CBOX เสรีชน

13 กันยายน, 2552

“ตำรวจ” หมดกำลังใจ เมื่อ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดกรณีสลายม๊อบ 7 ตุลา



โดย พระพยอม กัลยาโณ
เป็นเรื่องเสียดแทงหัวใจตำรวจทั้งกรม โดยเฉพาะตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น เมื่อเจ้านาย (พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ) ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลา



ในที่สุดนายตำรวจใหญ่อย่าง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ต้องลาออกจากราชการ หลังจากถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดทางอาญาเกี่ยวกับการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ รวมทั้งแรงบีบจากคำสั่งย้ายมาช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนบุคคลที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดมีทั้งอดีตนายกฯสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตรองนายกฯชวลิต ยงใจยุทธ หรือพ่อใหญ่จิ๋ว และนายตำรวจอีก 2-3 คน เรียกว่าต้องมารับกรรมกันตอนแก่

อาตมานั่งดูรายการโทรทัศน์ดาวเทียม ช่องหนึ่งรายงานเกือบตลอดทั้งวัน โดยแต่ละช่วงของรายการจะมีการออกมาอัดตำรวจเสียจนยับเยินเกี่ยวกับการสลาย การชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลา รวมทั้งการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจในตอนนั้น หรือการตัดต่อถ้อยคำต่างๆที่ตำรวจท่านไหนเคยพูดถึงเหตุการณ์สลายม็อบว่า อย่างไร หากมีคำพูดของตำรวจท่านใดออกมาตำหนิการกระทำของม็อบ พิธีกรในรายการจะอัดกลับทันที และทิ้งท้ายด้วยคำว่าพวกเราไม่ให้ราคาอะไรตำรวจคนที่พูด



ตกลงว่าสถานการณ์แบบนี้ต้องการต้อนประเทศให้เข้าสู่ “มิคสัญญียุค” หรือว่า “กลียุค” กันเลยหรือ และยังเชื่อต่อไปอีกว่าเหตุการณ์ที่ได้เห็นและรับทราบข่าวการชี้มูลของ กรรมการ ป.ป.ช. ชุดที่สอบสวนคงไม่อยากเห็นการลุกขึ้นมาเผาบ้านเผาเมืองของม็อบต่างๆที่อาจจะ เกิดขึ้นอีกในคราวต่อๆไป เราเชื่อว่าฝูงชนในม็อบนั้นมีทั้งคนดีในระดับกลางและดีมากๆ และยังเชื่อว่าม็อบเลวก็มีเช่นกัน เลวในระดับกลางๆก็มี หรือเลวระยำที่สุดก็ยังมี แต่ว่าเป็นการกระทำเลวๆในม็อบที่มีคนดีๆอยู่กัน



ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการเผาบ้านเผาเมือง ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ตำรวจก็ถูกตบหัว ถูกถ่มน้ำลายใส่ ไม่รู้ว่าต่อไปจะเอารองเท้ามาเคาะหัวตำรวจเล่นหรือเปล่า ตำรวจคงไม่กล้ายุ่งอะไรกับม็อบ เพราะจะทำอะไรก็ไม่ได้ เกรงจะถูก ป.ป.ช. เล่นงาน

ตำรวจหลายคนบอกว่าเราไม่ได้เป็นหมาที่จะให้ใครมาเคาะหัวเล่น ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นไปตามอำเภอใจที่เขา (ม็อบ) ต้องการเยาะเย้ยถากถางเหมือนหมา ตำรวจหลายท่านเล่าให้อาตมาฟังว่าบางทีรู้สึกอัดอั้นแต่ทำอะไรไม่ได้ จึงบอกว่าเราเป็นเหมือนหมา ใครจะเคาะหัว ลูบหัวเล่นก็ได้ ก็ต้องทน



การกระทำที่ทำให้ตำรวจหมดศักดิ์ศรีอย่างนี้ หากคราวหน้าเกิดการประท้วงเดินขบวนเคลื่อนไหวเผาบ้านเผาเมือง ยึดที่นั่นที่นี่ แล้วจะมีตำรวจคนไหนอยากออกมาสกัดกั้น



คำพูดที่ว่าทำอะไรให้ถูกต้องตามระเบียบแบบแผนคงต้องเป็นตำรวจที่ เป็นพระอรหันต์ และต้องเป็นม็อบอรหันต์ นั่นแหละถึงจะเรียกว่ามีแต่เรื่องถูกต้องดีงาม



