิลูก ' พ่อถามด้วยความอยากรู้


' การเมืองก็คือ
..... การที่พ่อค้าหรือนายทุนกดขี่ชนชั้นแรงงาน!!
ในขณะที่รัฐบาลก็หลับหูหลับตาไม่สนใจประชาชน
แม้ว่าประชาชนจะเรียกร้องยังไงก็ตาม!!
......โดยทิ้งอนาคตของชาติให้จมบนกองขี้!!

13 กรกฎาคม, 2552

แนะนำเว็ปไซท์ Mp3 Search engine [beemp3]



เป็น Search Engine ที่น่าสนใจมาก สำหรับผู้ที่รักความบันเทิง

วิธีใช้ก็ง่ายแสนง่าย เพี่ยงแต่ใส่ Keywords ลงไปแล้วเลือกหมวดที่ต้องการ เช่น ผมใส่คำว่า Amgra ลงไป แล้วเลือกหมวด Artist แล้วกด Search เท่านั้นเอง มันก็จะแสดลรายชื่อเพลง ที่เป็น Mp3 ทั้งหมดที่ Search Engine ตัวนี้หาได้ ดังนี้



ผมทดลองเลือกเพลง Angra - Carry on จะขึ้นหน้าจอดาวน์โหลด ตามรูปเลยนะครับ จะให้ใส่ รหัสลงไป กด Download mp3



จะให้ดาวน์โหลดได้ทันที





เอวังด้วยประการ ฉะนี้







ดาวน์โหลดฟรี! 100 โปรแกรมโอเพนซอร์สสำหรับวินโดว์

http://linux.sothorn.org
เห็นหัวข้อเรื่องแล้วอย่าเพิ่งคิดว่าผมเพี้ยนไปแล้วนะครับ ที่นำเสนอเรื่องโปรแกรมบนวินโดว์ ตอนแรกเห็นหัวข้อข่าวก็ไม่คิดจะเอามานำเสนออยู่แล้วครับ แต่พอดูรายละเอียดแต่ละโปรแกรมที่เขากล่าวถึง มันก็เป็นโปรแกรมที่มีอยู่บนลีนุกซ์ด้วย ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ดีๆทั้งนั้นเลยตั้ง 100 โปรแกรม แล้วจะไม่เอามาเล่าสู่กันฟังได้อย่างไร ตามลิงค์นี้เลยครับ

http://itmanagement.earthweb.com/osrc/article.php/12068_3826386_1/Free-Download-100-Open-Source-Apps-for-Windows.htm





โรงเรียนสอนศิลปะในเบอร์ลินเปลี่ยนมาใช้ลีนุกซ์

โรงเรียนสอนศิลปะในเบอร์ลินเปลี่ยนมาใช้ลีนุกซ์เรียบร้อยแล้ว โดยที่โปรแกรมที่ใช้งานทั้งหมดเปลี่ยนมาเป็นโปรแกรมฟรี โครงการนี้ใช้เวลาถึง 18 เดือน ทำทีเดียว 3 โรงเรียน คือ Hanns Eisler music college,  Ernst Busch drama college และ  Berlin-Weissensee art college  การเปลี่ยนมาใช้ลีนุกซ์ในครั้งนี้ไม่ยาก  เพราะผู้ใช้สามารถที่จะใช้งานโปรแกรมต่างๆที่เขาคุ้นเคยอยู่แล้วได้  ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เครื่องคอมพิวเตอร์พีซีจะเปลี่ยนมาใช้ Ubuntu ส่วนเซิร์ฟเวอร์ใช้ Debian http://linux.sothorn.org

เชิญดาวน์โหลด Firefox 3.5

Download Of the Day: Firefox 3.5 For Windows, Linux, Mac OS X

Firefox version 3.5 has been released and available for download. Firefox 3.5 is the fastest web browser. It is twice as fast as Firefox 3. As a result javascript and multimedia enabled web apps loads faster. Firefox is the first browser to support open video and audio formats, allowing practically limitless new ways for sites to display rich content. This is based upon the open formats (HTML 5) which allow displaying media without a plug-in and/or proprietary software.

Firefox v3.5

Firefox v3.5 in action (click to enlarge image)

What's New In Firefox 3.5

Firefox is not just the speediest, safest and most advanced Firefox but it comes with new set of security and other advanced features.

Private Browsing

Private browsing is a new feature that allows Firefox to control browsing history, images, videos, and cookies in cache. Firefox won't keep any browser history, search history, download history, web form history, cookies, and temporary internet files. However, files you download and bookmarks you make will be kept. . This allows you to browse the Internet without storing data that could be retrieved at a later date to incriminate that person. This is useful for ecommerce and banking website.

To enable private browsing hit [CTRL]+ [SHIFT]+ [P] or simply visit Tools > Start Private Browsing

Fig.01: Firefox 3.5 Running In a Private Browsing Mode

Fig.01: Firefox 3.5 Running In a Private Browsing Mode

Forget This Site

Having second thoughts about having visited a certain Web site? With this feature, you can remove every trace of that site from your browser -- no questions asked! Simply hit [CTRL+H] > Select Site > Right Click > Select Forgot about this site.

HTML 5 and CSS 3 Support

HTML 5, an update to the HTML language. Firefox 3.5 supports HTML5 and CSS 3. Checkout demo page for information.

Rock Solid Stable and Faster Browser

Firefox 3 the fastest browser out there. It stars quickly, loads Ajax and javascript sites like gmail, and other web apps pretty fast.

See this page for all other fantastic new features.

Download Firefox v3.5

Visit the official website to grab Firefox 3.5.

How Do I Upgrade Firefox v3.x to v3.5? [LINUX]

Use your package manger or type the following commands (assuming that older firefox is installed at /opt/firefox), enter:
# cd /tmp
# wget 'http://download.mozilla.org/?product=firefox-3.5&os=linux&lang=en-US'

Untar and install Firefox 3.5 (close all running FF sessions):
# tar -jxvf firefox-3.5.tar.bz2
# cp -avr firefox/* /opt/firefox/



5 Reasons Why Microsoft is Afraid of Linux

http://linux.sothorn.org/

1. Portability  ลีนุกซ์ใช้งานได้ทั้งคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเลคทรอนิก
2. Cost  แน่นอนครับลีนุกซ์ฟรี
3. Security ลีนุกซ์ปลอดภัยจากไวรัสมากกว่าวินโดว์
4. Firefox  ผู้ใช้ Firefox เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ   กินส่วนแบ่งทางการตลาดของ IE ไปพอสมควรแล้ว
5. Applications, applications, applications  โปรแกรมมีเยอะแยะมากมาย และเพิ่มขึ้นทุกวัน

ก็ลองคิดดูนะครับว่าเป็นจริงอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า แต่เท่าที่ดูจากบทความต้นฉบับคนที่ใช้ MS ก็มาแสดงความคิดเห็นกันเยอะติดตามได้จากลิงค์ที่มาครับ

ที่มา : http://www.junauza.com/2009/07/5-reasons-why-microsoft-is-afraid-of.html


Apple (Mac OS X) has a relatively larger number of desktop computer users compared to Linux, and Windows virtually dominated the overall market share. But have you ever wondered why people at Microsoft and even Bill Gates himself are bothered by Linux more than anything else? I think here are the main reasons why:

1. Portability

There's no doubt that Linux is a highly flexible operating system that can be easily modified to run on just about any electronic device. Meanwhile, Apple's Mac OS X is tightly locked on its own hardware so I don't see its growth as long-term. I believe there will come a time that a Linux-powered computer or gadget becomes immensely popular, and Microsoft's dominance will be endangered.

2. Cost

I know it's hard to promote a product that costs nothing. But in these difficult times people have learned to value their money more than ever by spending it wisely. Linux sure is free but its capability is valuable.

3. Security

Windows is still the most insecure OS and it is possible that another devastating virus will strike and harm computers running with it. With Linux getting better like becoming user-friendlier and more secure than ever, people have a savior.

4. Firefox

Since Firefox has been rapidly eating Internet Explorer's web browser market share, the free and open source software community is more positive than ever that Linux can be as successful on the desktop. Microsofties are aware of this and are doing everything they can to stop the growth of Firefox and in effect Linux.

5. Applications, applications, applications

The number of great FOSS applications that support Linux are increasing. In terms of quality, they can rival any proprietary software made for Windows. Nowadays, it’s like if you can do it on Windows, you can do it on Linux too.

The year of the Linux desktop is unknown, but the future is bright. Indeed the good people at Microsoft have reasons to be afraid, or shall I say be very afraid of Linux :-)

1. Portability  ลีนุกซ์ใช้งานได้ทั้งคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเลคทรอนิก
2. Cost  แน่นอนครับลีนุกซ์ฟรี
3. Security ลีนุกซ์ปลอดภัยจากไวรัสมากกว่าวินโดว์
4. Firefox  ผู้ใช้ Firefox เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ   กินส่วนแบ่งทางการตลาดของ IE ไปพอสมควรแล้ว
5. Applications, applications, applications  โปรแกรมมีเยอะแยะมากมาย และเพิ่มขึ้นทุกวัน

ก็ลองคิดดูนะครับว่าเป็นจริงอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า แต่เท่าที่ดูจากบทความต้นฉบับคนที่ใช้ M$ ก็มาแสดงความคิดเห็นกันเยอะติดตามได้จากลิงค์ที่มาครับ

ที่มา : http://www.junauza.com/2009/07/5-reasons-why-microsoft-is-afraid-of.html




12 กรกฎาคม, 2552

มาร์คไปทำไมเวียดนาม ไป ฟิจิ สิ ขายข้าวด้วยแถมได้จับทักษิณ


ข่าวจากเนชั่น ในเวลา 12.00 น.วันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานกองทัพอากาศ หรือ บน.6 โดยเครื่องบินเที่ยวบินพิเศษของกองทัพบก ไปเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ เพื่อแนะนำตัวในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง โดยนายกรัฐมนตรีจะได้พบกับนายกรัฐมนตรีของเวียดนาม เพื่อหารือถึงการกระชับความสัมพันธ์ ปัญหาในภูมิภาค ตลอดจนปัญหาด้านการเมืองและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในไทย ซึ่งส่งผลให้ความร่วมมือระหว่างกันในหลายด้านเกิดความล่าช้า โดยจะนำเสนอการสร้างกลไกความร่วมมือเฉพาะ-ด้านที่ทั้ง 2 ประเทศเห็นว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการผลิตข้าว ที่ไทยและเวียดนามต่างเป็นผู้ผลิตและส่งออกที่สำคัญ ไม่ให้เกิดการตัดโอกาสกัน

ตลอดจนหารือเรื่องการเชื่อมโยงระบบลอจิสติกด้านถนน หรือระบบราง รวมทั้งหารือด้านการ-ท่องเที่ยว เพื่อร่วมกันดึงดูดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาค ซึ่งเชื่อว่าจะนำไปสู่ความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมได้ นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสดีที่ไทยจะส่งต่อประเด็นความร่วมมือในภูมิภาคเอเชีย-ตะวันออก เฉียงใต้ให้เวียดนาม ซึ่งจะเป็นประธานอาเซียนต่อจากประเทศไทยในปีหน้าhttp://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=392216&lang=T&cat=
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
อยาก ถามว่ามาร์คไปทำไมครับเวียดนาม จะไปกระชับความสัมพันธ์เรื่องการขายข้าวไม่ให้ขายตัดราคากัน หรือไปสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนเวียดนามให้มาลงทุนในไทย หรือได้ยินข่าวว่าเวียดนามเข้าข้างเขมร เลยต้องรีบไปสร้างความสัมพันธ์กันไว้ก่อน แล้วแบบนี้เศรษฐกิจมันจะดีได้อย่างไร เพราะไม่มองตลาดใหม่เลย จะอ้างว่าเศรษฐกิจของโลกไม่ดีทำให้ขายยาก ก็ไม่ใช่ เพราะไม่เคยเห็นไปขายที่ใหนเลย

เห็นหมัย ประเทศฟิจิ เกิดมาผมไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย ทักษิณเขายังไปได้ ทั้งที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล ประเทศฟิจิไม่ได้ปลูกข้าว แล้วเขาเอาที่ใหนแดรกหละครับ ก็คงต้องซื้อจากประเทศอื่น และยังมีอีกหลายประเทศที่ไม่ได้ปลูกข้าว หรือว่าเกลียดทักษิณจนไม่อยากทำอะไรที่มันเป็นการเดินตามรอยตูดทักษิณ เพราะมันจะทำให้เสียหน้า อีกหน่อยทักษิณเดินทางไปทั่วโลกแล้ว มาร์คก็จะไม่มีประเทศที่จะไปได้ นอกจากอ้อมแอ้มแถวๆบ้านตัวเอง ไปๆมาๆเรื่องมันจะกลับตาละปัดแล้วนะเนี่ยะ หาเหตุไม่ให้ทักษิณกลับหรือทักษิณสร้างคอนเนคชั่นไปทั่วโลก จนมาร์คออกนอกประเทศไม่ได้กันแน่ คิดดูสิหน้าตาของผู้นำฟิจิเป็นอย่างไรมาร์คไม่เคยเห็น รู้จักชื่อหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ทักษิณรู้จักเป็นอย่างดี นึกภาพดูก็รู้ว่ามาร์คจะสั่งให้ฟิจิจับทักษิณได้อย่างไร

เพื่อนรอบๆข้างมันก็เคยว่าผม ชอบด่ามาร์ค ไม่ยอมมองคนให้ครบทั้งสองด้าน ทุกคนมีทั้งด้านดีและไม่ดี ถ้าจะให้เป็นธรรมเมื่อพูดเรื่องที่ไม่ดีก็ต้องพูดเรื่องดีของเขาบ้าง เพื่อนผมมันเป็นคนดีแฮะพูดเข้าท่า ผมก็มานั่งมองหาเรื่องดีของมาร์คบ้างกะว่าจะชมบ้าง เพราะด่ามาหลายวัน พุทโธ่เว๊ย.. มันไม่มีจริงๆให้ตายสิ ใครรู้ช่วยตอบผมทีว่ามาร์คเคยมีผลงานและกิจกรรมอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบ้าน เมืองบ้าง ต่างจากทักษิณลิบลับ ที่ถึงแม้จะโดนด่าโดนนำเสนอแต่ด้านไม่ดี แต่มันก็ยังนึกถึงความดีและผลงานเก่าเห็นเต็มไปหมด

ผมนั่งนึกนั่งหาข้อมูลของมาร์คอยู่นาน ว่ามีอะไรดีๆ บ้าง ให้ตายสิผมเห็นมีอย่างเดียวจริงๆ และดีกว่าทักษิณซะอีก คือ.... ดีแต่ปาก!!โดย คำเกิ่ง แห่งทุ่งหมาหลง

มาร์คเอ๊ยทำเป็นเก่ง พอเขาเสนอชื่อทักษิน กลัวจน ห..หด

พึ่งกลับมาจากเยือนสิงคโปร ซึ่งไม่ควรจะไป ทำไมไม่ไปประเทศอื่นที่ยังไม่มีใครไปที่เขายังไม่รู้จักไทย เปิดตลาดใหม่ขายข้าวไปสิ พอลับมาแล้วก็ทำเป็นปากดีท้าวีระไปร่วมรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทย แต่ไม่ไว้ใจอภิสิทธิ์" เป็นหัวแถวก็ต้องเชิญระดับหัวแถวเหมือนกันสิว่ะ.. ถึงจะสมศักดิ์ศรี ทำหน้าทำตา มั่นอกมั่นใจเต็มร้อย เมื่อรู้ว่า ท่านวีระไม่ตอบรับ แต่พอนักข่าวเสนอว่า ทำไมไม่เชิญทักษิน ให้โฟนอินเข้ามาก็ได้ ตกใจ ถึงขนาดต้องทวนคำถาม เพราะไม่เชื่อหู แล้วก็ทำหน้าเจื่อนๆ หมดความมั่นใจลงทันใด พร้อมกับพูดว่า "แหะๆๆ มันผิดรูปแบบของรายการหนะ" กลัวจน ฮำหดขนาดนั้นเชียว แค่ได้ยินชื่อทักษินนะเนี่ยะ



คลิกชมคลิปมาร์คขวัญเสียเมื่อได้ยินชื่อทักษิณ
http://www.cbnpress.com/index.php/component/hwdvideoshare/?task=viewvideo&video_id=2027



คราวนี้มาย้อนดูตอนไปเยือนสิงคโปร มาร์คทำงามหน้าอีกแล้ว แม้แต่ท่านั่ง ยังทำให้ประเทศตกต่ำได้ เป็นไงหละไปเจอของจริงยืดไม่ออกเลย ศักดิ์ศรีมันข่มใช่หมัย ผู้นำสิงคโปร แก่กว่ารุ่นคราวพ่อ ยังดูสมาร์ทกว่าเลย บุคลิก ท่านั่งมันไม่ได้บ่งบอกเลยว่านี่มันผู้นำประเทศนั่งคุยกัน มันเด็กๆได้รับเกียรติให้เข้าพบผู้นำนี่หว่า มาร์คไปในนามผู้นำของประเทศของผมนะโว๊ย ไม่ได้ไปขอสมัครงาน เทพเทือกไม่สอนบ้างเลยหรือเรื่องบุคลิก หรือขี้เกียจเก๊กแล้วเพราะมันเมื่อย



ดูจากท่านั่งก็รู้แล้วว่าการเจรจาเป็นเบี้ยล่างแน่นอน แล้วยังจะมีหน้ามาเป็นผู้นำอาเชี่ยนได้ไง เขามองว่ามาร์คเป็นเด็กอมมือรู้หมัย มันช่างต่างกันลี้ลับกับอดีตนายกทักษิณ บางทีการเป็นนายกดูจากบุคลิกก็ออกนะว่า คนใหนใช่ คนใหนไม่ใช่ ปรับปรุงบุคลิกใหม่ซะ อายแทนผู้ชักใยหว่ะ...

 

ดูตัวอย่างนี้สิ มาดมันต่างกัน ทำให้ดูออกว่าใครเหนือกว่าใคร

โดย คำเกิ่ง แห่งทุ่งหมาหลง CBN Press

ฮุนเซ็นครับ ท้าเตะปาก กับ อภิสิทธิ์ ดีกว่ามั้ยครับ !...

ยังไม่แน่ใจว่า ที่สมเด็จฮุนเซ็นประกาศกล้าท้ารบเหย็งๆ กวักมือหยอยๆอยู่ที่เชิงปราสาทพระวิหารในช่วงนี้ สงสัยนักหนาเขามาท้าเรารบในเรื่องใดกันแน่ เห็นบอกว่าต่อให้ 5 รุม 1ยังสะบายๆแบบเบิร์ดๆ โกรธเคืองเรื่องการยื่นคัดค้านปราสาทเขาพระวิหารรึเปล่า หรือเรื่องที่เมียฮุนเซ็นทำอาหารให้สุเทพกินตอนไปเยือน แล้วสุเทพอาจทำทีท่าจะใช้วิชาแม่ไม้มวยไทยขั้นสุดยอดชื่อ “ตีท้ายครัวเพื่อน”กับเมียฮุนเซ็นอีก ..จึงโกรธแบบผิดปกติ

ต้องบอกผ่านไปยังสมเด็จฮุนเซ็นแทนทหารไทยว่า …หากจะท้ารบด้วยกำลังทหารกันตอนนี้ละก็ ทหารไทยของเราไม่ว่างเลยครับท่าน ติดภาระกิจฝึกวงสวิงกันอย่างหน้าดำคร่ำเครียด นัดก๊วนต่างๆไว้แล้วล่วงหน้า จะไปแข่งตีกอล์ฟการกุศลหาเงินสมทบทุนซื้อใบไผ่ให้หมีแพนด้ากินกันอยู่ จึงไม่ว่างจะไปรบด้วย แต่ถ้าท้าตีกอล์ฟแข่งกันละก็..นัดวัน เวลา และสถานที่ได้เลย !

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ อาวุธยุทโธปกรณ์ ตอนนี้ทหารไทยไม่ค่อยมีอาวุธใช้มากนัก เพราะขอซื้อเครื่องบินกริฟเฟ่นรัฐก็ไม่ให้ จะซื้อเรือดำน้ำก็ไม่ให้อีก ซื้อได้ก็แต่รถถังของยูเครนแต่ยังไม่ได้ส่งมา ส่วนอาวุธที่มีอยู่นั้นก็ไม่ได้เอาไว้ใช้รบกับคนที่มีอาวุธด้วยกันหรอกนะฮุน เซ็นเอ๊ย ! ทหารไทยเอาไว้ใช้ข่มขู่รัฐบาลของไทยตอนทำปฏิวัติเท่านั้น กับเอาไว้ข่มขู่ชาวบ้านที่ออกมาต่อต้านทหารเหมือนตอนช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา น่ะ..รู้หรือยัง ?
แล้วช่วงนี้ ทหารไทยระดับนายพัน นายพลทั้งหลายของเราไม่ค่อยได้ฝึกฝนการรบกับศัตรูเท่าไหร่ เพราะวันๆมัวแต่เพลิดเพลินกับการทำกิจกรรมเล่นกีฬาเสียส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกอล์ฟซึ่งทหารแก่ๆเกือบทั้งกองทัพของเราดูจะชำนาญและคลั่งไคล้อย่าง มาก ..ถนัดแต่พาลูกลงรู !

เรื่องการวางแผน วางผัง ยุทธวิธีการรบ ไม่ได้อยู่ในหัวของทหารของเรา ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องการรบทัพจับศึกหรอก ยกตัวอย่างตอนรบกับลาวที่ร่มเกล้า ส่วนนายทหารที่เรียกกันว่า เสธ.น่ะ คนไทยยังไม่รู้เลยว่าเป็นเสอะไร หลายคนคิดว่าเป็น “เส”ที่ตั้งอยู่บ้านหัวเสา..บ้างก็เรียก “เสนาหอย”ในสาระแนจังไปเลย

ที่สำคัญ ฮุนเซ็น! ท่านไม่ใช่ศัตรูของทหารไทย ท่านคือมิตรแท้ที่ถาวร เพราะลีลาการเล่นกอล์ฟของท่านที่เคยเล่นกับทักษิณ ทำให้ทหารไทยทึ่งมากๆ โดยเฉพาะการตีลูกตกน้ำได้ทุกแม็ตช์ของท่าน ทั้งการตีลูกลงหลุมทรายได้ห่วยแตกแทบทุกครั้ง..ลีลาสง่างามจริงๆ

ศัตรูของทหารไทยที่เที่ยงแท้และถาวร  อันถือได้ว่าเป็นศัตรูที่ร้ายกาจ และควรกำจัดให้สิ้นทรากก็คือประชาชนคนไทยนั่นเอง ที่ทหารไทยชอบรบด้วยยิ่งนัก..เพราะไม่มีอาวุธ !เห็นมั๊ยละ ฮุนเซ็น ตั้งแต่ท่านออกมาท้ารบ 2-3 วันมาแล้ว เคยเห็นทหารไทยระดับนายพลนายพันที่ไหนสักคน หรือแม้แต่ รมต.กลาโหมโผล่หัวออกมาพูดอะไรบ้างมั๊ย แต่ถ้าเป็นเรื่องการเมืองหรือเรื่องทักษิณละก็ มันจะโผล่หัวออกมาทันที..ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของมันสักนิด

ที่จะบอกให้รู้อีกอย่าง พวกทหารไทยไม่เคยหาเรื่องกับเพื่อนบ้านเลยนะ ขอให้รู้ไว้ด้วย  ไอ้ที่คอยแกว่งปากหาเท้า หรือหาเท้ามาอุดปากตัวเอง หรือถนัดที่จะคอยทะเลาะกับเพื่อนบ้านแบบห้าวหาญนั้น ก็มีตัวหลักๆอยู่ 2 คนเท่านั้น คนแรกก็กษิต ภิรมย์ คนเก่าเจ้าเดิม ..คนต่อมาก็ประธานยุวชนอาเชียน อภิสิทธิ์ !

ท่านฮุนเซ็น ขอร้องเถอะ อย่าทะลึ่งหาเรื่องให้เดือดร้อนกับชาวบ้านทั้ง 2 ประเทศเลย เขาไม่เกี่ยวข้องด้วย ถ้าแน่จริงไอ้ที่ท้ารบเนี่ยะ ขอเปลี่ยนเป็น “ท้าเตะปาก”กันดีกว่ามั๊ย  ระหว่างผู้นำประเทศเขมรกับประเทศไทยให้มันรู้ดำรู้แดงแบบตัวต่อตัว ..มีรุม!

ฮุนเซ็น VS อภิสิทธิ์,  กษิต VS ฮอ นัม ฮง “ศึกชิงเขาพระวิหาร” แบบมวยไทย บนเวทีเชิงเขาพระวิหาร มีการถ่ายทอดสดทั่วโลก ใครชนะเอาปราสาทเขาพระวิหารไปเลย..กล้าหรือเปล่า ?

เปรียบเทียบช่วงชกและน้ำหนักชนิดปอนด์ต่อปอนต์ของคู่สำคัญหากตกลง.. ฮุนเซ็น Vsอภิสิทธิ์

ฮุนเซ็นแก่กว่าหลายปี เป็นทหารตั้งแต่สมัยเขมรแดง ไม่รู้จบจากสถาบันไหน ภาษาอังกฤษงูๆปลาๆแต่พูดเขมรชัดแจ๋ว ผ่านการฝึกฝนอาวุธมาทุกรูปแบบ ผ่านความเป็นความตายมาแล้วหลายครั้ง ชำนาญในยุทธวิธีการรบแบบจรยุทธ สุดท้ายได้เป็นผู้นำประเทศตอนแก่ นิสัยเกลียดคนพูดลับหลังและคนชอบตีท้ายครัวเพื่อนยิ่งนัก ชอบทักษิณเป็นพิเศษ ..ฟอร์มไม่สดดูแล้วไม่เท่าไหร่ !!

ส่วนอภิสิทธิ์นั้น พูดเก่งเป็นต่อยหอย(แต่ไม่มีใครฟัง)  เถียงคอเป็นเอ็น จบการศึกษาจากอังกฤษ พูดเขมรไม่ได้ ถูกอุ้มเข้าสะเอวขึ้นมาเป็นนายกฯ ไม่เคยทำอะไรสำเร็จ เริ่มบริหารประเทศมาครึ่งปี จับโครงการไหน เจ๊งโครงการนั้น เกลียดทักษิณเป็นพิเศษ ชอบการ “กู้”เป็นชีวิตจิตใจ ที่สำคัญ..เคยหนีทหามาแล้วด้วย ฟอร์มยังสด !

เปรียบเทียบแค่นี้ก็รู้แล้ว ..เขาพระวิหารจะเป็นของใคร !!!

โดย ปลายอ้อกอแขม CBN Press

หลักแถVSหลักฐาน มัดคอโจรก่อการร้ายยึดสนามบินกุดหัวประหารชีวิต "เว่อร์VSไม่เวอร์"


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
11 กรกฎาคม 2552

Q-การตั้งข้อหาแกนนำพันธมิตรยึดสนามบินก่อการร้ายนั้นถือว่าเว่อร์เกินไป

A-เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นเว่อร์เกินไปหรือไม่ แต่เป็นเรื่องฐานความผิดที่มีหลักฐาน และมีกฎหมายเอาโทษถึงประหารชีวิต ดังนี้

-จะเห็นว่าการแจ้งข้อหาแกนนำพันธมิตรแบ่งเป็น2คดี คดีแรกกรณียึดสนามบินดอนเมือง ซึ่งไม่มีการแจ้งข้อหาก่อการร้าย เป็นแค่ข้อหาบุกรุก เพราะดอนเมืองเป็นสนามบินภายในประเทศ แต่อีกคดีคือสุวรรณภูมิมีข้อหาก่อการร้าย เพราะเป็นสนามบินสากล มีชาวต่างชาติได้รับผลกระทบ ที่สำคัญมีกฎหมายระหว่างประเทศบังคับไว้

-กฎหมายสากลนี้ คือพิธีสารข้อตกลงมอนทรีออล ที่มีนานาชาติลงนามรับรอง ไทยลงนามรับรองไว้เมื่อ14พ.ค.2539 ความสำคัญตอนหนึ่งระบุว่า"บุคคลหนึ่งบุคคลใดกระทำความผิด ทำให้การบริการของท่าอากาศยานซึ่งให้บริการการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หยุดชะงักลง หากการกระทำนั้นเป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตราย ต่อความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานนั้น" เป็นการกระทำผิดตามพิธีสารเพื่อการปราบปรามการกระทำรุนแรงอันมิชอบด้วย กฎหมาย ณ ท่าอากาศยานสากลฉบับนี้

-กฎหมายที่ออกมารองรับพิธีสารฉบับนี้-เมื่อ ไทยลงนามแล้วก็ได้มาออกกฎหมายพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2521 (แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2538)มีใจความสำคัญว่า "ผู้ใดทำให้การให้บริการของท่าอากาศยานหยุดชะงักลง ทั้งนี้ โดยใช้กลอุปกรณ์ วัตถุ หรืออาวุธใด ๆ และการกระทำนั้นเป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยานนั้น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี"

-ส่วนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1เขียนไว้ว่า ผู้ใดกระทำการอันเป็นความผิดอาญาเกี่ยวกับการก่อการร้าย ดัง ต่อไปนี้ (2) กระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ ระบบการขนส่งสาธารณะ ระบบโทรคมนาคม หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะ

ถ้าการกระทำนั้นได้ กระทำโดยมีความมุ่งหมายเพื่อขู่เข็ญหรือบังคับรัฐบาลไทย รัฐบาลต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศ ให้กระทำหรือไม่กระทำการใดอันจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง หรือเพื่อสร้างความปั่นป่วนเพื่อให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน ผู้นั้นกระทำความผิดฐานก่อการร้าย ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สามปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงหนึ่งล้านบาท


เมื่อเป็นดังนี้โจรก่อการร้ายพันธมิตรจะกล่าวอ้างลอยๆว่า"เว่อร์เกินไป"ได้อยู่หรือ?


Q-แต่ก็ยังเว่อร์เกินกว่าเหตุ

A-จะ ว่าเกินกว่าเหตุได้อย่างไร เพราะการก่อการร้ายดังกล่าวมีผลให้ผู้โดยสารต่างชาติตกค้างอยู่ในไทยนานนับ สัปดาห์กว่า 4 แสนคน รวมทั้งมกุฎราชกุมารราชอาณาจักรเดนมาร์คที่มาเยือนไทยเป็นอาคันตุกะส่วน พระองค์ของในหลวง ในช่วงนั้นก็ต้องตกค้าง มีคนที่เดินทางเข้าประเทศไม่ได้หลายแสนคน

-ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานประเทศชาติเสียหายด้านต่างๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม 270,000 ล้านบาท

-หน่วย งานที่เกี่ยวข้อง เช่น การท่าอากาศยานฯ การบินไทย สายการบินต่างชาติได้เรียกร้องขอให้รัฐบาลชดเชยความเสียหายให้มากกว่า 19,000 ล้านบาท ที่เป็นผลเสียหายโดยตรง

-โจรก่อการร้ายพันธมิตรยึด เครื่องบินโดยสารต่างชาติไว้ช่วงเกิดเหตุการณ์กว่า 88 ลำ จนทูตชาติมหาอำนาจ 6 ชาติ คือสหรัฐ สหภาพยุโรป เป็นต้นเข้ายื่นโนติสกับกระทรวงการต่างประเทศขอให้ยุติและอย่าให้เกิด เหตุการณ์แบบนี้อีก ทำให้ไทยเสี่ยงต่อการถูกมหาอำนาจแทรกแซงอธิปไตย

-โจรก่อการร้ายพันธมิตรได้กลุ้มรุมทำร้ายคนสาหัสปางตายในเหตุการณ์นี้ และขัดขวางทำร้ายพนักงานรักษาความปลอดภัยสนามบินด้วย

แล้วอะไรคือสิ่งที่โจรก่อการร้ายพันธมิตรเห็นว่าไม่ได้"เกินกว่าเหตุ"กรุณาอธิบายมาด้วย

Q-กษิตแค่ขึ้นเวทีเฉยๆทำไมโดนข้อหาก่อการร้ายด้วย

A-แถแบบนี้หากไม่รู้กฎหมายก็น่าเห็นใจ แต่ส่วนใหญ่นั้นรู้แต่แกล้งไม่รู้ กฎหมายพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2521 (แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2538)มาตรา 11(2)เขียนไว้ดังนี้"ผู้ใดเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดตาม มาตรา 5 มาตรา 6 หรือมาตรา 6 ทวิ ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับตัวการ" พูดง่ายๆคือผู้ใดสนับสนุนให้โจรก่อการร้ายพันธมิตรไปยึดสนามบิน จนทำให้การบริการท่าอากาศยานสากลสุวรรณภูมิหยุดชะงักลง ก็ต้องผิดและโทษถึงประหารเหมือนตัวการ

คำถามคือนายกษิตไปที่ สุวรรณภูมิในตอนยึดสนามบินแค่ไปกินข้าวฟรี ฟังดนตรีไพเราะแล้วกลับบ้านหรือไม่ ความจริงนายกษิตไปสนับสนุนการกระทำความผิด ขึ้นพูดให้การสนับสนุนบนเวทีหลักฐานก็มี ยังจะมาเถียงอีกว่า"ผมทำผิดตรงไหน!"

Q-พันธมิตรไม่ได้ปิดสนามบิน ผอ.สุวรรณภูมิเป็นคนปิดเอง

A-จะพูดจะแถอย่างไรก็ได้ แต่ดูหลักฐานนี่ก่อน

-หลังเข้ายึดสนามบินไว้ได้แล้วเมื่อค่ำวันที่25พ.ย.2551นั้น พันธมิตร ได้ออกแถลงการณ์ในเวลา21.57น.วันนั้น เป็นแถลงการณ์ฉบับที่ 26/2551 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ความสำคัญตอนหนึ่งคือ"พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับการชุมนุม และเพิ่มมาตรการอารยะขัดขืนโดยการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อ ยื่นคำขาดผ่านพี่น้องประชาชนทั่วประเทศและทั่วโลกไปยังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคณะรัฐบาลให้ลาออกจากตำแหน่งโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข

-เมื่อยึดไว้จนกดดันให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบ3พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลในวันที่2ธ.ค.2551ทำให้รัฐบาลนายสมชายสิ้นสภาพลง ต่อมาวันรุ่งขึ้นเวลา09.20น.พลตรีจำลอง ศรีเมือง เป็นผู้แทนพันธมิตรทำพิธีส่งมอบสนามบินคืนแก่นายวุฒิพันธ์ วิชัยรัตน์ ประธานบอร์ดการท่าอากาศยานต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์

วิญญูชน หรือสามัญชนที่มีสามัญสำนึกย่อมพิจารณาเป็นไปอย่างอื่นไม่ได้ว่า หากพันธมิตตรไม่ได้เป็นคนยึดแล้วไปออกแถลงการณ์ปิดสุวรรณภูมิทำไม และหากไม่ได้ยึดเอาไว้ จะไปทำพิธีส่งมอบคืนทำไม?

Q-เป็นข้อ หาทางการเมืองที่ประชาธิปัตย์สกัดพรรคการเมืองใหม่ ทำไมปล่อยไว้ตั้งนาน ทำไมเพิ่งมาเล่นงานตอนนี้ แบบนี้เข้าข่ายละเว้นต่อหน้าที่ไหม?

A-ใครอยากให้ช้า หากไปดูดีๆจะพบว่ามีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าและพนักงานสอบสวนหลายหน

-ตอน แรกๆรัฐบาลนายอภิสิทธิ์เข้ามาบริหารประเทศแทนรัฐบาลนายสมชายก็ว่าจะเร่งคดี แต่เอาไปเอามาจากวันที่25ธ.ค.2551ที่ก่อการร้ายทำความผิด กว่าจะออกหมายเรียกก็วันที่ 1 ก.ค.2552กินเวลา221วัน หรือ7เดือนกับ9วัน ส่วนว่าพรรคประชาธิปัตย์สกัดพรรคการเมืองใหม่หรือไม่ให้ไปไล่เบี้ยกันเอง เพราะเป็นพวกเดียวกัน ทำงานรับส่งเข้าขากันมาตลอด

-มีการเปลี่ยนตัว หัวหน้าชุดและพนักงานสอบสวนสืบสวนหลายชุด เดี๋ยวก็จะแยกคดีดอนเมืองกับสุวรรณภูมิ เดี๋ยวก็จะรวม มีการโยกย้ายคนที่จะเอาจริงเอาจังพ้นหน้าที่

-สุดท้ายก็ว่ารอให้ กรมการขนส่งทางอากาศรวบรวมข้อกฎหมายและร้องทุกข์มา กว่าจะครบทั้งพยาน หลักฐาน ข้อกฎหมายก็เลยกินเวลานานมาก ส่วนจะเล่นงานกันเรื่องละเว้นหรือไม่ละเว้นก็เชิญจัดการกันเอง

แต่ ที่แน่ๆประชาชนผู้รักความเป็นธรรมเห็นว่าช้ามาก และไม่เป็นการยุติธรรม เพราะเวลาเสื้อแดงโดนออกหมายจับทันควัน แต่โจรก่อการร้ายเสื้อเหลืองมีคดีปล่อยเรื่องมานาน7เดือนเศษ แถมให้เกียรติแค่ออกหมายเรียกอีกต่างหาก

Q-แล้วทำไมไม่เล่นงานพวกเสื้อแดงข้อหาก่อการร้ายบ้าง ทีพันธมิตรทำไมโดนหนักๆทั้งกบฎ ทั้งก่อการร้าย

A-เสื้อแดงเขาได้ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นสนามบินสากล มีพิธีสารมอนทรีออลคุ้มครองไหมหละ ถึงต้องโดนคดีก่อการร้าย เขาได้เข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาลไว้นานเป็นเดือนๆเพื่อล้มล้างรัฐบาลไหมหละ ถึงต้องโดนข้อหากบฎ เขาได้บุกยึดโทรทัศน์NBTจนต้องโดนข้อหาบุกรุกและคุกคามสื่อหรือไม่

Q-แต่ยังไงกษิตก็ยังไม่ผิด จนกว่าศาลจะตัดสิน ดังนั้นกษิตก็เป็นรัฐมนตรีต่อได้ สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ก็เป็นส.ส.ต่อได้

A-แล้วตอนกรณีเขาพระวิหารทำไมไล่นพดล ปัทมะออกหละ ทำไมคดีจักรภพ เรื่องยังไม่ถึงศาล ทำไมไล่บี้ให้ออกแสดงความรับผิดชอบ และรัฐบาลสมัครกับรัฐบาลสมชายทำไมเสื้อเหลืองพากันก่อกบฎก่อการร้ายกดดันให้พ้นตำแหน่ง ทำไมไม่รอให้ศาลตัดสินคดีก่อนบ้างหละ

