ประชาทรรศน์
24 ม.ค. 2009
'ตรุษจีน'เยาวราชคึกสุดยอดชาวไทยเชื้อสายจีนแห่ช็อปวัน จ่ายแน่นตลาด ราคาเนื้อ - ผัก - ผลไม้ ปรับลดเอาใจประชาชน ทองเยาวราช สวนทางราคาถีบตัวสูงลิ่ว ชาวบ้านเททองขายล้นทะลัก บรรยากาศตลาดต่างจังหวัดไม่สดใจ ตั้งราคาสินค้าสูงอ้างของหายาก ชาวบ้านบุรีรัมย์งดหัวหมู แห่ซื้อสัตว์ปีกไม่หวั่นไข้หวัดนก
สีสันการจับจ่ายในช่วงเทศกาลตรุษตจีน ยังคงเป็นไปอย่างคึกคักแม้ในช่วงนี้จะอยู่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจก็ตาม โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ม.ค.) ที่วัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่ ถ.เยาวราช มีประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน จำนวนมากเดินทางมาไหว้พระขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล และรอรับเหรียญที่ทางวัดได้เตรียมมอบให้ในเทศกาลนี้ และฉลองครบรอบ 30 ปีการก่อตั้งวัด คือเหรียญ 'ฮก ลก ซิ่ว' ซึ่งเป็นเทพเจ้า 3 องค์ ซึ่งมีเพียงวันนี้เท่านั้น
ส่วนบรรยากาศของผู้มาซื้อเครื่องเซ่นไหว้ในเทศกาลตรุษจีน ประชาชนซื้อข้าวของคึกคักพอสมควร ซึ่งราคาไก่ เป็ด และเครื่องเซ่นไหว้ขยับเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ10 แต่ทั้งนี้ยังคงราคาสินค้า หห็ดหอมจากกิโลกรัมละ 400 บาทเหลือเพียงกิโลกรัมละ 280 บาท ขณะที่ ผลไม้ส่วนใหญ่ก็มีการปรับลดราคาลงเช่นกัน
ปชช.แห่ขายทองคำล้นเยาวราช
ขณะที่ร้านทองในย่านเยาวราชมีประชาชนแห่มาขายทองมากกว่าเดิม โดยนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวถึงบรรยากาศการซื้อขายทองคำช่วงตรุษจีน ว่า ราคาทองคำวันนี้สูงขึ้นประมาณ 400 บาทต่อทองคำน้ำหนัก 1 บาท ก็ทำให้มีผู้นำทองคำมาขายเพื่อทำกำไรค่อนข้างมาก โดยราคาทองแท่งอยู่ที่ 14,500-14,600 บาท ส่วนทองรูปพรรณ ราคาเฉลี่ยที่ 14,900-15,000 บาท โดยมีผู้มาขายมากกว่าซื้อ แต่ต้องรอดูวันจันทร์ที่คาดว่า ประชาชนจะมาซื้อทองไปมอบให้ญาติพี่น้องว่าจะคึกคักขึ้นหรือไม่ แต่หากเปรียบเทียบกับปีก่อน ถือว่าบรรยากาศไม่คึกคักมากนัก เพราะประชาชนวิตกปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้การซื้อขายทองคำไม่คึกคักเท่าที่ควร
ตลาดใต้ปรับราคาเนื้อสัตว์-ผัก-ผลไม้
ขณะที่ในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ตลาดทรัพย์สินพลาซ่าสงขลา ถนนนครใน อ.เมือง จ.สงขลา ชาวไทยเชื้อสายจีนออกมาจับจ่ายซื้อของเซ่นไหว้�ปรับราคาเนื้อสัตว์-ผัก-ผลไม้
ขณะที่ในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ตลาดทรัพย์สินพลาซ่าสงขลา ถนนนครใน อ.เมือง จ.สงขลา ชาวไทยเชื้อสายจีนออกมาจับจ่ายซื้อของเซ่นไหว้เพื่อเตรียมไหว้พระและ บรรพบุรุษ โดยในการจับจ่ายซื้อของเซ่นไหว้ในปีนี้ชาวไทยเชื้อสายจีนจะซื้อเฉพาะสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับนำไปเซ่นไหว้เท่านั้น เนื่องจากราคาสิ่งของเซ่นไหว้ ทั้งหมู ไก่ เป็ด ผัก ผลไม้ มีการปรับราคาสูงขึ้น โดยราคาหมูเนื้อแดงขายในราคา กก.ละ 110-120 บาท หัวหมูไหว้เจ้า กก.ละ 65 -70 บาท จากเดิม 60 บาท ส่วนไก่ ซึ่งเป็นตัวหลักในกะพงขาว ขนาด 1 กก.กก.ละ 200 บาท