ที่ผ่านมาเราเห็นม็อบที่เกิดขึ้นในต่างประเทศแล้วใช่ไหมว่ามี เจ็บตายกันเยอะ แต่ไม่เห็นว่าตำรวจต้องออกไปรับโทษรับทัณฑ์ แต่ถ้าตำรวจคิดจะปล่อยก็ทำไม่ได้ มีความผิด ต้องปล่อยให้ม็อบปู้ยี่ปู้ยำบ้านเมืองอยู่ตลอดไป



เราคงเห็นว่าสถานการณ์ในปัจจุบันไม่ต่างอะไรกับการต้อนบ้านเมือง เข้าสู่ยุควิกฤต และก็ดูว่าจะเป็นวิกฤตถาวร มีคอลัมนิสต์ท่านหนึ่งเขียนไว้ว่าเหตุการณ์ความขัดแย้งของประเทศไทยในเวลา นี้เปรียบเหมือนเสียกรุงครั้งที่สองอะไรทำนองนั้น ซึ่งเป็นการอนุมานเอา อาจมีถูกบ้างผิดบ้าง แต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะถูกทั้งหมด



สถานการณ์อย่างนี้คงทำให้เจ้าหน้าที่ไม่มีขวัญกำลังใจที่จะเข้า ไปสกัดกั้นม็อบ ถ้าให้เขาเลือกรับโทษระหว่างโทษไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่กับโทษปฏิบัติรุนแรงจะเลือกข้อไหน เขาอาจเลือกรับโทษข้อละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะถ้าเลือกปฏิบัติแล้วผู้ชุมนุมก็ไม่เจ็บ ตัวเองก็คงไม่ผิด



แต่เมื่อทำแล้วเป็นธรรมดาของปุถุชนที่ต้องทำตามคำสั่ง และเมื่อเจอกับแรงกดดันอารมณ์ก็พาไป เพราะเป็นธรรมชาติของความหนาต่อหนา คือหนาไปด้วยกิเลส ถึงแม้ว่าจะวางระเบียบดีอย่างไรก็ตาม แต่สถานการณ์ทำให้เลี่ยงไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งอัดอั้นใจ อีกฝ่ายก็ย่ามใจ แล้วสองคำนี้มองเห็นกันหรือไม่ว่าคืออะไร แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ที่คนชนะย่อมอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยถากถาง ส่วนคนพ่ายแพ้ก็ต้องเจ็บแค้น



ในอีกปีสองปีนี้คงเป็นเรื่องยากที่ประเทศไทยจะหลุดพ้นจากความ เป็นมิคสัญญีหรือกลียุค คงจะต้องมีอะไรให้เห็น เพราะสถานการณ์ต้องเข้าหาสิ่งที่เรียกว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คงเป็นการบ่มเพาะเอาไว้อย่างหนัก



ในขณะที่คนถูกกล่าวร้าย คนที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด หลายคนก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้าย เคยทำคุณประโยชน์อย่างมากมายให้กับประเทศชาติ อาจจะผิดหนักในคราวนั้น แต่ความดีที่เคยทำ ที่เคยสะสมมาเพื่อบ้านเมือง จะไม่มีเหลือเลยหรือ เชื่อว่าล้านเปอร์เซ็นต์ที่ตำรวจผู้น้อยจะต้องมาเก็บอารมณ์ขมขื่น ที่อะไรๆตำรวจก็ต้องรับผิดเต็มๆ ไม่เคยได้ยินคำกล่าวจาก ป.ป.ช. ว่าถูกยั่วยุอย่างไร ได้ยินแต่เสียงตำรวจเลว ชั่ว ไม่เคยได้ยินว่าตำรวจที่ถูกขับรถไล่ชนเป็นอย่างไร ตำรวจที่ถูกแทงจนบาดเจ็บเป็นอย่างไรจากปากของ ป.ป.ช. กลายเป็นม็อบทำอะไรก็ดีงามทุกอย่าง ถูกต้องถูกเรื่อง แล้วอย่างนี้บ้านเมืองจะไม่เข้ามุมอับได้อย่างไร




เจริญพร



(ที่มา หนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ , 10 กันยายน 2552)

ไม่มีความคิดเห็น: