ประชาทรรศน์
26 ม.ค. 2009
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ลุกขึ้นอภิปรายในการประชุมร่วมรัฐสภาครั้งที่ 1 สมัยสามัญทั่วไป เพื่อให้ความเห็นชอบเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับความร่วมมือในกรอบอาเซียนและกา รวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน ที่มีนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานว่า ขณะนี้มีร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชการอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติมที่ประชาชนเสนอ มาแต่กลับไม่มีการหยิบยกพิจารณา ซึ่งการหยิบร่างขึ้นนี้ขึ้นมาถือว่าเป็นกำลังใจกับประชาชน ความรู้สึกอันนี้อยากให้รัฐสภาคำนึ่งถึง จึงอยากให้ประธานรัฐสภาหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณาก่อน เพราะกรอบความร่วมมืออาเซียนนั้น มีเอกสารจำนวนมากที่ต้องกลับไปอ่านไปพิจารณา ดังนั้น เราอย่าพึ่งสู่รู้ หรืออวดอ้างว่ารู้ แต่ต้องยอมรับความเป็นจริง จึงขอเสนอให้นำเรื่องที่ประชาชนเสนอขึ้นมาพิจารณาก่อนดีกว่า เพราะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาจ่อแล้ว ต้องรักษาสัจจะกับประชาชน
นอกจากนี้นายจตุพร ยังได้อภิปรายถึงความไม่สง่างามในการเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศของนายกษิต ภิรมย์ และตั้งคำถามต่อนายกฯว่า เหตุใดจึงได้ให้นายกษิต ขึ้นมาเป็นรมว.ต่างประเทศ ทั้งที่คนเก่งในพรรคประชาธิปัตย์มีมากมาย นอกจากนี้ยังมองว่าความไว้เนื้อเชื่อใจต่ออารยประเทศเป็นสิ่งสำคัญ หากรมว.ไทยมีอคติที่ไม่ดีต่อประเทศกัมพูชา แล้วการประชุมอาเซียนจะเกิดขึ้นได้อย่างไร คนทั้งโลกเห็นการกระทำของนายกษิตทีปิดสนามบิน ทำให้การท่องเที่ยวพัง ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาต่อการประชุมผู้นำอาเซียน
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เหมือนติดกระดุมผิดเม็ด ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นนายกฯก็ต้องมีปัญหา เพราะประเทศไทยจะเป็นประเทศเดียวที่ลงนามในสัญญาต่างๆ ไม่ได้ เนื่องจากมีเพียงกรอบการเจรจาเท่านั้น ซึ่งไม่มีสิทธิ์เซ็นสัญญา เพราะจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรคสอง ทันที
26 ม.ค. 2009
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ลุกขึ้นอภิปรายในการประชุมร่วมรัฐสภาครั้งที่ 1 สมัยสามัญทั่วไป เพื่อให้ความเห็นชอบเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับความร่วมมือในกรอบอาเซียนและกา รวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน ที่มีนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานว่า ขณะนี้มีร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชการอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติมที่ประชาชนเสนอ มาแต่กลับไม่มีการหยิบยกพิจารณา ซึ่งการหยิบร่างขึ้นนี้ขึ้นมาถือว่าเป็นกำลังใจกับประชาชน ความรู้สึกอันนี้อยากให้รัฐสภาคำนึ่งถึง จึงอยากให้ประธานรัฐสภาหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณาก่อน เพราะกรอบความร่วมมืออาเซียนนั้น มีเอกสารจำนวนมากที่ต้องกลับไปอ่านไปพิจารณา ดังนั้น เราอย่าพึ่งสู่รู้ หรืออวดอ้างว่ารู้ แต่ต้องยอมรับความเป็นจริง จึงขอเสนอให้นำเรื่องที่ประชาชนเสนอขึ้นมาพิจารณาก่อนดีกว่า เพราะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาจ่อแล้ว ต้องรักษาสัจจะกับประชาชน
นอกจากนี้นายจตุพร ยังได้อภิปรายถึงความไม่สง่างามในการเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศของนายกษิต ภิรมย์ และตั้งคำถามต่อนายกฯว่า เหตุใดจึงได้ให้นายกษิต ขึ้นมาเป็นรมว.ต่างประเทศ ทั้งที่คนเก่งในพรรคประชาธิปัตย์มีมากมาย นอกจากนี้ยังมองว่าความไว้เนื้อเชื่อใจต่ออารยประเทศเป็นสิ่งสำคัญ หากรมว.ไทยมีอคติที่ไม่ดีต่อประเทศกัมพูชา แล้วการประชุมอาเซียนจะเกิดขึ้นได้อย่างไร คนทั้งโลกเห็นการกระทำของนายกษิตทีปิดสนามบิน ทำให้การท่องเที่ยวพัง ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาต่อการประชุมผู้นำอาเซียน
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เหมือนติดกระดุมผิดเม็ด ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นนายกฯก็ต้องมีปัญหา เพราะประเทศไทยจะเป็นประเทศเดียวที่ลงนามในสัญญาต่างๆ ไม่ได้ เนื่องจากมีเพียงกรอบการเจรจาเท่านั้น ซึ่งไม่มีสิทธิ์เซ็นสัญญา เพราะจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรคสอง ทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น