ด้านผักมีบางชนิดที่มีการปรับราคาสูงขึ้น ได้แก่ ต้นกระเทียมจีน กก.ละ 100 บาท ต้นกึ้นไฉ้และผักชี ราคา กก.ละ 60 -70 บาท ต้นหอม กก.ละ 40 บาท ส่วนผักอื่นยังราคาปรกติ สำหรับผลไม้ที่ปรับราคาสูงขึ้นทุกชนิด เช่น ส้มโชกุน กก.ละ 65 บาท นอกจากนี้ยังมีขนมเข่ง ขนมเทียน ซึ่งเป็นขนมที่ใช้ไหว้เจ้าช่วงตรุษจีนก็อยู่ในราคาปกติ โดยขนมเข่งราคา กก.ละ 70 บาท ขนมเทียนลึ้นทุกชนิด เช่น ส้มโชกุน กก.ละ 65 บาท นอกจากนี้ยังมีขนมเข่ง ขนมเทียน ซึ่งเป็นขนมที่ใช้ไหว้เจ้าช่วงตรุษจีนก็อยู่ในราคาปกติ โดยขนมเข่งราคา กก.ละ 70 บาท ขนมเทียนลูกละ 4 บาท ราคาเท่ากับปีที่ผ่านมา
ปชช.พิจิตรคึกคักไก่สดขายดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองพิจิตร ชาวไทย เชื้อสายจีนพากันออกมาจับจ่ายซื้อเครื่องเซ่นไหว้ เทศกาลตรุษจีนตั้งแต่เช้า โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ชาวไทยเชื้อสายจีนต่างพากันมาซื้อเครื่องเซ่นไหว้ โดยเฉพาะไก่สดอย่างเนืองแน่น ต่างกับหลายปีที่ผ่านมาที่ในช่วงนี้มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับโรคไข้หวัดนก แต่ในปีนี้ไม่มีโรคเกิดขึ้นจึงทำให้ประชาชนพากันซื้อได้อย่างสบายใจ จนทำให้พ่อค้าแม่ค้า ต้องสั่งไก่สดมาเพิ่มตลอดเวลา เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยราคาไก่ไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด โดยปีนี้ประชาชนต่างพากันซื้อไก่แบบยกตัว หมูเป็นกิโลกรัม ต่างกับปีที่ผ่านมา ที่หลายคนซื้อไก่เพียงครึ่งตัว หมูเพียง 1 ชิ้นไปเซ่นไหว้ สวนทางกับกระแสเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันร้ายขายเนื้อของชาวอิสลามที่ตั้งแผงขายใกล้เคียงกับแผงขายหมูและ ไก่ ต่างก็พากันเงียบเหงา เทียบความแตกต่างได้อย่างชัดเจน โดยผู้ค้าระบุว่าขายได้น้อยมาก
ตลาดบุรีรัมย์หง๋อย-แม่ค้าหัวหมูคอตก
ด้านบรรย�ขณะที่ ราคาเป็ด ไก่ ได้ปรับราคาสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 120 บาท จากปกติมีราคาเพียงกิโลกรัมละ 100 บาท โดยกลุ่มแม่ค้า อ้างว่า รับซื้อมาในราคาแพงถึงกิโลกรัมละ 70-80 บาทเพิ่มจากเดิม 50-60 บาท เนื่องจากสินค้าหายาก
ขณะที่มีรายงานว่าแม่ค้า-พ่อค้าจำหน่ายหมูในตลาดดังกล่าว เปิดเผยว่าในเทศกาลตรุษจีน ปีนี้ยังไม่มีผู้ใด มาสั่งจองหัวหมู เพื่อนำไปเซ่นไหว้แม้แต่รายเดียว ซึ่งต่างจ�ีรายงานว่าแม่ค้า-พ่อค้าจำหน่ายหมูในตลาดดังกล่าว เปิดเผยว่าในเทศกาลตรุษจีน ปีนี้ยังไม่มีผู้ใด มาสั่งจองหัวหมู เพื่อนำไปเซ่นไหว้แม้แต่รายเดียว ซึ่งต่างจากทุกปีที่ผ่านมาจะมาสั่งจองไว้ประมาณ 40-50 หัว ทั้งนี้ยังมีการคาการณ์ว่า ในปีนี้น่าจะมีการหันไปใช้ผลไม้ในการเซ่นไหว้มากกว่าที่จะใช้เป็ด ไก่ ซึ่งมีราคาแพงกว่า ประกอบกับ บางส่วนยังมีความหวาดกลัวกับโรคไข้หวัดนก
24 ม.ค. 2009
'ตรุษจีน'เยาวราชคึกสุดยอดชาวไทยเชื้อสายจีนแห่ช็อปวัน จ่ายแน่นตลาด ราคาเนื้อ - ผัก - ผลไม้ ปรับลดเอาใจประชาชน ทองเยาวราช สวนทางราคาถีบตัวสูงลิ่ว ชาวบ้านเททองขายล้นทะลัก บรรยากาศตลาดต่างจังหวัดไม่สดใจ ตั้งราคาสินค้าสูงอ้างของหายาก ชาวบ้านบุรีรัมย์งดหัวหมู แห่ซื้อสัตว์ปีกไม่หวั่นไข้หวัดนก
สีสันการจับจ่ายในช่วงเทศกาลตรุษตจีน ยังคงเป็นไปอย่างคึกคักแม้ในช่วงนี้จะอยู่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจก็ตาม โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ม.ค.) ที่วัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่ ถ.เยาวราช มีประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน จำนวนมากเดินทางมาไหว้พระขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล และรอรับเหรียญที่ทางวัดได้เตรียมมอบให้ในเทศกาลนี้ และฉลองครบรอบ 30 ปีการก่อตั้งวัด คือเหรียญ 'ฮก ลก ซิ่ว' ซึ่งเป็นเทพเจ้า 3 องค์ ซึ่งมีเพียงวันนี้เท่านั้น
ส่วนบรรยากาศของผู้มาซื้อเครื่องเซ่นไหว้ในเทศกาลตรุษจีน ประชาชนซื้อข้าวของคึกคักพอสมควร ซึ่งราคาไก่ เป็ด และเครื่องเซ่นไหว้ขยับเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ10 แต่ทั้งนี้ยังคงราคาสินค้า หห็ดหอมจากกิโลกรัมละ 400 บาทเหลือเพียงกิโลกรัมละ 280 บาท ขณะที่ ผลไม้ส่วนใหญ่ก็มีการปรับลดราคาลงเช่นกัน
ปชช.แห่ขายทองคำล้นเยาวราช
ขณะที่ร้านทองในย่านเยาวราชมีประชาชนแห่มาขายทองมากกว่าเดิม โดยนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวถึงบรรยากาศการซื้อขายทองคำช่วงตรุษจีน ว่า ราคาทองคำวันนี้สูงขึ้นประมาณ 400 บาทต่อทองคำน้ำหนัก 1 บาท ก็ทำให้มีผู้นำทองคำมาขายเพื่อทำกำไรค่อนข้างมาก โดยราคาทองแท่งอยู่ที่ 14,500-14,600 บาท ส่วนทองรูปพรรณ ราคาเฉลี่ยที่ 14,900-15,000 บาท โดยมีผู้มาขายมากกว่าซื้อ แต่ต้องรอดูวันจันทร์ที่คาดว่า ประชาชนจะมาซื้อทองไปมอบให้ญาติพี่น้องว่าจะคึกคักขึ้นหรือไม่ แต่หากเปรียบเทียบกับปีก่อน ถือว่าบรรยากาศไม่คึกคักมากนัก เพราะประชาชนวิตกปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้การซื้อขายทองคำไม่คึกคักเท่าที่ควร
ตลาดใต้ปรับราคาเนื้อสัตว์-ผัก-ผลไม้
ขณะที่ในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ตลาดทรัพย์สินพลาซ่าสงขลา ถนนนครใน อ.เมือง จ.สงขลา ชาวไทยเชื้อสายจีนออกมาจับจ่ายซื้อของเซ่นไหว้�ปรับราคาเนื้อสัตว์-ผัก-ผลไม้
ขณะที่ในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ตลาดทรัพย์สินพลาซ่าสงขลา ถนนนครใน อ.เมือง จ.สงขลา ชาวไทยเชื้อสายจีนออกมาจับจ่ายซื้อของเซ่นไหว้เพื่อเตรียมไหว้พระและ บรรพบุรุษ โดยในการจับจ่ายซื้อของเซ่นไหว้ในปีนี้ชาวไทยเชื้อสายจีนจะซื้อเฉพาะสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับนำไปเซ่นไหว้เท่านั้น เนื่องจากราคาสิ่งของเซ่นไหว้ ทั้งหมู ไก่ เป็ด ผัก ผลไม้ มีการปรับราคาสูงขึ้น โดยราคาหมูเนื้อแดงขายในราคา กก.ละ 110-120 บาท หัวหมูไหว้เจ้า กก.ละ 65 -70 บาท จากเดิม 60 บาท ส่วนไก่ ซึ่งเป็นตัวหลักในกะพงขาว ขนาด 1 กก.กก.ละ 200 บาท
