CBOX เสรีชน

11 ตุลาคม, 2552

สีหนุเข้าถึงธรรมอริยะสัจ4 ขอสวรรคตให้เร็วที่สุด


อริยะสัจสี่-พระ ฉายาลักษณ์ล่าสุดของสมเด็จพระนโรดมสีหนุ อดีตกษัตริย์กัมพูชาเมื่อวันที่2กันยายนที่ผ่านมา เสด็จฯ กลับไปจีนเพื่อทรงรับถวายการตรวจพระสุขภาพ แม้พสกนิกรพากันอวยพรให้พระชนมายุยิ่งยืนนานนับ100ปี แต่ด้วยพระพลานามัยที่ถูกรุมเร้าด้วยโรคภัยหลายโรค พระองค์ทรงมีพระราชหัตถเลขาบันทึกว่าปรารถนาจะเสด็จสวรรคตในเร็ววันที่สุด โดยที่ไม่ต้องทรงทำอัตวินิบาตกรรม ซึ่งขัดกับหลักพุทธศาสนา


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา เวบผู้จัดการ
9 ตุลาคม 2552

สมเด็จ พระนโรดมสีหนุ ทรงมีพระประสงค์จะเสด็จสวรรคตในเร็ววัน โดยทรงระบุในพระราชหัตถเลขาชิ้นใหม่ ฉบับลงวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า เสียงแซ่ซร้องอวยพรให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานนั้น ไม่ได้ทำให้พระองค์ทรงพึงพอพระราชหฤทัยเลยแม้แต่น้อย



สมเด็จพระนโรดมสีหนุ ทรงอ้างถึงพระราชบิดา คือ พระเจ้านโรดมสุรามฤทธิ์ ว่า เสด็จสวรรคตในขณะมีพระชนมายุเพียง 64 พรรษา ส่วนพระอัยกา คือ สมเด็จพระเจ้าศรีสุวัฒน์ นั้น สวรรคตในขณะมีพระชนมายุ 83 พรรษา

“แต่สำหรับข้าพเจ้า มีความปรารถนาจะสวรรคตโดยเร็ววัน เพราะข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่มายาวนานแล้ว” เป็นความส่วนหนึ่งในพระราชหัตถเลขาของสมเด็จพระสีหนุ ที่กำลังจะมีพระชนมายุครบ 87 พรรษาในปลายเดือน ต.ค.นี้

อดีตกษัตริย์แห่งประเทศกัมพูชา ได้เสด็จไปประทับอยู่ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ครั้งล่าสุดต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเข้ารับการตรวจพระวรกายตามนัดหมายของแพทย์จีนที่ถวายการรักษา

ในพระราชหัตถเลขาฉบับนี้ ยังทรงบรรยายถึงความรู้สึกของพระองค์ไว้อีกว่า “ช่วงชีวิตที่ยาวนานของข้าพเจ้านี้เหมือนกับน้ำหนักที่ไม่สามารถจะแบกรับได้ ไหว”

นอกจากนั้น พระองค์ยังได้ทรงขอบใจเหล่าพสกนิกรที่ภักดีต่อพระองค์ ที่ถวายพระพรแด่พระองค์ให้พระองค์นั้นทรงมีพระชนมายุยืนยาวมากกว่า 100 พรรษา แต่พระองค์ไม่ทรงปรารถนาให้เป็นเช่นนั้น

สมเด็จพระนโรดมสีหนุ ทรงต้องทนทุกข์อยู่กับพระอาการประชวรจากโรคต่างๆ ทั้งมะเร็ง เบาหวาน และความดันพระโลหิตสูง ในเดือน ต.ค.2547 ได้สละราชบัลลังก์ให้กับพระโอรสของพระองค์เนื่องจากอาการประชวร และทรงมีพระชนม์พรรษามากแล้ว

อดีตกษัตริย์แห่งกัมพูชา ยังคงแสดงความคิดเห็นเรื่องราวต่างๆ ผ่านเว็บไซต์ส่วนพระองค์อยู่เป็นระยะๆ แต่ทรงงดการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของสมเด็จฯ ฮุนเซน มาเป็นเวลานานแล้ว และ ทรงเปลี่ยนมาเป็นยกย่องแทน

ระหว่างประทับในเมืองเสียมราฐเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา สมเด็จพระสีหนุ โปรดฯ ให้ท่านผู้หญิงบุนรานี-ฮุนเซน เข้าเฝ้าฯ และทรงถวายพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 5,000 ดอลลาร์ แก่ภริยาของนายกรัฐมนตรีฐานเป็นผู้ช่วยเหลือพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของ พสกนิกรมาตลอด และ ยังพระราชทานอีก 5,000 ดอลลาร์ ให้แก่สภากาชาดกัมพูชาอีกด้วย

ไม่นานก่อนหน้านี้ สมเด็จฯ สีหนุ ยังมีบันทึกยกย่องรัฐบาลสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่ป้องกันปราสาทพระวิหาร มิให้ตกเป็นของ “ผู้รุกราน” และยังทรงสรรเสริญทหารที่ประจำการบริเวณชายแดน ที่เสียสละอย่างสูงในการป้องกันเอกราชอธิปไตยของประเทศ

“หลายคนไม่รู้ว่าข้าพเจ้ารู้สึกอย่างไร เพื่อร่วมชาติจำนวนมากมายได้อวยพรให้ข้าพเจ้ามีอายุยืนกว่า 100 ปี ท่านสุภาพบุรุษสุภาพสตรีที่รักเหล่านี้ หลายคนยังอวยพรให้ข้าพเจ้าอยู่ไปถึง 300 ปี!!” สมเด็จพระสีหนุ กล่าว

“ด้วยความนับถือและความรัก โดยปราศจากการเสแสร้งใดๆ ข้าพเจ้าขอขอบใจเพื่อนร่วมชาติเหล่านี้”

“แต่ด้วยความสัตย์จริงและปราศจากการเสแสร้ง ข้าพเจ้าอยากจะขอให้ทุกๆ คน (ทั้งที่เป็นชาวเขมรและชาวต่างชาติ) ได้รับรู้ว่า คำอวยพรที่อยากจะให้ข้าพเจ้ามีอายุอยู่ไปอย่างยืนยาวต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้าพึงพอใจเลย สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการ ก็คือ ตายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยไม่ล่วงละเมิดพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ที่ทรงห้ามการทำอัตวินิบาตกรรม” อดีตกษัตริย์แห่งกัมพูชาทรงระบุในบันทึก

ในเดือน พ.ค.ปีนี้สมเด็จพระสีหนุ ทรงมีพระราชหัตถเลขาอีกฉบับหนึ่งกล่าวถึงการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งหลายชนิด ที่แพทย์จีนต้องถวายการรักษาสัปดาห์ละหลายครั้ง รวมทั้งการทำเคมีบำบัดด้วย

อีกฉบับหนึ่งในเดือน ธ.ค.2551 สมเด็จพระสีหนุ ทรงบอกเล่าเกี่ยวกับพระอาการประชวร และทรงพระชราภาพ และทรงตระหนักดีว่าใกล้จะสิ้นพระชนม์ชีพ พร้อมทั้งขอบคุณความเอื้อเฟื้อของมหามิตรจีนที่ถวายการรักษาด้วยนายแพทย์ พยาบาลผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนยาดีราคาแพงจากต่างประเทศ

หลักธรรมในพระ พุทธศาสนานั้นกล่าวว่ามนุษย์ปุถุชนย่อมวนเวียนอยู่ในวัฏจักรเกิด แก่ เจ็บ ตาย หรืออริยะสัจ4เป็นปกติอนิจจัง ยกเว้นแต่จะหันเข้าทางพระพุทธศาสนาชั้นสูงขึ้นคือการนิพพานให้พ้นไปจาก วัฏจักรนี้ แต่ก็กล่าวว่าการฆ่าตัวตายนั้นเป็นบาปมหันต์ เช่นกัน


ไม่มีความคิดเห็น: