17 ม.ค. 52 - นาย สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พระพิศาลธรรมพาที หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ไปจัดรายการสนทนาธรรมทางดีทีวี เพราะความสัมพันธ์ของพระพยอมกับขบวนการเสื้อแดงเครือข่ายระบอบทักษิณมีความ ใกล้ชิดกันมาก่อน มาถึงวันนี้ก็ชัดเจนดีถือว่าเป็นการเปิดหน้าไม่ต้องลับลวงพรางทำให้ประชาชน เห็นว่าใครเป็นใครและคิดอะไร
ส่วน ที่พระพยอมระบุว่ารัฐบาลเป็นลูกหนี้พันธมิตรฯ นั้น ไม่เป็นความจริงเพราะพันธมิตรฯ ไม่เคยไปทวงบุญทวงคุณจากรัฐบาล พวกเราต่อสู้อย่างยืดเยื้อเพื่อเอาการเมืองออกมาจากระบอบทักษิณคืนสู่ ประชาชน ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเขาพระวิหาร เรื่องการทวงคืนรัฐวิสาหกิจ ทรัพย์สินของแผ่นดินที่ถูกโกงไป การคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือแม้แต่การเมืองใหม่ ฯลฯ
"ผม อยากเรียนถามพระพยอมกลับว่า ประเด็นเหล่านี้เป็นผลประโยชน์ส่วนตัวของพันธมิตรหรืออย่างไร ในทางตรงกันข้ามนี่กลับเป็นผลประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศด้วยซ้ำไป" นายสุริยะใส กล่าว
นาย สุริยะใส กล่าวว่า ส่วนการพูดจาพาดพิงพระพยอมในเวทีพันธมิตรฯ นั้นก็เป็นการวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของท่านเป็นบางครั้งเท่านั้น ซึ่งท่านก็ต้องกลับไปไตร่ตรองดูว่าการวางบทบาทในบางสถานการณ์ทำให้สังคมเข้า ใจผิดและเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ และที่ผ่านมาท่านก็ใช้สิทธิชี้แจงผ่านสื่อเป็นระยะๆ อยู่แล้ว ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าจะเชื่อใครดี เว้นแต่ท่านชี้แจงแล้วสังคมอาจจะไม่เห็นด้วยหรือฟังไม่ขึ้นเท่านั้นเอง
เมื่อ ท่านเลือกเข้ามาคลุกคลีการเมืองท่านก็ต้องยอมรับสัจธรรมพร้อมถูกวิพากษ์ วิจารณ์ได้ตลอดเวลา ส่วนการ เชิญท่าน ว.วชิรเมธี หลวงปู่พุทธะอิสระ หรือท่านจันทร์มาร่วมรายการทางเอเอสทีวีนั้น อยากให้พระพยอมไปดูเนื้อหาการเทศนาธรรมของพระเหล่านี้ด้วยว่าไม่ได้บิดเบือน หรือมุ่งโจมตีเสื้อแดง แต่เป็นความพยายามเตือนสติสังคมหรือแม้แต่คนเสื้อเหลืองของพันธมิตรฯ เองก็ตาม
"ผม เป็นห่วงพระพยอมท่านเป็นพระผู้ใหญ่ ท่านมีสิทธิที่จะพูดเรื่องการเมือง แต่ท่านต้องไม่พูดเท็จหรือพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะท่านเป็นพระห่มผ้าเหลือง และท่านก็คงทราบดีว่าผู้ที่ครองตนในเพศบรรพชิตพูดจาสองแง่สองง่ามก็ผิดศีล หรือเข้าข่ายมุสาได้เช่นกัน" ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าว
ที่มา: เว็บไซต์แนวหน้า, เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์
ส่วน ที่พระพยอมระบุว่ารัฐบาลเป็นลูกหนี้พันธมิตรฯ นั้น ไม่เป็นความจริงเพราะพันธมิตรฯ ไม่เคยไปทวงบุญทวงคุณจากรัฐบาล พวกเราต่อสู้อย่างยืดเยื้อเพื่อเอาการเมืองออกมาจากระบอบทักษิณคืนสู่ ประชาชน ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเขาพระวิหาร เรื่องการทวงคืนรัฐวิสาหกิจ ทรัพย์สินของแผ่นดินที่ถูกโกงไป การคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือแม้แต่การเมืองใหม่ ฯลฯ
"ผม อยากเรียนถามพระพยอมกลับว่า ประเด็นเหล่านี้เป็นผลประโยชน์ส่วนตัวของพันธมิตรหรืออย่างไร ในทางตรงกันข้ามนี่กลับเป็นผลประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศด้วยซ้ำไป" นายสุริยะใส กล่าว
นาย สุริยะใส กล่าวว่า ส่วนการพูดจาพาดพิงพระพยอมในเวทีพันธมิตรฯ นั้นก็เป็นการวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของท่านเป็นบางครั้งเท่านั้น ซึ่งท่านก็ต้องกลับไปไตร่ตรองดูว่าการวางบทบาทในบางสถานการณ์ทำให้สังคมเข้า ใจผิดและเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ และที่ผ่านมาท่านก็ใช้สิทธิชี้แจงผ่านสื่อเป็นระยะๆ อยู่แล้ว ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าจะเชื่อใครดี เว้นแต่ท่านชี้แจงแล้วสังคมอาจจะไม่เห็นด้วยหรือฟังไม่ขึ้นเท่านั้นเอง
เมื่อ ท่านเลือกเข้ามาคลุกคลีการเมืองท่านก็ต้องยอมรับสัจธรรมพร้อมถูกวิพากษ์ วิจารณ์ได้ตลอดเวลา ส่วนการ เชิญท่าน ว.วชิรเมธี หลวงปู่พุทธะอิสระ หรือท่านจันทร์มาร่วมรายการทางเอเอสทีวีนั้น อยากให้พระพยอมไปดูเนื้อหาการเทศนาธรรมของพระเหล่านี้ด้วยว่าไม่ได้บิดเบือน หรือมุ่งโจมตีเสื้อแดง แต่เป็นความพยายามเตือนสติสังคมหรือแม้แต่คนเสื้อเหลืองของพันธมิตรฯ เองก็ตาม
"ผม เป็นห่วงพระพยอมท่านเป็นพระผู้ใหญ่ ท่านมีสิทธิที่จะพูดเรื่องการเมือง แต่ท่านต้องไม่พูดเท็จหรือพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะท่านเป็นพระห่มผ้าเหลือง และท่านก็คงทราบดีว่าผู้ที่ครองตนในเพศบรรพชิตพูดจาสองแง่สองง่ามก็ผิดศีล หรือเข้าข่ายมุสาได้เช่นกัน" ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าว
ที่มา: เว็บไซต์แนวหน้า, เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น