ด้านผักมีบางชนิดที่มีการปรับราคาสูงขึ้น ได้แก่ ต้นกระเทียมจีน กก.ละ 100 บาท ต้นกึ้นไฉ้และผักชี ราคา กก.ละ 60 -70 บาท ต้นหอม กก.ละ 40 บาท ส่วนผักอื่นยังราคาปรกติ สำหรับผลไม้ที่ปรับราคาสูงขึ้นทุกชนิด เช่น ส้มโชกุน กก.ละ 65 บาท นอกจากนี้ยังมีขนมเข่ง ขนมเทียน ซึ่งเป็นขนมที่ใช้ไหว้เจ้าช่วงตรุษจีนก็อยู่ในราคาปกติ โดยขนมเข่งราคา กก.ละ 70 บาท ขนมเทียนลึ้นทุกชนิด เช่น ส้มโชกุน กก.ละ 65 บาท นอกจากนี้ยังมีขนมเข่ง ขนมเทียน ซึ่งเป็นขนมที่ใช้ไหว้เจ้าช่วงตรุษจีนก็อยู่ในราคาปกติ โดยขนมเข่งราคา กก.ละ 70 บาท ขนมเทียนลูกละ 4 บาท ราคาเท่ากับปีที่ผ่านมา
ปชช.พิจิตรคึกคักไก่สดขายดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองพิจิตร ชาวไทย เชื้อสายจีนพากันออกมาจับจ่ายซื้อเครื่องเซ่นไหว้ เทศกาลตรุษจีนตั้งแต่เช้า โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ชาวไทยเชื้อสายจีนต่างพากันมาซื้อเครื่องเซ่นไหว้ โดยเฉพาะไก่สดอย่างเนืองแน่น ต่างกับหลายปีที่ผ่านมาที่ในช่วงนี้มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับโรคไข้หวัดนก แต่ในปีนี้ไม่มีโรคเกิดขึ้นจึงทำให้ประชาชนพากันซื้อได้อย่างสบายใจ จนทำให้พ่อค้าแม่ค้า ต้องสั่งไก่สดมาเพิ่มตลอดเวลา เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยราคาไก่ไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด โดยปีนี้ประชาชนต่างพากันซื้อไก่แบบยกตัว หมูเป็นกิโลกรัม ต่างกับปีที่ผ่านมา ที่หลายคนซื้อไก่เพียงครึ่งตัว หมูเพียง 1 ชิ้นไปเซ่นไหว้ สวนทางกับกระแสเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันร้ายขายเนื้อของชาวอิสลามที่ตั้งแผงขายใกล้เคียงกับแผงขายหมูและ ไก่ ต่างก็พากันเงียบเหงา เทียบความแตกต่างได้อย่างชัดเจน โดยผู้ค้าระบุว่าขายได้น้อยมาก
ตลาดบุรีรัมย์หง๋อย-แม่ค้าหัวหมูคอตก
ด้านบรรย�ขณะที่ ราคาเป็ด ไก่ ได้ปรับราคาสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 120 บาท จากปกติมีราคาเพียงกิโลกรัมละ 100 บาท โดยกลุ่มแม่ค้า อ้างว่า รับซื้อมาในราคาแพงถึงกิโลกรัมละ 70-80 บาทเพิ่มจากเดิม 50-60 บาท เนื่องจากสินค้าหายาก
ขณะที่มีรายงานว่าแม่ค้า-พ่อค้าจำหน่ายหมูในตลาดดังกล่าว เปิดเผยว่าในเทศกาลตรุษจีน ปีนี้ยังไม่มีผู้ใด มาสั่งจองหัวหมู เพื่อนำไปเซ่นไหว้แม้แต่รายเดียว ซึ่งต่างจ�ีรายงานว่าแม่ค้า-พ่อค้าจำหน่ายหมูในตลาดดังกล่าว เปิดเผยว่าในเทศกาลตรุษจีน ปีนี้ยังไม่มีผู้ใด มาสั่งจองหัวหมู เพื่อนำไปเซ่นไหว้แม้แต่รายเดียว ซึ่งต่างจากทุกปีที่ผ่านมาจะมาสั่งจองไว้ประมาณ 40-50 หัว ทั้งนี้ยังมีการคาการณ์ว่า ในปีนี้น่าจะมีการหันไปใช้ผลไม้ในการเซ่นไหว้มากกว่าที่จะใช้เป็ด ไก่ ซึ่งมีราคาแพงกว่า ประกอบกับ บางส่วนยังมีความหวาดกลัวกับโรคไข้หวัดนก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น