พบศพชายลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ปากถูกผ้าขนหนูขนาดใหญ่ผูกปิดปากอยู่ ส่วนมือทั้งสองข้างถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกไนลอนสีน้ำเงิน และมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็ง ตรวจสอบพบว่าหายหลังจากที่ร่วมชุมนุมกับเสื้อแดงที่ทำเนียบ
เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 15 เมษายน พ.ต.ท.วิรัตน์ เพ็ชรรัตน์ สารวัตรเวร สน.บวรมงคล รับแจ้งเหตุพบศพชายลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.สส.บก.น.7 พ.ต.ท.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ รอง ผกก.สส.บก.น.7 แพทย์ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำศพจากแม่น้ำมาขึ้นที่ริมตลิ่งฝั่งพระนคร โดยพบว่าเป็นศพชาย สภาพขึ้นอืด สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงผ้าขายาวสีดำสวมเข็มขัด โดยหัวเข็มขัดระบุตัวอักษรว่า กรุงไทย กรุ๊ป ส่วนที่ปากถูกผ้าขนหนูขนาดใหญ่ผูกปิดปากอยู่ ส่วนมือทั้งสองข้างถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกไนลอนสีน้ำเงิน และมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งบริเวณกลางศีรษะ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า กรุงไทย กรุ๊ป คือ บริษัท กรุงไทยธุรกิจบริหาร ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและอยู่ในเครือธนาคารกรุงไทย ตั้งอยู่ย่านลาดพร้าว 106 แต่วันนี้เป็นวันหยุดทำการจึงต้องใช้เวลาในการติดตามหาพนักงานบริษัทเพื่อ สอบสวนยืนยันว่าผู้ตายเป็นใคร แต่ขณะที่ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.7 กำลังสืบหาพยานอยู่นั้น พ.ต.ท.วิรัตน์ ก็ได้รับแจ้งเหตุพบศพลอยน้ำในจุดใกล้เคียงกันกับศพแรก
โดยเมื่อเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำศพขึ้นมาตรวจสอบที่ริมตลิ่งฝั่งธนบุรี สภาพศพขึ้นอืด สวมเสื้อยืดสีดำ มีภาพและอักษรภาษาอังกฤษสกรีนบนเสื้อว่า RESCUE กางเกงผ้าขายาวสีดำ สวมถุงเท้าดำ ส่วนที่ปากมีผ้าขนหนูสีขาวมัดทับด้วยผ้าสีเหลืองปิดปากไว้แน่น ส่วนมือทั้งสองข้างถูกเชือกไนลอนสีน้ำเงินมัดไพล่หลัง ลักษณะเหมือนกับศพแรกที่พบ ตามลำตัว แขน และใบหน้ามีรอยปูดบวมเขียวช้ำ
สอบสวนหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัย รวมทั้งพนักงานรักษาความปลอดภัยบริษัท กรุงไทยธุรกิจบริการ ซึ่งเดินทางมาดูศพในที่เกิดเหตุยืนยันว่า ศพที่พบ คือ นายนัฐพงษ์ ปองดี หรือ แก๊บ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 2 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ส่วนศพแรกที่พบเมื่อช่วงเช้านั้นคือ นายชัยพร กันทัง หรือ โจ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 287/2 หมู่ 3 ต.บ้านหนุน อ.สอง จ.แพร่ ทั้งสองเป็นพนักงานของบริษัท โดยเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้งสองได้บอกกับเพื่อนๆว่าจะเดินทางมาร่วมชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลแต่ หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้ โดยญาติของนายนัฐพงษ์ได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่วนนายชัยพรนั้นยังไม่พบว่ามีการแจ้งหายแต่อย่างใด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการชีวิตครั้งนี้ รวมทั้งตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่า ก่อนมาพบศพนั้นทั้งสองได้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณทำเนียบ รัฐบาลจริงหรือไม่ และมีพยานรายใดรู้เห็นบ้าง ส่วนจุดที่มีการทำร้ายหรือถูกโยนลงน้ำนั้นยังไม่สามารถระบุได้ แต่ในเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมแต่จะเสียชีวิตก่อนถูกโยนลงน้ำ หรือถูกจับถ่วงน้ำจนเสียชีวิตนั้นต้องรอผลการชันสูตรอย่างละเอียดจากสถาบัน นิติเวช โรงพยาบาลศิริราชอีกครั้ง
เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 15 เมษายน พ.ต.ท.วิรัตน์ เพ็ชรรัตน์ สารวัตรเวร สน.บวรมงคล รับแจ้งเหตุพบศพชายลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.สส.บก.น.7 พ.ต.ท.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ รอง ผกก.สส.บก.น.7 แพทย์ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำศพจากแม่น้ำมาขึ้นที่ริมตลิ่งฝั่งพระนคร โดยพบว่าเป็นศพชาย สภาพขึ้นอืด สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงผ้าขายาวสีดำสวมเข็มขัด โดยหัวเข็มขัดระบุตัวอักษรว่า กรุงไทย กรุ๊ป ส่วนที่ปากถูกผ้าขนหนูขนาดใหญ่ผูกปิดปากอยู่ ส่วนมือทั้งสองข้างถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกไนลอนสีน้ำเงิน และมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งบริเวณกลางศีรษะ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า กรุงไทย กรุ๊ป คือ บริษัท กรุงไทยธุรกิจบริหาร ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและอยู่ในเครือธนาคารกรุงไทย ตั้งอยู่ย่านลาดพร้าว 106 แต่วันนี้เป็นวันหยุดทำการจึงต้องใช้เวลาในการติดตามหาพนักงานบริษัทเพื่อ สอบสวนยืนยันว่าผู้ตายเป็นใคร แต่ขณะที่ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.7 กำลังสืบหาพยานอยู่นั้น พ.ต.ท.วิรัตน์ ก็ได้รับแจ้งเหตุพบศพลอยน้ำในจุดใกล้เคียงกันกับศพแรก
โดยเมื่อเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำศพขึ้นมาตรวจสอบที่ริมตลิ่งฝั่งธนบุรี สภาพศพขึ้นอืด สวมเสื้อยืดสีดำ มีภาพและอักษรภาษาอังกฤษสกรีนบนเสื้อว่า RESCUE กางเกงผ้าขายาวสีดำ สวมถุงเท้าดำ ส่วนที่ปากมีผ้าขนหนูสีขาวมัดทับด้วยผ้าสีเหลืองปิดปากไว้แน่น ส่วนมือทั้งสองข้างถูกเชือกไนลอนสีน้ำเงินมัดไพล่หลัง ลักษณะเหมือนกับศพแรกที่พบ ตามลำตัว แขน และใบหน้ามีรอยปูดบวมเขียวช้ำ
สอบสวนหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัย รวมทั้งพนักงานรักษาความปลอดภัยบริษัท กรุงไทยธุรกิจบริการ ซึ่งเดินทางมาดูศพในที่เกิดเหตุยืนยันว่า ศพที่พบ คือ นายนัฐพงษ์ ปองดี หรือ แก๊บ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 2 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ส่วนศพแรกที่พบเมื่อช่วงเช้านั้นคือ นายชัยพร กันทัง หรือ โจ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 287/2 หมู่ 3 ต.บ้านหนุน อ.สอง จ.แพร่ ทั้งสองเป็นพนักงานของบริษัท โดยเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้งสองได้บอกกับเพื่อนๆว่าจะเดินทางมาร่วมชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลแต่ หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้ โดยญาติของนายนัฐพงษ์ได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่วนนายชัยพรนั้นยังไม่พบว่ามีการแจ้งหายแต่อย่างใด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการชีวิตครั้งนี้ รวมทั้งตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่า ก่อนมาพบศพนั้นทั้งสองได้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณทำเนียบ รัฐบาลจริงหรือไม่ และมีพยานรายใดรู้เห็นบ้าง ส่วนจุดที่มีการทำร้ายหรือถูกโยนลงน้ำนั้นยังไม่สามารถระบุได้ แต่ในเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมแต่จะเสียชีวิตก่อนถูกโยนลงน้ำ หรือถูกจับถ่วงน้ำจนเสียชีวิตนั้นต้องรอผลการชันสูตรอย่างละเอียดจากสถาบัน นิติเวช โรงพยาบาลศิริราชอีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น