Q-ยังไงๆก็เห็นว่าเว่อร์นะคดีก่อการร้าย ถือว่าเกินกว่าเหตุจริงๆ

A-??!! ก็ลองดูหลักฐานต่อไปนี้ดูว่าเกินกว่าเหตุไหม เว่อร์ไหม ที่จริงโจรก่อการร้ายพันธมิตรต่างหากที่ประท้วงเว่อร์และทำเกินกว่าเหตุ ก็สมควรแล้วไม่ใช่หรือที่ต้องโดน

-คลิปข่าว สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พูดกลางสภาว่าพาคนไปยึดสนามบินเอง คลิ้กที่นี่

-คลิปข่าวพันธมิตรคลุมหน้าไอ้โม่งบุกปิดหอบังคับการบินสุวรรณภูมิ คลิ้กที่นี่

-คลิปข่าว ร.ต.แซมดินมือขวาของจำลองพาพันธมิตรคลุมหัวไอ้โม่งบุกยึดหอบังคับการบิน คลิ้กที่นี่

-คลิปข่าวพลตรีจำลองเป็นตัวแทนพันธมิตรส่งมอบคืนสนามบินสุวรรณภูมิ คลิ้กที่นี่



เศร้า เจ็บ สู้ : เงินภาษีถูกผลาญกว่าร้อยล้าน เพียงเพื่อสร้างภาพให้มาร์คเหยียบบุรีรัมย์ไม่กี่ชั่วโมง

โดย คุณ สาละวิน
ที่มา เวบบอร์ด พันธ์ทิพย์ราชดำเนิน
11 กรกฎาคม 2552

สองสามวัน ก่อนที่นายอภิสิทธิ์ มีกำหนดไปเยือนบุรีรัมย์ตามการชี้นิ้วของเนวิน

มีการเตรียมงานด้านรักษาความปลอดภัย เสมือนว่า นายกฯผู้คลอดมาจากการปล้นอำนาจผู้นี้ กำลังเดินทางเข้าสู่เขตสงครามในประเทศอิรัก

เพราะ สารพัดกองกำลัง ทุ่มพลจำนวนมหาศาลเข้าบุรีรัมย์ หวังอารักขานายอภิสิทธิ์ และรักษาหน้าของเนวิน เพื่อมิให้พี่น้องเสื้อแดง เข้าไปสร้างความเคืองใจให้พวกเขา

งบประมาณที่ทุ่มลงไปในการเยือน บุรีรัมย์ ตามบัญชาของเนวินครั้งนี้ ว่ากันว่า พุ่งบานกว่า 100 ล้าน ในรูปของเบี้ยเลี้ยงกำลังพล และอีกกว่า 100 ล้าน ในด้านการตกแต่งสถานที่ ให้ดูยิ่งใหญ่อลังการ ตามประสารสนิยมของนักการเมืองต่างจังหวัด และรสนิยมของคน ปชป. ที่มักยึดเอาภาพข่าวแสนดีบังหน้า

ความไร้ สมรรถนะในเชิงบริหารข่าว การทุ่มกำลังมหาศาล ทั้งจำนวนคนและงบประมาณ เพื่ออารักขานายกรัฐมนตรีของไทยในแดนอิสาน ใครๆ ที่เป็นคนไทยในประเทศนี้ ได้รับรู้รับทราบ ก็คงเศร้าใจไปตามๆ กัน

เพราะจากพฤติกรรมดังกล่าว ย่อมพิสูจน์ในตัวมันเองแล้วว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคน ตามที่เจ้าตัวจีบปากจีบคอประกาศผ่านสื่อครั้งแล้วครั้งเล่า

รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ยังคงเป็นตัวแทนระบอบอำมาตย์ และเป็นตัวแทนของเผด็จการซ่อนรูป ทำให้พี่น้องเสื้อแดงต้องตามไปต่อต้านในทุกหนแห่ง ที่นายอภิสิทธิ์ (ตลอดจนรัฐมนตรีทุกผู้) อาจหาญไปปรากฏตัว......จนกว่าจะพินาศกันไปข้าง

อนิจจา....ประเทศไทย !

'แดงพัทลุง' เชิญร่วมงานเพื่อระดมทุน อาทิตย์ที่ 12 กค.นี้

โดย คุณ ถังแดง
ที่มา เวบบอร์ด ประชาไท
11 กรกฎาคม 2552

กลุ่มผู้รักประชาธิปไตยพัทลุง (แดงพัทลุง)
เชิญร่วมงาน"จิบน้ำชา สนทนาประชาธิปไตย" เพื่อระดมทุน

วันที่ 12 กรกฎาคม 2552
เวลา 09.00 - 18.00 น.

ณ. ร้านเล่าฝัน ถนนเอเชีย อ.เมือง พัทลุง
(ติดกับสนามกีฬากลาง จังหวัดพัทลุง
ตรงข้ามป้อมตำรวจทางหลวง)


จาตุรนต์ ฉายแสง:ข้อเสนอต่อรัฐบาลกรณีการแก้ปัญหาไข้หวัดใหญ่ 2009


โดย จาตุรนต์ ฉายแสง
ที่มา เวบเครือข่ายจาตุรนต์
11 กรกฎาคม 2552

ใน อเมริกา หน่วยงานสาธารณสุขออกแถลงอย่างเป็นทางการไปแล้วว่า..จะมีผู้ติดหวัด 90 ล้านคน และเสียชีวิตมากถึง 2 ล้านคน..จึงเป็นที่วิตกกันว่า โรคนี้จะระบาดมากขึ้น โดยที่คนจำนวนมากไม่ค่อยเชื่อถือตัวเลขจากทางการ ไม่เชื่อมั่นในมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหา รวมทั้งไม่เชื่อในข้อมูลข่าวสารที่ทางราชการได้เผยแพร่หรือชี้แจง ซึ่งมีเหตุผลที่ทำให้คนจำนวนมากรู้สึกอย่างนั้น



"สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009"

สถานการณ์ ปัจจุบันโรคนี้ได้ระบาดอย่างรวดเร็ว มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็ว มีการคาดการณ์ว่าแนวโน้มการแพร่ระบาดจะรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และสร้างความเสียหายให้แก่คนทั่วโลกได้อีกมาก

ในประเทศไทยโรคนี้ได้ แพร่ระบาดเร็วมาก มีผู้เสียชีวิตแล้ว 14 คน มียอดผู้ป่วยด้วยโรคนี้เป็นอันดับ 9 ของโลก มีผู้เสียชีวิตเป็นอันดับ 6 ของโลก และเป็นอันดับที่ 1 ในเอเชีย

นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าในขณะ นี้มีผู้ป่วยด้วยโรคนี้มากกว่าตัวเลขที่เป็นทางการอีกมาก ถ้าการแพร่ระบาดยังเป็นไปในลักษณะนี้ หมายความว่าจะเพิ่มอัตราเร่งสูงขึ้นเรื่อยๆ อาจจะทำให้เราพบกับสภาพที่มีผู้ปวยด้วยโรคนี้จำนวนเป็นแสนๆคนในอนาคตอันใกล้

ใน อเมริกา หน่วยงานสาธารณสุขออกแถลงอย่างเป็นทางการไปแล้วว่า ในประเทศสหรัฐฯประเทศเดียว คาดว่าจะมีผู้ติดหวัด 90 ล้านคน และเสียชีวิตมากถึง 2 ล้านคน

จึงเป็นที่วิตกกันว่า โรคนี้จะระบาดมากขึ้น สร้างความเสียหายอย่างมาก โดยที่คนจำนวนมากไม่ค่อยเชื่อถือตัวเลขจากทางการ ไม่เชื่อมั่นในมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหานี้ รวมทั้งไม่เชื่อในข้อมูลข่าวสารที่ทางราชการได้เผยแพร่หรือชี้แจง ซึ่งมีเหตุผลที่ทำให้คนจำนวนมากรู้สึกอย่างนั้น

"ขาดยุทธศาสตร์ แผนงาน มาตรการ"

ความ จริงประเทศไทยมีพื้นฐานที่ดีหลายอย่างในการที่จะรับมือกับโรคนี้ คือเรามีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มีความเชื่ยวชาญ ในเรื่องที่เกี่ยวกับโรคระบาดอยู่พอสมควร เราได้ผ่านประสบการณ์กับการที่ต้องเผชิญกับโรคซาส์และปัญหาไข้หวัดนกในชวง ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้เรามีประสบการณ์ทำงาน ในการวางแผน ในการจัดการ รวมทั้งยังได้มีแผนรับมือกับภาวะโรคระบาดที่ได้มีการวางแผนไว้แล้วอย่างต่อ เนื่องถึง 2 แผน

แผนแรกได้ทำโดยคณะกรรมการติดตามแก้ปัญหาไข้หวัดนก และต่อมามีการพัฒนาแผนขึ้นอีกเป็นแผนงานขั้นที่ 2 ที่ต่อเนื่องโดยสำนักงานสภาพัฒน์ฯ นอกจากนั้นเรายังมีเครือข่ายความร่วมมือที่ดีกับองค์กรต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ รวมทั้ง WHO ที่ได้เคยให้เราเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคนี้

เรา ยังได้เคยมีการศึกษา ค้นคว้า เพื่อจะสร้างหรือผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทำให้เรามีความรู้ ความเชี่ยวชาญอยู่พอสมควร ในการที่จะสร้าง ผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันโรคนี้

มีคำถามว่า ทำไมเราจึงมาอยู่ในจุดที่ผู้คนขาดความเชื่อถือ และดูเหมือนการแก้ปัญหาไม่มีประสิทธิภาพ ไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าไว้วางใจ จนกระทั่งทำให้เกิดการคาดการณ์ในทางหวั่นวิตกว่า ปัญหาจะหนักหน่วงรุนแรงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

สาเหตุสำคัญ คือ เราขาดยุทธศาสตร์ในการรทำงาน ขาดนโยบาย การวางแผน การวางมาตรการที่ดี ขาดการปรึกษาหารือกับผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบอย่างเป็นระบบ และไม่มีการตัดสินใจที่ดี รวมทั้งไม่มีการวางยุทธศาสตร์ วางแผนในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ให้เจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนได้เข้าใจข้อเท็จจริง รวมทั้งสร้างความเข้าใจว่าเรากำลังจะรับมือกับปัญหานี้อย่างไร ผู้คนทั้งหลายจะรับมือกับปัญหานี้อย่างไร

"ปัดฝุ่นคณะกรรมการยุทธศาสตร์ เชื่อมโยงต่างประเทศ"

หาก จะให้เสนอแนะความคิดเห็น ผมคิดว่าควรจะมีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้น เพื่อดูแลปัญหานี้ แต่จากการติดตามข่าวสารทราบว่า มีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติ ระดับรัฐบาลเพื่อดูแลปัญหานี้แล้ว แต่ว่าคณะกรรมการคณะนี้ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ไม่ค่อยได้ประชุมปรึกษาหารือกัน จึงไม่เห็นว่าคณะกรรมการชุดนี้ได้ทำงานอะไร ทำหน้าที่อย่างไร

ข้อเสนอประการแรกคือ ให้คณะกรรมการฯที่ตั้งไว้นี้ ปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการชุดนี้ให้ทันสมัยมากขึ้น ให้มีผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ จากกระทรวงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งควรจะเชิญผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและจากต่างประเทศหรือองค์กร ระหว่างประเทศ ให้เข้าร่วมเป็นกรรมการหรือเป็นที่ปรึกษา แล้วให้คณะกรรมการนี้ทำงานอย่างจริงจัง มีการประชุมสม่ำเสมออย่างน้อยทุกสัปดาห์ เพื่อที่จะกำหนดยุทธศาสตร์ แผนงาน มาตรการ และเพื่อที่จะบัญชาการ สั่งการ ให้เกิดการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย

รวมทั้งควรจะ มีการนำเอาแผนฉุกเฉินที่จะรับมือกับการเกิดโรคระบาด ที่มีการทำไว้แล้วนั้นมาพิจารณาเพื่อนำส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นประโยชน์มาใช้ โดยเร็ว รวมทั้งควรจะมีการชี้แจงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชาชน......

- ได้เข้าใจข้อเท็จจริง
- เข้าใจลักษณะความรุนแรงของโรค
- วิธีการในการป้องกันรักษา
- วิธีปฏิบัติตน
- แนวปฏิบัติขององค์กรหน่วยงาน สถานที่ต่างๆ
- รวมไปถึงบุคคลแต่ละคนว่าควรปฏิบัติในการป้องกันรักษาโรคนี้อย่างไร
ควรจะมีรายละเอียดตั้งแต่ในภาวะปกติที่ยังไม่ปรากฎ ไปจนถึงสงสัยว่า
- เริ่มมีอาการอย่างไร
- จะทำอย่างไร
- ควรจะไปพบแพทย์ และควรจะไปโรงพยาบาลใดบ้าง หรือทั่วไป
- หรือว่าเมื่อใดควรจะหยุดเรียน เมื่อใดโรงเรียนควรจะปิด
- จากนี้ไปผู้ที่รับผิดชอบสถานที่ ระบบขนส่ง อาคารตึกรามต่างๆจะต้องมีมาตรการอย่างไร


ชี้แจงประสัมพันธ์ทั้งระบบ จัดทำแผนฉุกเฉิน ผลิตวัคซีน

ควร จะมีคำแนะนำที่ชัดเจน ควรจะมีการมาสรุปผลการศึกษาการวิเคราะบทเรียนจากการป้องกันรักษาโรคนี้ ทั้งในประเทศไทยและจากต่างประเทศ เพื่อให้คนเข้าใจพฤติกรรมเข้าใจการพัฒนาการคลี่คลายของเรื่องนี้ว่า คนมักจะติดโรคนี้จากอะไร ติดมาในโอกาสไหนมาจากใครอย่างไร ที่หายๆได้อย่างไรแต่ละคนจะได้วางตัวถูก

ประการที่สอง คือ นอกจากชี้แจงสิ่งที่เป็นปัจจุบันแล้ว ต้องแสดงภาพให้เห็นว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะต้องเผชิญกับสภาพอย่างไร แล้วเราจะรับมือกับมันอย่างไร ในอนาคตคนจะเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธรณะอย่างไร คนจะใช้บริการต่างๆ ไปดูหนัง อยู่ในร้านอาหาร ไปซื้อข้าวซื้อของตามศูนย์การค้าและอื่นๆจะทำอย่างไร

โดยเฉพาะเมื่อ มีการระบาดของโรคนี้อย่างกว้างขวางมากๆ แล้วคนแต่ละคนจะทำกันอย่างไร ให้นำเอาแผนฉุกเฉินแผนที่มีไว้สำหรับการรับมือกับโรคระบาดอย่างร้ายแรงมา พิจารณาดูว่าควรจะต้องเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาโรคอย่างไรและก็ต้องเร่ง ทำอย่างจริงจัง ต้องทุ่มเทงบประมาณหาบุคลากรมาเสริมอีกมาก รวมทั้งต้องร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศก็ต้องรีบดำเนินการ หมายถึงว่าต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือเตรียมยาสำหรับรักษาเตรียมผลิตวัคซีน เตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ อย่างเช่นห้องทดลอง เครื่องมือในการตรวจพิสูจน์ว่าเขาเป็นอะไรกันแน่เป็นโรคนี้หรือไม่ ห้องรักษาคนไข้แบบปิดที่ไม่แผ่เชื้อต่อๆไป รวมทั้งก็จะต้องเร่งผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันโรคนี้

