จากกรณีที่สื่อต่างประเทศรายงานข่าวว่า ผู้รอดชีวิตจากเรือบรรทุกผู้อพยพกลุ่มน้อยโรฮิงยาส์ซึ่งถูกจับกุมที่บริเวณ เกาะทางตอนใต้ของประเทศไทย และกล่าวหาว่ากองทัพไทยได้จับพวกเขาลงเรือที่ไม่มีเครื่องยนต์และอาหาร โดยถูกผลักลงไปในเรือที่ปราศจากเครื่องยนต์ ขณะที่ถูกมัดมือไว้ ทำให้ผู้อพยพหลายคนต้องตายลงเนื่องจากพยายามที่จะว่ายกลับเข้าหาฝั่ง
พล ตำรวจ โท ชัชวาล สุขสมจิตร์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม. กล่าวถึงกรณีสื่อต่างประเทศเสนอข่าวทหารไทยกระทำการทารุณกรรมผู้อพยพชนกลุ่ม น้อยโรฮิงยาส์ ประเทศพม่าหลังหลบหนีเข้าประเทศไทยโดยผิดกฏหมายที่บริเวณชายฝั่งทะเลเกาะ ทรายแดง จังหวัดระนอง ว่า ในทางปฏิบัติหากมีการจับกุมตัวผู้ลักลอบเข้าเมือง ประเทศไทยไม่เคยละเมิดสิทธิ หรือใช้วิธีการทำให้เกิดความเสียหายกับคนต่างด้าว เมื่อมีการตรวจพบก็จะดำเนินการจับกุมโดยแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม.ให้ดำเนินการควบคุมตัวและประสานไปยังประเทศต้นทาง ในการส่งตัวกลับประเทศ ภายในเวลา 7 วันตามกฏหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดนทั้งนี้ตามมติของคณะรัฐมนตรี หากมีการจับกุมผู้อพยพชาวพม่า ลาว และกัมพูชา ทางรัฐบาลไทยไม่มีนโยบายดำเนินการฟ้องร้อง แต่ทาง สตม.จะกักตัวไว้และดำเนินการส่งกลับประเทศต่อไป เพราะหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นทางรัฐบาลก็จะต้องแบกรับภาระในการดูแล พล ตำรวจ โท ชัชวาล สุขสมจิตร์
อย่างไรก็ตามผู้บัญชาการสตม. กล่าวเพิ่มเติมถึงตัวเลขผู้อพยพที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายตามบริเวณแนว ชายแดน ที่มีการตรวจพบและจับกุมได้ประมาณ 2 แสนคนต่อปี และที่ไม่สามารถจับกุมตัวได้ก็มีจำนวนมากเช่นเดียวกัน
ด้านด้าน พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ยืนยันข่าวทหารเรือไทย ทารุณกับผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองพร้อมนำภาพถ่ายการจับกุมชาวโรฮิงยาส์ มาแสดงโดยปฎิเสธ ทารุณกับผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองกลุ่มนี้ ด้วยการปล่อยลอยลำกลางทะเลให้เสียชีวิตเป็นข่าวที่ไม่เป็นความจริง และไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่า ทหารเรือได้ดำเนินการอย่างมีมนุษยธรรม ส่วนภาพถ่ายที่สื่อมวลชนต่างประเทศนำมาแสดง อาจเป็นภาพจากนักท่องเที่ยวที่ไม่รู้ขั้นตอนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่
พล ตำรวจ โท ชัชวาล สุขสมจิตร์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม. กล่าวถึงกรณีสื่อต่างประเทศเสนอข่าวทหารไทยกระทำการทารุณกรรมผู้อพยพชนกลุ่ม น้อยโรฮิงยาส์ ประเทศพม่าหลังหลบหนีเข้าประเทศไทยโดยผิดกฏหมายที่บริเวณชายฝั่งทะเลเกาะ ทรายแดง จังหวัดระนอง ว่า ในทางปฏิบัติหากมีการจับกุมตัวผู้ลักลอบเข้าเมือง ประเทศไทยไม่เคยละเมิดสิทธิ หรือใช้วิธีการทำให้เกิดความเสียหายกับคนต่างด้าว เมื่อมีการตรวจพบก็จะดำเนินการจับกุมโดยแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม.ให้ดำเนินการควบคุมตัวและประสานไปยังประเทศต้นทาง ในการส่งตัวกลับประเทศ ภายในเวลา 7 วันตามกฏหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดนทั้งนี้ตามมติของคณะรัฐมนตรี หากมีการจับกุมผู้อพยพชาวพม่า ลาว และกัมพูชา ทางรัฐบาลไทยไม่มีนโยบายดำเนินการฟ้องร้อง แต่ทาง สตม.จะกักตัวไว้และดำเนินการส่งกลับประเทศต่อไป เพราะหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นทางรัฐบาลก็จะต้องแบกรับภาระในการดูแล พล ตำรวจ โท ชัชวาล สุขสมจิตร์
อย่างไรก็ตามผู้บัญชาการสตม. กล่าวเพิ่มเติมถึงตัวเลขผู้อพยพที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายตามบริเวณแนว ชายแดน ที่มีการตรวจพบและจับกุมได้ประมาณ 2 แสนคนต่อปี และที่ไม่สามารถจับกุมตัวได้ก็มีจำนวนมากเช่นเดียวกัน
ด้านด้าน พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ยืนยันข่าวทหารเรือไทย ทารุณกับผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองพร้อมนำภาพถ่ายการจับกุมชาวโรฮิงยาส์ มาแสดงโดยปฎิเสธ ทารุณกับผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองกลุ่มนี้ ด้วยการปล่อยลอยลำกลางทะเลให้เสียชีวิตเป็นข่าวที่ไม่เป็นความจริง และไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่า ทหารเรือได้ดำเนินการอย่างมีมนุษยธรรม ส่วนภาพถ่ายที่สื่อมวลชนต่างประเทศนำมาแสดง อาจเป็นภาพจากนักท่องเที่ยวที่ไม่รู้ขั้นตอนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น