ประการสำคัญ ต้อง จัดระบบการชี้แจงประชาสัมพันธ์เสียใหม่ คือเมื่อมีการพิจารณาอย่างเป็นระบบแล้ว นำเรื่องสำคัญๆมาชี้แจงแก่ประชาชนทราบให้เข้าใจสถานะของปัญหาความร้ายแรงของ ปัญหาในขอบเขตทั่วโลก และทั่วประเทศ รวมทั้งความรุนแรงที่จะเกิดต่อคนแต่ละคน วิธีการป้องกันวิธีการรักษาที่ดีควรเป็นอย่างไร ในการชี้แจงควรจะชี้แจงอย่างจริงจังเป็นระบบด้วยเครื่องไม้เครื่องมือที่มี ประสิทธิภาพ เช่นต้องขอความร่วมมือให้มีการใช้ทีวีพูล มีการใช้วิทยุรวมการเฉพาะกิจ ขอความร่วมมือจากสถานีวิทยุต่างๆให้มีความร่วมมือในการที่เผยแผ่ข้อมูล ข่าวสารอย่างจริงจังทั้งระบบ

กระทำอย่างต่อเนื่องอย่างเหมาะสมและต่อ เนื่อง เพื่อให้คนในสังคมรู้ว่าจะรับมือกับปัญหานี้อย่างไร ผมคิดว่าหากได้มีการพยายามทางยุทธศาสตร์วางแผนอย่างเป็นระบบ มีการบัญชาการสั่งการอย่างจริงจัง รวมทั้งชี้แจงข้อมูลอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาให้ประชาชนเข้าใจข้อเท็จจริง รวมทั้งข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ทั้งหลายอย่างเพียงพอ ประชาชนก็จะลดความวิตกกังวลลดความเครียดลงไป ก็คงจะไม่ได้ตำหนิอะไรรัฐบาลมากมายอย่างที่เป็นอยู่ เพราะว่าประชาชนย่อมจะรู้อยู่ว่าปัญหานี้เป็นเรื่องที่หลายหลายส่วนก็เป็น เรื่องสุดวิสัยที่ใครจะทำอะไรได้

ถ้าแต่หากว่ายังปล่อยให้อยู่ในสภาพ ที่ไม่มีการบริหารจัดการที่ดีไม่มีการบัญชาการสั่งการที่ดี ไม่มีการประชาสัมพันธ์ที่ดี มีสภาพอย่างที่เป็นอยู่ คนก็จะรู้สึกตำหนิรัฐบาลมากยิ่งขึ้นๆ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเท่ากับว่า จะทำอย่างไร จะช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว และที่จะเกิดขึ้นจากโรคนี้ในวันข้างหน้า

สิ่งสำคัญคือว่า จะทำอย่างไรที่จะช่วยกันป้องกันลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นและที่จะเกิดขึ้นจาก โรคนี้ ประเด็นสุดท้าย ทั้งหมดนี้จะเริ่มที่ไหน ผมคิดว่าก็ต้องเริ่มที่นายกรัฐมนตรี
..........
แหล่งอ้างอิง
http://www.flutrackers.com/forum/
http://www.pandemicflu.gov/
http://www.hhs.gov/pandemicflu/
......
ข่าวประชาสัมพันธ์กิจกรรม

สถาบันศึกษาการพัฒนาประชาธิปไตย ร่วมกับสถาบันเพื่อการศึกษาและพัฒนาท้องถิ่น ขอเชิญร่วมฟังการอภิปราย

หัวข้อ "การล่มสลายของประชาธิปไตยไทย : จุดเริ่มต้นในการแสวงหาประชาธิปไตย"วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม 2552 ณ โรงแรมสุริวงศ์ จ.เชียงใหม่

กำหนดการ

12.00 น. ลงทะเบียน

13.00 น. กล่าวเปิดงานโดย สถาบันเพื่อการศึกษาและพัฒนาท้องถิ่น

รศ.ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง

13.15 น. กล่าวนำการอภิปรายโดย คุณจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ศึกษาธิการ อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย

13.30 น. เริ่มการอภิปราย " การล่มสลายของประชาธิปไตยไทย : จุดเริ่มต้นในการแสวงหาประชาธิปไตย"

ดร.สุชาติ ธาดาดำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
รศ.ดร.วรพล พรหมมิกบุตร คณะมานุษยวิทยาและสังคมวิทยาธรรมศาสตร์
รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อ.คณิน บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 40 และอดีตส.ส.หลายสมัย
คุณจอม เพชรประดับ ผู้ดำเนินรายการ

16.30 น. กล่าวขอบคุณ

http://thaienews.blogspot.com/

สถาบันปรีดีฯเชิญร่วมงานเผยแพร่เกียรติคุณสุพจน์ ด่านตระกูล


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
11 กรกฎาคม 2552

สถาบันปรีดี พนมยงค์ ขอเชิญร่วมงานเผยแพร่เกียรติคุณ สุพจน์ ด่านตระกูล วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม 2552 นี้


โครงการเผยแพร่งานเขียนคุณสุพจน์ ด่านตระกูล ครั้งที่ ๑

แนะนำหนังสือ ชีวิตและงานของ ดร. ปรีดี พนมยงค์ รวบรวมโดย สุพจน์ ด่านตระกูล

วันอาทิตย์ที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๒
ณ สถาบัน ปรีดี พนมยงค์
ถนนสุขุมวิท ซอยทองหล่อ (๕๕)
โทร. ๐๒ ๓๘๑-๓๘๖๐-๑
email: banomyong_inst@yahoo.com

กำหนดการ

๑๑.๐๐ น. นิทรรศการ สุพจน์ ด่านตระกูล เสมือนสายฝนชโลมใจคนที่รักสัจจะ (ชีวิตและงานของสุพจน์ ด่านตระกูล) ณ โถงแสดงนิทรรศการ

๑๑.๐๐ น. กิจกรรมวาดภาพเหมือน

๑๓.๐๐ น. ลงทะเบียนสื่อมวลชน ณ ห้องประชุมพูนศุข พนมยงค์

๑๓.๓๐ น. คุณวัฒนา ชัยชนะสกุล กล่าวต้อนรับผู้ร่วมงานและแนะนำความเป็นมาของงาน

๑๓.๓๕ น. คุณศักดิชัย บำรุงพงศ์ กล่าวเปิดงาน

๑๓.๔๕ น. DVD Presentation รำลึกสุพจน์ ด่านตระกูล

๑๓.๕๕ น. การแสดงจินตลีลาประกอบเพลง คนดีมีค่า

๑๔.๐๕ น. การแสดงเดี่ยวทรัมเป็ตเพลง ลา มาร์ซาแยซ (La Marseillaise)

๑๔.๑๕ น. อภิปราย รู้จัก อ. ปรีดีฯ จากงานเขียนของคุณสุพจน์ ด่านตระกูล
- ดร. สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ
- ดร. ประสิทธิ์ ปิวาวัฒนพานิช
- คุณ ชูพงศ์ ถี่ถ้วน
- คุณ วันไททิพย์ ด่านตระกูล
- คุณ ชมัยภร แสงกระจ่าง ดำเนินการอภิปราย

๑๗.๑๐ – ๑๗.๓๐ น. ผู้ฟังร่วมแสดงความคิดเห็น

สถาบันปรีดี พนมยงค์

65/1 ซอยทองหล่อ ถนนสุขุมวิท55 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์02-2381-3860-1 Fax : 02-2381-3859
email : banomyong_inst@yahoo.com
website : www.pridiinstitute.com
.......
ข่าวเกี่ยวเนื่องที่ไทยอีนิวส์เคยนำเสนอ
-สุพจน์ ด่านตระกูล ส่งต่อคบเพลิงการอภิวัฒน์ที่สมบูรณ์สู่ชนรุ่นหลังก่อนสิ้นบุญสงบ
-สานต่อเจตนาลุงสุพจน์ให้สมบูรณ์:สืบสายธารการอภิวัฒน์คณะราษฎร์2475
-สถาบันปรีดีเชิดชูเกียรติลุงสุพจน์ยิ่งใหญ่ จัดงานรำลึก
(เนื่องจากถูกictบล็อกปิดกั้นเวบ กรุณาเสิร์ซหาทางgoogle)